xs
xsm
sm
md
lg

ศาลายายังไม่วิกฤต หลังแจ้งอพยพ ส่วน “บางเลน” ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครปฐม - ชาวบ้านศาลายา นครปฐม สวดยับหลังเจ้าหน้าที่แจ้งอพยพด่วนเมื่อเย็นวานนี้ ที่แท้อำเภอพุทธมณฑล แจ้งให้เตรียมตัวยกของขึ้นที่สูงหลังพนังกั้นน้ำบางบัวทองแตก ล่าสุดสถานการณ์ยังไม่วิกฤต ส่วนอำเภอบางเลน สุดช้ำ ชาวบ้านจมน้ำเดือนเศษแล้ว ขอรับข้าวสารอาหารแห้งอีกจำนวนมาก

วันนี้ (19 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครปฐม หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า ได้มีการสั่งการให้ประชาชนเร่งอพยพหนีน้ำหาที่ปลอดภัยหลังจากแนวพนักกั้นน้ำของอำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้แตกออกและมีกระแสน้ำจำนวนมากที่กำลังจะไหลเข้ามาในพื้นที่อำเภอพุทธมณฑล ซึ่งทำให้ชาวตำบลศาลายา หลายรายเกิดความวิตกและเร่งเช็คข่าวจนวุ่นวายตลอดช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ จนถีงกลางดึก แต่ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรที่รุนแรงเกิดขึ้น

จากการตรวจสอบพบว่าการแจ้งดังกล่าวเป็นการเตรียมพร้อมสั่งให้ขนของขึ้นที่สูงและให้ประชาชนเตรียมความพร้อมในการอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิงที่จัดไว้หากเกิดสถานการณ์ขึ้นเท่านั้น ยังไม่ได้มีการสั่งแจ้งให้เร่งอพยพแต่อย่างใด เนื่องจากเกิดจากกระแสข่าวลือมาจนทำให้เกิดความสับสน โดยขณะนี้ในพื้นอำเภอพุทธมณฑล นั้นได้มีระดับน้ำสูงขึ้นเพียง 5 เซนติเมตร โดยจากการตรวจสอบคาดว่าปริมาณน้ำหากขึ้นสูงก็ไม่น่าจะเกิน 30 เซนติเมตร ไม่น่าหวง แต่ก็ยังมีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ได้มีการเตรียมสถานที่ต่างๆ ไว้แล้ว หากต้องมีการอพยพจริงก็มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ซึ่งตอนนี้ได้ย้ายผู้ป่วยที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลพุทธมณฑล 14 ราย ไปอยู่ที่ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก พุทธมณฑลสาย 4 จำนวน 12 ราย และโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม 2 ราย และผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็ย้ายขึ้นไปพักรักษาตัวที่ชั้น 2 แล้ว

ส่วนช่วงเช้าวันนี้ ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครปฐม ได้จัดให้มีการประชุมเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ในเขตจังหวัดนครปฐม โดยมี นายธนะกูล ทับทิมไทย หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ นายช่างโยธาอาวุโส เป็นผู้ดำเนินการประชุม โดยเป็นการหาแนวทางเตรียมป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐม และการสรุปสถานการณ์น้ำ ในเขตจังหวัดนครปฐม ซึ่งในขณะนี้ ทางอำเภอพุทธมณฑล ได้ประกาศแจ้งให้ผู้นำชุมชน เร่งทำแนวกั้นน้ำ และเก็บของเตรียมอพยพ ภายใน 24 ชั่วโมง เพราะคาดว่าน้ำจะสูงขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร และ สำหรับศูนย์อพยพของอำเภอพุทธมณฑล จัดไว้ 2 แห่ง คือ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ตำบาลศาลายา รองรับได้ 1,000 คน และรถอีก 400 คัน โทร.084-662-6298 และ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตำบลศาลายา รองรับได้ 500 คน และรถ 400 คัน

ด้าน นายมงคล ธรรมกิตติคุณ นายอำเภอสามพราน ได้ลงพื้นที่หมู่บ้านหัวไทร หมู่ที่ 4 ตำบลหอมเกร็ด อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม มีทางด้านออกตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพ และยาสามัญประจำบ้าน ให้กับผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ต่อจากนั้นเดินทางมาตรวจการขุดลอกคลองลัดท่าคา จากนั้นได้ลงเรือยางออกตรวจสำรวจการขุดลอกคลอง ซึ่งมีระยะทาง 1.3 กิโลเมตรหลังจากที่กองทัพบก โดยพลโทนิพนธ์ ปานมงคล เจ้ากรมการทหารช่าง จากจังหวัดราชบุรี ได้นำกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รถแบ็กโฮมาขุดลอกคลองลัด โดยการขุดลอกคลองลัดนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 19 ตุลาคม ไม่เกิน 20 ตุลาคมนี้

ส่วนที่ หมู่บ้านไผ่เจดีย์ อำเภอกำแพงแสน บ้านเรือนกว่า 80 หลัง ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมกลางดึก ต้องลุกขึ้นมาขนสิ่งของกันโกลาหล ขณะที่อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านถูกงูกัดต้องนำส่งโรงพยาบาลด่วน ต่อมาทรายชื่อคือ นางเสริม สุขพรหม อายุ 67 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ตำบลดอนข่อย ที่กำลังคอยช่วยเหลือลูกบ้านที่ถูกน้ำท่วมอยู่ โดยได้กล่าวว่าน้ำได้ทะลักเข้าท่วมเมื่อกลางดึกเวลา 24.00 น. ชาวบ้านต่างต้องตกใจและต้องตื่นขึ้นมาช่วยกันขนสิ่งของขึ้นไว้ที่สูง บ้านบางหลังเป็นสองชั้นก็ย้ายขึ้นไปไว้ชั้นบน ส่วนบ้านชั้นเดียวก็ถูกน้ำท่วมทั้งหมด สุกรที่เลี้ยงไว้ก็ต้องช่วยกันนำออกมาไว้ข้างถนน ที่ออกมาไม่ทันก็ยังอยู่ในน้ำ รวมทั้งบ้านเทิดไท้ที่ทางรัฐบาลสร้างให้ก็ถูกน้ำท่วมด้วย และในขณะที่เกิดเหตุน้ำทะลักข้าท่วม นายวิสุทธิ์ สุขพรหม อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก็ได้ออกมาเปิดประตูบ้าน เพื่อจะขนย้ายสิ่งของ ก็ได้ถูกงูไม่ทราบชนิดกัดเข้าที่ขา ก่อนที่จะมีชาวบ้านช่วยกันนำส่งยังโรงพยาบาลกำแพงแสน ซึ่งแพทย์กำลังรอดูอาการ และหลังเกิดเหตุการณ์ได้มีหน่วยบรรเทาภัย มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต. และปลัดอำเภอกำแพงแสน จัดเจ้าหน้าที่เข้ามาให้การช่วยเหลือเบื้องต้น และได้มีการจัดสถานที่ให้ผู้ประสบภัยไปอยู่ที่ศาลาเอนกประสงค์ของวัดบ่อน้ำจืด ในเบื้องต้น

ด้าน นายแพทย์ มนตรี บุญญเลสนิรันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลห้วยพลู อำเภอนครชัยศรี เปิดเผยว่า โรงพยาบาลห้วยพลูเป็นโรงพยาบาลที่มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำท่าจีน ซึ่งเป็นบริเวณคุ้งน้ำที่จะต้องรับน้ำโดยตรงหากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและแรงขึ้น จนถึงขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าสถานการณ์น้ำท่วมในปี 2549 ถึง 10 เซนติเมตร คืออยู่ที่ระดับ 78 เซนติเมตร และทางโรงพยาบาลก็ได้นำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวกั้นน้ำสูงประมาณ 1 เมตร เพื่อรองรับปริมาณที่เพิ่มขึ้นแล้ว หากปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าระดับ 1 เมตร ทางโรงพยาบาลก็จะต้องเพิ่มแนวกั้นน้ำเฉพาะตัวอาคารของหน่วยให้บริการ พร้อมทั้งทำการขนย้ายอุปกรณ์การแพทย์และเครื่องเวชภัณฑ์ไว้บนที่สูงที่ปลอดภัยจากน้ำท่วม

และในส่วนของแผนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยนั้น ทางโรงพยาบาลได้ทำการส่งต่อผู้ป่วยหนักไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อมและปลอดภัยจากน้ำท่วม ส่วนผู้ป่วยทั่วไปทางโรงพยาบาลก็ได้จัดให้พักรักษาตัวอยู่บริเวณตั้งแต่ชั้น 2 ของอาคารผู้ป่วย ในส่วนของเครื่องเวชภัณฑ์อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์นั้นทางโรงพยาบาลก็ได้สต็อกไว้ใช้อย่างเพียงพอหากสถานการณ์เริ่มวิกฤติ และในการให้บริการด้านการแพทย์นั้นขณะนี้ทางโรงพยาบาลก็ยังให้บริการได้ตามปกติอยู่

ที่ตำบลบางแก้ว อำเภอนครชัยศรี มีระดับน้ำท่วมสูงราว 601 เซนติเมตร ชาวบ้านได้พยายมขอทรายเพื่อใส่กระสอบนำไปทำแนวป้องกันบ้านเรือน แต่ไม่สามารถหาได้

ขณะที่ ภายในตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน ซึ่งติดกับ อำเภอลาดหลุมแก้ว และ ไทรน้อย พื้นที่ที่กำลังประสบปัญหาน้ำขึ้นสูง พบว่า มีระดับน้ำท่วมสูงเพิ่มขึ้น ในท้องนาสูงกว่า 2 เมตรและมีประชาชนเดือนร้อนกว่า 7 พันคน ถนนตัดขาดโดยสิ้นเชิง โทรศัพท์บ้าน ไม่สามรถใช้ได้ ทางองค์การบริการส่วนตำบลได้แจ้งไปยังจังหวัดนครปฐม เพื่อขอรับถุงยังชีพจำนวน 3,500 ชุดแต่ขณะนี้ได้รับเพียง 100 ชุด ยังต้องการความช่วยเหลืออีกเป็นจำนวนมาก เพราะทนอยู่กับสภาพน้ำท่วมเป็นเวลานานนับเดือนแล้ว โดยสิ่งที่ต้องการมากตอนนี้คือน้ำดื่มเนื่องจากตู้กดน้ำดื่มด้วยเงินสดนั้นจมอยู่ในน้ำ อาหารการกินยังต้องขอแบ่งปันกันเองอยู่ในพื้นที่ ซึ่งในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีระดับน้ำสูงขึ้นอีกหลายเซ็นติเมตรและมีลมแรงทำให้น้ำเกิดคลื่นตีเข้าบ้านเรือน มีนาข้าวเสียหายและผักที่ยังไม่สามารถลงแปลงปลูกได้ โดยชาวบ้านรอความหวังให้น้ำลดและมีหน่วยงานราชการเข้ามาช่วยอย่างจริงจัง

นายนิมิต จันทน์วิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการตรวจเยี่ยมให้กำลังราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน ซึ่งมีประชาชนกว่า 20 ครัวเรือน 120 คนต้องอพยพหนีน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งจากคลองพระพิมลเข้าท่วมบ้านเรือน มาอาศัยอยู่บริเวณสะพานบางภาษี

ต่อจากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้เดินทางไปให้กำลังใจราษฎร หมู่ที่ 9 ตำบลบัวปากท่า อำเภอบางเลน ที่อพยพมาอาศัยอยู่บริเวณริมถนนลาดบัวหลวง-วัดไผ่โรงวัว ประมาณ 50 ครอบครัว 150 คน และคาดว่าจะมีราษฎรทยอยอพยพขึ้นมาอีก เนื่องจากน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ไร่นาสูงประมาณ 1 เมตร จากคลองญี่ปุ่นใต้ที่เชื่อมมาจากคลองพระยาบรรลือ จากการสอบถามราษฎรนั้นมีความต้องการเรือเพื่อใช้ในการสัญจรขนส่งอาหาร และอุปกรณ์ยังชีพ

ส่วน นายแพทย์ สมชัย ภิญโญพรพาณิช อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานบริการสุขภาพ และแกนนำชุมชนรองรับสถานการณ์อุทกภัยนครปฐม โดยมี ดร.นพ.ถวัลย์ พบลาภ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ให้การต้อนรับ พร้อมฟังการบรรยายสรุปของผู้อำนวยการโรงพยาบาลต่างๆในจังหวัดนครปฐม ในการเตรียมความพร้อมกับสถานการณ์เหตุอุทกภัย

โดยภาพรวมสถานบริการของโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดนครปฐม ได้มีการเตรียมความพร้อมทุกด้านแล้ว ทั้งเตียงผู้ป่วย ยาเวชภัณฑ์ รวมทั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทั้งการจัดศูนย์ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุข มีการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในทุกสถานบริการ โดยเฉพาะในพื้นที่น้ำท่วม การจัดหาเวชภัณฑ์สนับสนุนให้กับสถานบริการในพื้นที่เสี่ยงในทุกอำเภอ การแจกยาเวชภัณฑ์ รวมทั้งการซ้อมแผนรับผู้ป่วยฉุกเฉิน การเตรียมความพร้อมของเรื่องเรือและรถหากเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่นั้นๆ หลังฟังการบรรยายเสร็จ นายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิช อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และคณะได้ตรวจดูความพร้อมของสถานที่ต่างๆภายในโรงพยาบาลนครปฐมด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น