นครปฐม - เมืองเจดีย์ใหญ่วิกฤตหนัก พุทธมณฑล นครชัยศรี บางเลน สามพราน จมบาดาล ชาวบ้านแห่อพยพออกจากพื้นที่ หวั่นคืนนี้ตี 2 มวลน้ำทะลักท่วมซ้ำ ขณะหน่วยงานประสานภาครัฐล้มเหลวการให้ความช่วยเหลือแจกของยังชีพบ้อท่าไม่ถึงมือชาวบ้าน
วันนี้ (31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์สภาพอุทกภัยที่เกิดขึ้นทั้ง 7 อำเภอในจังหวัดนครปฐม โดยมีอำเภอพุทธมณฑล บางเลน นครชัยศรี และสามพราน เป็นพื้นที่ที่น่าห่วงเนื่องจากระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นจากทุกพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำท่าจีน รวมถึงประตูระบายน้ำ และคลองต่างๆ ที่มีระดับน้ำท่วมสูงขึ้นต่อเนื่อง การจราจรหรือสัญจรบนถนนสายรองและสายหลักหลายแห่งปิดกั้นไม่สามารถเดินทางได้
โดยที่อำเภอนครชัยศรี น้ำจากแม่น้ำท่าจีนได้เอ่อเข้าท่วมถนนเข้าหลายสายที่มุ่งเข้าสู่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดยที่ถนนเส้นหลักจากถนนเพชรเกษมถึงตลาดท่านา ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร มีน้ำท่วมทั้งเส้นทางสูงกว่า 60 เซนติเมตร จนรถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ นอกจากนี้ยังเข้าท่วมร้านค้าและบ้านเรือนที่อยู่สองฝั่งทั้งหมด อีกทั้งเส้นทางถนนเทศบาล 1 บางกระเบา ก็มีน้ำท่วมสูงประมาณ 70 เซนติเมตร จนรถเล็กไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้รถที่จะวิ่งเข้าอำเภอนครชัยศรี และอำเภอดอนตูม เหลือแค่เส้นถนนพุทธมณฑลสาย 8 ต้องเดินรถทางเดียว
ส่วนหน้าศูนย์ราชการอำเภอ และที่ตลาดท่านา ได้มีน้ำรั่วซึมและมีน้ำเข้าท่วมขังหมดแล้วหลังจากทางเทศบาลตำบลนครชัยศรีได้พยายามทำแนวเสริมป้อนกัน แต่ก็ไม่สามารถทานระดับน้ำไว้ได้ และเพิ่มเครื่องสูบน้ำอีกนับ 10 ตัว เพื่อเร่งระบายและป้องกันแนวกระสอบทราย ซึ่งในการนี้เขตพื้นที่อำเภอนครชัยศรีได้ถูกน้ำท่วมไปแล้วกว่า 20 ตำบล บางพื้นที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร โดยเฉพาะที่ตำบลสำโรง ตำบลลานตากฟ้า ตำบลวัดแค ตำบลสัมปทวน ตำบลงิ้วราย ตำบลไทยาวาส ตำบลนครชัยศรี ตำบลบางกระเบา ตำบลขุนแก้ว และตำบลดอนแฝก ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะเป็นเส้นทางของมวลน้ำจากแม่น้ำท่าจีน และมวลน้ำที่มาทางคลองโยง และคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งในพื้นที่ตำบลลานตากฟ้า ตำบลงิ้วราย และตำบลไทยาวาส มีหลายหมู่บ้านและหลายชุมชน ได้ย้ายผู้คนออกจนหมดแล้วเนื่องจากบางที่มีน้ำท่วมสูงเป็นอย่างมาก โดยมีจุดรองรับที่ผู้อพยพมาปักหลักอาศัยอยู่ที่วัดลานตากฟ้า และขอให้กำลังเจ้าหน้าที่ช่วยอพยพออกมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนภายในศูนย์พักพิงชั่วคราววิทยาลัยการอาชีพบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี ซึ่งขณะนี้มีผู้อาศัยอยู่จำนวน 195 คนแล้ว ทั้งยังพบว่าขณะนี้ระดับโดยรอบศูนย์พักพิงได้เพิ่มสูงขึ้นมาก หากเข้าท่วมภายในศูนย์ฯ คงจำเป็นย้ายผู้ประสบภัยไปยังศูนย์ที่ปลอดภัยกว่า
นายภูวเดช อินทร์พรหม ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 195 คน ซึ่งผู้ประสบภัยเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นชาวอำเภอนครชัยศรี ส่วนหนึ่งอพยพมาจากอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และอีกส่วนหนึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวที่มาทำงานในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี และเนื่องจากระดับน้ำโดยรอบวิทยาลัยการอาชีพบางแก้วฟ้าได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน อาจจะทำให้น้ำเข้าท่วมขังภายในศูนย์พักพิงแห่งนี้ และจะต้องทำการอพยพผู้ประสบภัยทั้งหมดไปยังวิทยาลัยเทคนิคนครปฐม หรือทางวิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม ซึ่งทั้งสองวิทยาลัยนี้ก็พร้อมที่รองรับ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหล่านี้ต่อไปอีกครั้งหมายถึงจะมีการอพยพคนออกจากพื้นที่เป็นรอบที่สองหลังมีกระแสข่าวระดับน้ำยังท่วมสูงต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ได้นำกำลังอาสาสมัครและร่วมกับเจ้าหน้าที่ของอำเภอนครชัยศรี ได้นำกำลังอพยพประชาชนในหลายๆ พื้นที่ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยถนนสายนครชัยศรี ศาลายานั้น ถูกตัดขาดจากกระแสน้ำสูง และต้องการระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปตลอดเวลา
ที่อำเภอบางเลน สถานการณ์น้ำท่วมขังยังคงวิกฤตต่อเนื่อง ถนนสาย 346 บางเลน-ลาดหลุมแก้ว บางช่วงรถเล็กหมดสิทธิ์สัญจร และระดับน้ำยังทั่วขังต่อเนื่อง โดยจากตรวจสอบพบกับชาวบ้านในตำบลบางภาษี นราภิรมณ์ บางหลวง และทั้ง 18 ตำบล จมบาดาลแล้วทั้งหมด ที่ตำบลนราภิรมย์ระดับน้ำสูงกว่า 3 เมตร เช่นเดียวกับตำบลบางบไทรป่าที่มีสภาพไม่ต่างกัน
ส่วนที่ตำบลบางภาษี ชาวบ้านยังคงต้องอดทนและใช่ชีวิตอยู่บนผืนน้ำขนาดใหญ่ที่แปลงจากท้องนาหลายหมื่นไร่ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนทุกครัวเรือน หลายครอบครัวยังไม่ได้รับถุงยังชีพไม่ทั่วถึง และมีผู้สูงอายุหลายรายยาเกี่ยวกับโรคประจำตัวโดยเฉพาะความดันและเบาหวานกำลังจะหมดลง
ก่อนหน้านี้ อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา มูลนิธิชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม โดย ม.ร.ว.ศรีเฉลิม กาญจนภู ผู้อำนวยการโครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา มูลนิธิชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม ได้ลงพื้นที่สำรวจชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือนที่มีน้ำท่วมขังอยู่กว่า 2-3 เมตร ในพื้นที่ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน ซึ่งมีประชาชนประสานของความช่วยเหลือ โดยได้นำน้ำดื่มถุงยังชีพและเรือไปมอบให้ชาวบ้าน โดยพบว่ามีความต้องการที่จะใช้น้ำดื่มและส้วมเคลื่อนที่เป็นอย่างมาก จากนั้นได้สอบถามถึงสุขภาพของประชาชน โดยนำเรื่องเข้าประชุมเพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในระยะสั้น และระยะยาวต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนที่ยังได้รับการช่วยเหลือที่ไม่ทั่วถึงต่างยกมือท่วมหัว และเปล่งเสียงทรงพระเจริญ หลังทราบว่ามูลนิธิฯ ได้นำถุงยังชีพไปให้เป็นหน่วยงานแรกหลังรอคอยมานานนับเดือน
ส่วนที่อำเภอสามพราน ที่เกิดความขัดแย้งของประชาชนเมื่อวานนี้เมื่อชาวบ้านของหมู่ที่ 7 กับ หมู่ 8 ที่มีการยกพวกตะลุมบอนกัน หลังจากไม่พอใจที่มีการวางท่อระบายน้ำไปยังพื้นที่ ร้อนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว ต้องมาระงับเหตุ แต่เกิดเหตุได้บานปลายจึงต้องประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วทั้งจังหวัดไประงับเหตุ ขณะนี้เหตุการณ์ได้สงบลงแล้วเนื่องจากน้ำได้เอ่อท่วมขังทั้ง 2 หมู่บ้านเท่าเทียมกัน
พ.ต.ต.เชิดชัย ป้อชำนิ สว.สส.สภ.โพธิ์แก้ว เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยเป็นระยะ เพื่อป้องกันความขัดแย้งของชาวบ้าน ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ น่าจะเกิดจากความเครียดที่สะสม แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังไว้ตลอด โดยตอนนี้จะขอประสานไปทางจังหวัดในการสนับสนุนเรือสำหรับตรวจการณ์ทางน้ำให้กับบ้านเรือนของประชาชน ส่วนทางบกทำเป็นปกติ และประชาชนที่จะเดินทางเข้าออกกรุงเทพฯ ต้องใช้ถนนเพชรเกษมเพราะยังไม่มีน้ำท่วมขัง
ล่าสุด ขณะนี้ จังหวัดนครปฐม มีพื้นที่น้ำท่วมรวมทั้งสิ้น 578,897 ไร่ สามารถแยกพื้นที่น้ำท่วมเป็นรายอำเภอได้ดังนี้ คือ อำเภอบางเลน จำนวน 323,255 ไร่, อำเภอกำแพงแสน จำนวน 67,366 ไร่, อำเภอนครชัยศรี จำนวน 71,708 ไร่, อำเภอดอนตูม จำนวน 64,975 ไร่, อำเภอพุทธมณฑล จำนวน 33,500 ไร่, อำเภอสามพราน จำนวน 11,243 ไร่ และอำเภอเมืองนครปฐม จำนวน 6,850 ไร่ รวมปริมาณน้ำที่ไหลเข้า จ.นฐ.ทั้งหมด ปริมาณน้ำ 105.87 ล้าน ลบ.ม./วัน หรือ 1225.65 ลบ.ม./วินาที แต่น้ำไหลออกจาก จ.นฐ. ที่ อ.นครชัยศรี ปริมาณน้ำค่าเฉลี่ย 54.75 ล้าน ลบ.ม./วัน หรือ 633.69 ลบ.ม./วินาที สรุป ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าในพื้นที่มากกว่าปริมาณน้ำที่ไหลออกจากพื้นที่ จ.นฐ.จำนวน 51.15 ล้าน ลบ.ม./วัน พื้นที่น้ำท่วมเพิ่มขึ้น 43,935 ไร่
โดยขณะนี้ประชาชนทุกอำเภอต่างผวากับข่าวที่แพร่สะพัดออกไปว่า ในช่วงเวลา 02.00 น.ของคืนนี้น้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้ง ทำให้ชาวอำเภอนครชัยศรี สามพราน และอำเภอบางเลน รวมถึงอำเภอเมืองนครปฐม ต่างเข้าจับตาข่าวทางสื่อต่างๆ เนื่องจากไม่สามารถรอรับความชัดเจนจากทางจังหวัดได้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากมีการประกาศวันหยุดยังมีข้าราชการบางหน่วยงานได้หยุดงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่สมควรจะมาปฏิบัติหน้าที่ในช่วงวิกฤตในจังหวัด และข้าราชการะดับสูงบางคนได้แจ้งหมายเลขไว้ให้ประสานติดต่อก็ปิดเครื่อง หรือบางรายก็แสดงความไม่พอใจกับสื่อที่โทร.มาสอบถามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ทำให้ตอนนี้การสื่อสารถึงความเชื่อมโยงในการช่วยเหลือและแก้ปัญหาติดขัดในหลายส่วน
รวมถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ยังมีการนำถุงยังชีพมาเก็บไว้ไม่แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านทั้งๆ ที่มีของมาถึงที่หน่วยงาน แต่ก็ยังไม่แจกจ่ายให้ประชาชนที่เดือดร้อน หรือส่งต่อให้กับพื้นที่ที่เดือดร้อน โดยอ้างว่ารอให้พื้นที่ตนเองท่วมก่อนถึงจะแจกจ่ายเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ของยังชีพไม่ถึงมือประชาชน ซึ่งตอนนี้ส่วนใหญ่ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มจิตอาสาในการให้ความช่วยเหลือนำถึงยังชีพส่งถือมือชาวบ้านที่เดือดร้อนในขณะนี้