บุรีรัมย์ - คณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าว จ.บุรีรัมย์ ออกตรวจโรงสีข้าวที่เข้าร่วมโครงการ ป้องกันเอาเปรียบเกษตรกร ขณะเปิดรับจำนำวันแรก 4 โรงเงียบเหงา ยังไม่มีเกษตรกรนำข้าวมาเข้าร่วมโครงการฯ แม้แต่รายเดียว พร้อมสั่งอำเภอชายแดนตั้งด่าน 24 ชม.ป้องกันลักลอบนำข้าวเขมรมาปลอมปนสวมสิทธิ์
วันนี้ (7 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าวระดับจังหวัด ที่จ.บุรีรัมย์ ได้ออกตรวจสอบมาตรฐานเครื่องชั่ง และเครื่องตรวจวัดคุณภาพข้าว รวมทั้งสต็อกข้าวในโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร
ขณะที่บรรยากาศตามโรงสีทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย อ.เมือง 2 แห่ง, อ.สตึก 1 แห่ง และ อ.พลับพลาชัย อีก 1 แห่ง ที่เปิดรับจำนำในวันแรกเงียบเหงา ยังไม่มีเกษตรกรนำข้าวมาเข้าร่วมโครงการแม้แต่รายเดียว คาดว่า ข้าวของเกษตรกรอาจยังมีความชื้นสูงเนื่องจากถูกน้ำท่วม และบางพื้นที่ยังไม่เก็บเกี่ยว เพราะข้าวยังไม่แก่สมบูรณ์เต็มที่ ส่วนโรงสีอีก 19 แห่งที่แจ้งความจำนงพร้อมเข้าร่วมโครงการ คาดว่า จะมีการทยอยเปิดรับจำนำอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการยังได้เน้นย้ำให้ทุกโรงสีที่เข้าร่วมโครงการ ได้ปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด และให้มีการติดสติกเกอร์ ประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการรับจำนำ ราคารับจำนำและราคาเปรียบเทียบ ให้เกษตรกรได้รับทราบอย่างชัดเจน พร้อมทั้งจะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบขั้นตอนการรับจำนำทุกโรงสี เพื่อป้องกันไม่ให้มีการทุจริตในโครงการอย่างเข้มงวดด้วย
ด้าน นายฐานิศร์ น้อยเพ็งค์ ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวภายหลังออกตรวจโรงสีข้าว ว่า หลังจากมีกระแสข่าวได้มีการลักลอบนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเตรียมนำมาปลอมปนในโครงการรับจำนำข้าว ได้กำชับให้อำเภอที่มีพื้นที่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ตั้งด่านตรวจสกัดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคุมเข้มป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดี ฉวยโอกาสลักลอบนำข้าวคุณภาพต่ำจากประเทศเพื่อน มาปลอมปนหรือสวมสิทธิ์ในโครงการรับจำนำ ซึ่งจะสร้างความเสียหายแก่งบประมาณของรัฐได้ หากพบกลุ่มบุคคลดังกล่าวให้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทันที