ปตท.เชื่อคืนภาษีรถคันแรก ส่งผลให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ ศก.ดีขึ้น ระบุ ไม่ทำให้การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นมากนัก เพราะเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก ขณะที่ รมต.เงาด้าน ศก. ห่วงเพิ่มปัญหาจราจร เหน็บ ปชช.กำลังเดือดร้อน แต่ รบ.ดันให้รถคันแรกเป็นนโยบายเร่งด่วน
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลที่จะคืนภาษีรถยนต์คันแรก และลดภาษีนิติบุคคลจากร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 23 นั้น จะทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจดีขึ้น โดยแต่ละปี ปตท.จ่ายภาษี 70,000-80,000 ล้านบาท ซึ่งจะจ่ายลดลงร้อยละ 7 ทำให้มีเงินเหลือไปลงทุนตามแผนงานได้
ส่วนการคืนภาษีรถยนต์ หากทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 500,000 คัน จะทำให้อุตสาหกรรมต่อเนื่อง รวมทั้งเกษตรกรได้รับผลดีไปด้วย เช่น รถยนต์ 1 คัน ใช้ยางรถยนต์ 5 เส้น เท่ากับว่า ยางรถยนต์จะขยายเพิ่มได้อย่างน้อย 2.5 ล้านเส้น และใช้เม็ดพลาสติก 100 กิโลกรัม และคาดว่า จะไม่ทำให้การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นมากนัก เพราะรถที่ได้รับสิทธิ์เป็นรถขนาดเล็ก ไม่เกิน 1,500 ซีซี
ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีเงาด้านเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านเป็นห่วงนโยบายการรับจำนำข้าวเปลือกที่ต้องใช้เงินถึง 400,000 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการทุจริต และเกษตรกรไม่ได้รับผลประโยชน์อย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ ขณะที่เกษตรกรมีปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ รัฐบาลกลับมาเสนอโครงการรถยนต์คันแรก ช่วยให้คนมีรถยนต์ใช้ และเกิดปัญหาจราจรเพิ่มขึ้น
ส่วนโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมาได้ก่อหนี้ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวนกว่า 120,000 ล้านบาท และยังไม่ได้ตั้งงบประมาณชดเชย
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ต้องดูว่ารัฐบาลจะบริหารจัดการสต็อกข้าวเปลือกกว่า 20 ล้านตัน เพื่อไม่ให้ขาดทุนจากราคาตลาดและราคารับจำนำ รวมทั้งการบริหารจัดการข้าวถุงและราคาข้าวถุงได้อย่างไร
สำหรับแนวคิดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในการทยอยลอยตัวราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ภาคขนส่ง และภาคครัวเรือนในปีหน้า จะส่งผลให้ราคาก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และจะทำให้ราคา LPG เพิ่มจาก 260 บาทต่อถัง เป็น 570 บาทต่อถัง ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าประชาชนภาคครัวเรือนควรได้ใช้พลังงานในราคาต้นทุน เพราะเป็นทรัพยากรที่ผลิตได้เองในประเทศ
