ASTVผู้จัดการรายวัน-ชาวนา โรงสี ผู้ส่งออก ผนึกกำลังตั้งไรซ์ บอร์ด หารือกำหนดแนวทางพัฒนาข้าวอย่างยั่งยืนเสนอรัฐบาล งานแรกเตรียมชงรัฐบาลบริหารจัดการสต๊อกข้าวให้โปร่งใส หลังเปิดรับจำนำราคาสูงโด่ง
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมตัวแทนภาคเกษตรเกี่ยวข้องกับข้าวทั้งระบบ ทั้งกลุ่มชาวนา โรงสี และผู้ส่งออก โดยได้เห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมการข้าว (ไรซ์บอร์ด) โดยมีตนเป็นประธาน ส่วนกรรมการเป็นตัวแทนจาก3 ฝ่าย พร้อมกับพิจารณาจัดทำยุทธศาสตร์และกลยุทธ์เพื่อให้การแก้ไขปัญหาข้าวไทยอย่างยั่งยืน โดยมุ่งในเรื่องการผลิต สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงด้านอาหาร โดยจะมีแผนระยะสั้นและระยะยาว เสนอนำเสนอรัฐบาลในโอกาสต่างๆ ต่อไป
สำหรับการประชุมครั้งนี้ หารือกันเรื่องผลกระทบจากโครงการรับจำนำในราคาสูงว่าจะมีทางออกและแนวทางในการเตรียมการรับมือกันอย่างไร โดยมีข้อสรุป คือ ต้องการให้รัฐบาลจัดการสต็อกข้าวให้มีประสิทธิภาพ โดยควรมีการระบายข้าวแบบเปิดประมูลทั่วไป ขายแบบเสรีและโปร่งใส ควรระบายสม่ำเสมอ ซึ่งภายใน 1-2 สัปดาห์ จะนำเสนอกระทรวงพาณิชย์และรัฐบาล เพื่อให้ทราบถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ข้าวในปัจจุบัน
ส่วนแนวคิดที่เสนอให้มีการระบายข้าวเสื่อมสภาพในสต็อกรัฐบาลเพื่อทำอาหารสัตว์นั้น ต้องขึ้นอยู่กับราคาและคุณภาพข้าว ซึ่งในแต่ละปีอุตสาหกรรมอาหารสัตว์จะใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบประมาณ 1 ล้านตัน หากได้ราคาดี ก็ยอมส่งผลดีต่อราคาอาหารสัตว์ที่จะไม่ปรับราคาสูงขึ้น
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในการหารือเพื่อแต่งตั้งไรซ์บอร์ดนั้น ได้มีการถกเถียงกันอย่างมาก โดยเฉพาะประเด็นการรับจำนำข้าวราคาสูง โดยผู้ส่งออกไม่เห็นด้วย เพราะการตั้งราคาสูงจะกระทบต่อการส่งออกข้าวไทย และยังได้มีการแสดงความกังวลถึงราคาข้าวในประเทศที่จะปรับตัวสูงขึ้น โดยการรับจำนำข้าวเปลือกเจ้าตันละ 1.5 หมื่นบาท จะทำให้ข้าวสารปรับราคาเป็นกิโลกรัม (กก.) ละ 24 บาท บวกค่าการตลาดแล้ว ทำให้ราคาขายถึงมือผู้บริโภคจะปรับเป็นกก.ละ 30 บาท
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมตัวแทนภาคเกษตรเกี่ยวข้องกับข้าวทั้งระบบ ทั้งกลุ่มชาวนา โรงสี และผู้ส่งออก โดยได้เห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมการข้าว (ไรซ์บอร์ด) โดยมีตนเป็นประธาน ส่วนกรรมการเป็นตัวแทนจาก3 ฝ่าย พร้อมกับพิจารณาจัดทำยุทธศาสตร์และกลยุทธ์เพื่อให้การแก้ไขปัญหาข้าวไทยอย่างยั่งยืน โดยมุ่งในเรื่องการผลิต สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงด้านอาหาร โดยจะมีแผนระยะสั้นและระยะยาว เสนอนำเสนอรัฐบาลในโอกาสต่างๆ ต่อไป
สำหรับการประชุมครั้งนี้ หารือกันเรื่องผลกระทบจากโครงการรับจำนำในราคาสูงว่าจะมีทางออกและแนวทางในการเตรียมการรับมือกันอย่างไร โดยมีข้อสรุป คือ ต้องการให้รัฐบาลจัดการสต็อกข้าวให้มีประสิทธิภาพ โดยควรมีการระบายข้าวแบบเปิดประมูลทั่วไป ขายแบบเสรีและโปร่งใส ควรระบายสม่ำเสมอ ซึ่งภายใน 1-2 สัปดาห์ จะนำเสนอกระทรวงพาณิชย์และรัฐบาล เพื่อให้ทราบถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ข้าวในปัจจุบัน
ส่วนแนวคิดที่เสนอให้มีการระบายข้าวเสื่อมสภาพในสต็อกรัฐบาลเพื่อทำอาหารสัตว์นั้น ต้องขึ้นอยู่กับราคาและคุณภาพข้าว ซึ่งในแต่ละปีอุตสาหกรรมอาหารสัตว์จะใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบประมาณ 1 ล้านตัน หากได้ราคาดี ก็ยอมส่งผลดีต่อราคาอาหารสัตว์ที่จะไม่ปรับราคาสูงขึ้น
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในการหารือเพื่อแต่งตั้งไรซ์บอร์ดนั้น ได้มีการถกเถียงกันอย่างมาก โดยเฉพาะประเด็นการรับจำนำข้าวราคาสูง โดยผู้ส่งออกไม่เห็นด้วย เพราะการตั้งราคาสูงจะกระทบต่อการส่งออกข้าวไทย และยังได้มีการแสดงความกังวลถึงราคาข้าวในประเทศที่จะปรับตัวสูงขึ้น โดยการรับจำนำข้าวเปลือกเจ้าตันละ 1.5 หมื่นบาท จะทำให้ข้าวสารปรับราคาเป็นกิโลกรัม (กก.) ละ 24 บาท บวกค่าการตลาดแล้ว ทำให้ราคาขายถึงมือผู้บริโภคจะปรับเป็นกก.ละ 30 บาท