เชียงราย - ทหาร-ตร.เร่งขยายผลเหตุปะทะเรือจีนขนยาบ้าเกือบล้านเม็ดกลางแม่น้ำโขง ด้านผู้บัญชาการฯภาค 5 สั่งอายัดเรือทันที พร้อมตรวจสอบพัวพันขบวนการเรียกค่าคุ้มครองเหนือสามเหลี่ยมทองคำ และเอี่ยวเครือข่ายในประเทศกลุ่ม ชี้หนีไปได้หลายคน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังกองกำลังผาเมือง ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ นำโดย น.อ.โสภณ รัชตาภิรักษ์ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ,พ.อ.วัชรพงศ์ แก้วแจ้ง ผบ.ทหารพราน 31 ตำรวจน้ำ ตำรวจภูธร ฝ่ายปกครอง ฯลฯ ร่วมกันลาดตระเวนเพื่อป้องกันการลักลอบตามแนวฝั่งชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.เชียงแสน และได้ปะทะกับกองกำลังติดอาวุธบนเรือสินค้าสัญชาติจีนจำนวน 2 ลำชื่อเรือ Yu Xing 8 Hao เรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง ขนาด 300 ตัน และเรือ Hua Ping ขนาด 300 ตันซึ่งบรรทุกสินค้าประเภทกระเทียม แอปเปิ้ลและสาลี่เหมือนเรือสินค้าที่มาจากท่าว้า จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า บริเวณชายแดนไทย-สปป.ลาว เขตบ้านสบรวก ม.1 ต.รอบเวียง อ.เชียงแสน ตรงกันข้ามกับเกาะดอนซาว เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว จนเป็นเหตุให้ฝ่ายตรงกันข้ามเสียชีวิต 1 ศพ รวมทั้งยึดยาบ้าได้กว่า 5 กระสอบรวมจำนวน 950,000 เม็ดนั้น
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อัยการและแพทย์ ได้ทำการตรวจศพผู้เสียชีวิตบนเรือพร้อมปืนอาก้าจำนวน 1 กระบอกแล้วเสร็จแล้ว และได้นำศพไปชันสูตรพลิกศพต่อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ส่วนการสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งคนเรือ กัปตันชาวจีน ฯลฯ ยังไม่ถูกเปิดเผยจากสาธารณชน โดยทาง พล.ต.ปราการ ชลยุทธ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง มีกำหนดจะเดินทางไปตรวจสอบในวันนี้(6 ต.ค.54)
ด้าน พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เดินทางไปตรวจสอบเหตุการณ์บนเรือเรือจีนที่ อ.เชียงแสน แล้ว และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการนำเอาคดีดังกล่าวไปขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศไทยอย่างไร เพื่อจะได้ติดตามจับกุมตามขั้นตอนของกฎหมายไทย
พล.ต.ท.ชัยยะ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเรือบรรทุกสินค้าจีนทั้ง 2 ลำ เป็นเรือที่ถูกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายยึดมาจากพ่อค้าชาวจีน และมาถูกเจ้าหน้าที่ไทยปิดล้อมตรวจค้นหรือไม่ รวมทั้งชายฉกรรจ์ที่อยู่บนเรือและเปิดฉากใช้อาวุธยิงสู้เจ้าหน้าที่ เป็นกลุ่มที่มีประวัติเรียกค่าคุ้มครองปล้นเรือบรรทุกสินค้าในแม่น้ำโขงหรือไม่ด้วย จึงต้องมีการอายัดเรือทั้ง 2 ลำไว้ก่อนและจัดกำลังเจ้าหน้าที่รักษาไว้เพื่อตรวจค้นอย่างละเอียดอีกครั้ง
ขณะเดียวกันเนื่องจากเรือมีขนาดใหญ่และบรรทุกสินค้ามาเต็ม จึงจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียด ว่า มียาเสพติดซุกซ่อนอยู่อีกหรือไม่
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าขณะมีการยิงปะทะกันได้มีเรือเร็วประมาณ 3 - 4 ลำจู่โจมมารับชายฉกรรจ์ในเรือพร้อมกระสอบปุ๋ยอีกหลายใบหลบหนีไปได้ทัน ซึ่งกระสอบปุ๋ยดังกล่าวคาดว่าจะเป็นยาเสพติด จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยที่เข้าออกทางชายแดนด้านแม่น้ำโขงให้เข้มงวดมากขึ้นแล้ว