xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่อหลงกลจ่ายแก๊งรีดแลกสอบบรรจุครูกาฬสินธุ์ เผยตัวแล้ว 20 ราย เร่งหาหลักฐานชง ป.ป.ช.-ดีเอสไอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนิคม  อุปชีวะ  ประธานเครือข่ายภาคประชาชนจ.กาฬสินธุ์ (ขวามือสุด)ยืนยันจะรวบรวมหลักฐานขบวนการเรียกรับสินบนสอบครูศูนย์พัฒนาเด็กต่อเพื่อดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด
กาฬสินธุ์ - เครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาชน จ.กาฬสินธุ์ โชว์หลักฐาน แก๊งรีดเงิน “ครูผู้ดูแลเด็ก” บรรจุเป็นข้าราชการมีผู้เสียหาย 20 ราย ชงต่อให้ ป.ป.ช.-ดีเอสไอ เป็นคดีพิเศษ ด้าน ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ เปิดรับข้อมูลร้องทุกข์ย้ำไม่ต้องลงชื่อจริงนามสกุลจริง เพื่อเปิดกว้างกวาดล้างแก๊งรีด ขณะที่มีข้อมูลแก๊งรีดทำเป็นกระบวนการมีการจัด “นายหน้าระดับบิ๊ก” เรียกรับอย่างเป็นระบบ

จากกรณีที่ นายกสมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์ นำข้อมูลลับเข้าไปเปิดเผยกลางที่ประชุมความมั่นคงจังหวัด ประเด็นการเรียกรับสินบนเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการของครูผู้ดูแลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในจ.กาฬสินธุ์ โดยมีอัตราการเรียกเริ่มตั้งแต่ 300,000 บาท และมีการอ้างถึงบุคคลที่เป็นหนึ่งใน คณะกรรมการท้องถิ่นจังหวัดเป็นผู้เรียกรับ ซึ่ง นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งสอบสวนทันที ตามที่ได้เสนอข้าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (30 ก.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายกรณีการเรียกรับสินบนบรรจุครูผู้ดูแลเด็ก ซึ่งได้สั่งการให้ นายทรงพล จำปาพันธ์ นายปรัชญา จินต์จันทรวงษ์ รองผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ กำกับดูแลรับปัญหาร้องทุกข์ โดยให้เปิดกว้างรับเรื่องร้องทุกข์ ในทุกกรณีไม่จำเป็นจะต้องลงชื่อจริง

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นในส่วนตัวได้รับเรื่องร้องเรียนเหมือนกัน ทางจังหวัดจึงต้องเร่งคลีคลายเรื่องนี้โดยเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้เสียหายเพิ่มไปมากกว่านี้ ผู้สอบบรรจุครูผู้ดูแลเด็กของจ.กาฬสินธุ์จะได้ไม่เดือดร้อนกับการต้องหาเงินมาจ่ายสินบนให้กับผู้ที่แอบอ้างใช้ชื่อ ก.จังหวัดไปหากินเอาเปรียบประชาชน

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้รองผู้ว่าราชการ ทั้ง นายทรงพล จำปาพันธุ์ และ นายปรัชญา จินต์จันทรวงศ์ เข้าไปควบคุมดูแลเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้รวมถึงการเอาผิดของคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ให้ได้ไม่ปล่อยให้ลอยนวล เหมือนกับกรณีทุ่งคลอง ที่ตอนนี้ผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายกำลังถูกำดำเนินคดี ส่วนที่เป็นข้าราชการถูกสั่งออกจากราชการไปแล้วหลายสิบคน

ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับเรื่องมา พบว่า มีการเรียกรับสินบนรายละ 300,000 บาทขึ้นไป เท่าที่รับเรื่องเองและข้อมูลจากผู้ได้รับเรื่องเดียวกันทั้งส่วนรองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอหรือองค์กรเอกชนต่างๆ มีการระบุชัดเจนถึงบุคคลที่เรียกรับสินบนซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมด ซึ่งส่วนตัวรับสายตรงจากครูผู้ดูแลเด็กในพื้นที่ อบต.สมเด็จ อ.สมเด็จ และกำลังขยายไปยังอำเภอต่างๆ ด้วย อีกทั้งยังโยงใยไปถึงกลุ่มขบวนการสินบนทุ่งคลองด้วย

เบื้องต้นได้มีคำสั่งชะลอการประเมินระดับตำบลไปแล้ว เพื่อที่จะรอให้การจัดระบบระเบียบเสร็จสิ้นก่อนจึงจะให้มีการเริ่มดำเนินการประเมินที่จะต้องแล้วเสร็จก่อนเดือนธนวาคม นอกจากนี้จะเร่งใช้สื่อประชาสัมพันธ์ถึงครูทุกคนไม่ต้องจ่ายเงินใดๆ กับการบรรจุครูครั้งนี้ เพราะจังหวัดจะยึดหลักยุติธรรมดำเนินการทั้งหมด โดยเฉพาะคนจนรายได้น้อยต้องมีสิทธิ์ได้รับราชการ การรับราชการไม่จำเป็นต้องเป็นคนรวยเท่านั้น และครู ผดด.ต้องเชื่อมั่นว่าจังหวัดจะดำเนินการด้วยหลักยุติธรรม

ส่วนใครที่จ่ายเงินไปแล้วต้องได้เงินคืน สืบสาวราวเรื่องให้ถึงที่สุดเชื่อมโยงกับใครบ้างต้องมีการสอบสวน นายวิโรจน์ กล่าว

ด้าน นายนิคม อุปชีวะ ประธานเครือข่ายภาคประชาชนจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เท่าที่ดูตัวเลขพบผู้เสียหายตอนนี้จำนวน 20 ราย แต่คาดว่าที่ยังไม่เปิดตัวมีอีกจำนวนมาก เพราะยังเกรงอิทธิพลของผู้เรียกรับสินบนอยู่ และหากเปิดโปงออกมาอาจจะทำให้เงินที่จ่ายไปสูญเปล่าได้

แต่ทั้งนี้ หากมีประกาศผลออกมาแล้วน่าจะมีผู้เสียหายออกมาเปิดตัวเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ ทางเครือข่ายเอง ก็ไม่ต้องการที่จะให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นจึงต้องเร่งระงับป้องปรามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

นายนิคม กล่าวอีกว่า ตอนนี้ได้ส่งเครือข่ายเข้าหากลุ่มผู้ใกล้ชิดก่อนเพื่อหาหลักฐานที่จะนำมายีนยันชัดเจนที่สุด ซึ่งเมื่อได้หลักฐานแล้วจะนำเรื่องส่งถึงจังหวัด และ ป.ป.ช.กลาง และดีเอสไอทันที งานนี้ไม่มีล้มคดีไม่มีมวยล้มแน่นอน โดยก่อนหน้าวงการ กรรมการท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ เคยมีเรื่องอื้อฉาวกรณีสินบนทุ่งคลองมาแล้ว จนกระทั่งมีการสรรหาใหม่วงการนี้ได้มีการล๊อบบี้กันอย่างหนัก เพื่อที่จะได้เข้าไปสู่กระบวนการนี้และผลออกมาก็เป็นกลุ่มเดิมหน้าเดิมถึงแม้ว่าจะมีเอี่ยวกับกรณีสินบนทุ่งคลอง แต่เมื่อมติการสรรหาออกมาเป็นเอกฉันท์ก็จำเป็นจะต้องยอมรับ

ส่วนความผิดก็ไม่สามารถจับมือใครมาดมได้ แต่ในครั้งนี้ผู้เสียหายหลายรายระบุชัดเจนอ้างตัวบุคคลชัดเจน จังหวัดเองควรจะเอาความจริงใจ ความตรงไปตรงมาเป็นเกราะกำลังที่จะคลี่คลายปัญหาสร้างมาตรฐานความบริสุทธิ์ในตัวเองให้เกิดขึ้น และตัวผู้เสียหายเองก็ไม่ควรนิ่งนอนใจควรที่จะออกมาให้ข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อขจัดวงจรอุบาทว์นี้ให้สิ้นซากไป

สำหรับปัญหาแก๊งรีดเงิน ครูผู้ดูแลเด็ก เครือข่ายภาคประชาชน ระบุว่า การจัดตั้งแก๊งรีดมีการวางรูปแบบอย่างเป็นระบบโดยจะอาศัยช่องว่างทางกฎหมายในทุกกรณีและจะใช้เครือข่ายภายใน ซึ่งเป็น ก.อบต.และผู้ทรงคุณวุฒิไปดำเนินการ ที่จะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ใช่ข้าราชการ จากนั้นก็จะวางเครือข่ายให้ นายกเทศบาลตำบล และนายก อบต.จัดการแบ่งสายจัดการเรียกรับเงิน

ซึ่งจะอ้างว่าการจัดเก็บเงินตำแหน่งละ 300,000 บาท เพื่อหล่อเลี้ยงระบบเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่น เนื่องจากงบประมาณไม่มี ซึ่งในจำนวน 362 ตำแหน่ง หากคิดเป็นเงินที่เรียกรับตำแหน่งละ 3 แสนบาท และกรณีที่มีการจ่ายไปแล้วทั้งหมด แก๊งรีดกลุ่มนี้จะรับไปแล้วกว่า 108 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น