พิษณุโลก - ปลัดจังหวัดพิษณุโลกเรียกชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านชุมแสงสงคราม แยกสอบเดี่ยว หาหลักฐานรีดหัวคิวเงินชดเชยค่าน้ำท่วม ล่าสุด มือดีแฉคลิปเสียง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ชุมแสงสงคราม เรียกประชุมลูกบ้าน ขู่ “ถ้าเป็นเหมือนผู้ใหญ่หมู่ 5 เจอลูกปืนกรอกปากแล้ว” แถมย้ำรอบหน้าจ่ายตามจริงหมด ไม่มีจ่าย 2-3 เท่าเหมือนก่อนแล้ว
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (30 ก.ย.) ที่ศูนย์อำนวยการความเป็นธรรม ปกครองจังหวัด ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายวัฒนะ กันนะพันธุ์ ปลัดจังหวัดพิษณุโลก ในฐานะประธานคณะกรรมการ และ พ.ต.อ.มนตรี ชุติพงษ์วิเวท รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก และจ่าจังหวัดพิษณุโลก เป็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการรีดหัวคิวเงินชดเชยน้ำท่วม ซึ่งแต่งตั้งขึ้นโดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้สอบสวนชาวบ้าน ต.ชุมแสงสงคราม ต.บางระกำ และผู้ใหญ่บ้าน ที่ถูกพาดพิงว่า มีพฤติกรรมเรียกเก็บเงินชดเชยค่าน้ำท่วมจากชาวนารายละ 4,000- 30,000 บาทตามที่ชาวบ้านร้องเรียนที่ศูนย์บางระกำโมเดล และศูนย์ดำรงธรรมศาลากลางจังหวัดพิษณุโลกเมื่อเร็วๆ นี้
คณะกรรมการเรียกผู้เสียหาย อาทิ นายเชาว์, นายสุมาลี ฯลฯ มาชี้แจงข้อเท็จจริงถึงการจ่ายเงินค่าหัวคิวน้ำท่วม โดยแยกการสอบสวน นายชูชีพ วงศ์กัณหา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.ชุมแสงสงคราม ทีละชุดว่า มีพฤติกรรมมีการเรียกรับผลประโยชน์ เรียกเก็บเงินจากชาวบ้านหรือไม่
ขณะที่ล่าสุด ได้มีพลเมืองดีจากหมู่ 7 ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ส่งข้อมูลคลิปเสียงในการประชุมที่วัดหนองอ้อ ผ่านสื่อมวลชนหลายสำนัีกในพิษณุโลก ซึ่งเป็นคลิปเสียงบันทึกการประชุมที่นายนาวิน พุ่มนาก ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 เรียกประชุมชาวบ้านเพื่อรับเงินชดเชยค่าน้ำท่วม หลังจากมีคนร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่เกษตรจังหวัดว่า ที่ ต.ชุมแสงสงคราม ต.คุยม่วง มีการรู้กันกับเจ้าหน้าที่ แบ่งเงินชดเชยคนละ 2 ไร่ หรือคนละครึ่งบ้าง
คลิปเสียงดังกล่าว ระบุว่า “คนร้องเรียนจะไม่เข้าวัด ไม่ทำงานส่วนร่วม ท่านก็รู้อยู่ว่าเป็นใคร ผมไม่ใช่นักเลง ถ้าเป็นผู้ใหญ่หมู่ 7 ระวังลูกปืนจะเข้าไปอยู่ในปาก ผมทำประชาคม ท่วมจริง ไม่ท่วมจริง ให้หมด และเรียกสอบทีละคน เพราะมีบางคนไม่เข้าใจ คนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ เพราะมีเรื่องร้องเรียน”
เนื้อหาในคลิปเสียงระบุว่า "นี่เงินจะออกอาทิตย์นี้อยู่แล้ว คนละ 1-2 ไร่ ถ้ารวมกันโกหกทั้งหมู่บ้านเป็นเงินเท่าไหร่ ลองคูณดู การที่ผมให้เงินท่าน ได้มากกว่าท่วมจริงเสียอีก ฤดูปลูกงวดหน้า ผมขอบอกได้เลย ตามจริงทั้งหมด รอบหน้าจริงหมด ส่วนที่เคยให้ 2-3 เท่า ก็ใช้กันไปหมดแล้ว”
นอกจากนี้ ยังมีเสียงพูดในเวทีการประชุมเดียวกันต่ออีกว่า ท่านใดยืนยันแบบเดิมให้ลงชื่อวันนี้ แต่ถ้าคนร้องเรียน รอการตรวจสอบ เขาจะมาตรวจสอบตามความจริง รอไปก่อน เพื่อไม่มีใครได้ไม่กระทบ เราจะมีแบบสอบถาม เขียนที่บ้านหนองอ้อ หมู่ 7 ต.ชุมแสงสงคราม โดยขอรับรอบว่า พื้นที่เสียหาย เป็นความจริง และจะไม่มีการร้องเรียนใดๆ จนเป็นผลกระทบกับหมู่บ้าน ใครไม่เข้าใจ ผมจะคุยส่วนตัว
“ถ้าเรื่องบ้านลำเอียง มีเรื่องออกมา ไม่อยากตำหนิ ใครก็ชอบความถูกต้อง บางคนไม่ได้หว่าน ผมก็ให้หมดทุกคน คนที่ร้องเรียนญาติพี่น้อง ท่านแจ้งตามจริงใหม่ คนที่แจ้งตามจริงจะแยกไม่ให้ตัดเงินแม้แต่ไร่เดียว งานเดียว จะได้ตามกฎเกณฑ์หรือไม่ ท่านก็วิ่งเอาเอง ความถูกต้องใครก็ชอบ ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ บอกแล้ว อยู่หมู่บ้านเดียวกันก็ต้องไปด้วยกัน ในทิศทางเดียวกัน การทำงานผมไม่มีพวก ผมให้หมด ถ้าใครร้องเรียนให้ยกมือขึ้นได้เลย ผมไม่ทำอะไรท่านหรอก ผมจะแต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้ตรวจสอบประจำหมู่บ้าน ถามว่า ใครกล้าแสดงตนไหม”
และคลิปเสียงท้ายสุดก่อนจบการประชุม ได้มีการระบุว่า “อะไรพอผ่านได้ก็ผ่านเพื่อประโยชน์คนหมู่มาก ถ้าคนส่วนใหญ่ชอบความถูกต้องเหมือนกันก็เป็นการดี เรื่องอย่างนี้พูดมากไม่ดี ความดันจะขึ้น คนเรามีขีดจำกัด ผมไม่ใช่คนดีคนหนึ่ง ท่านไม่เลือกผม แต่ผมไม่มีคู่แข่ง จึงเป็นผู้ใหญ่บ้าน เพราะฉะนั้นขอให้ทุกอย่างจบ”
ประมวลข่าว “บางระกำโมเดล” แก้ปัญหาน้ำท่วมได้จริงหรือ!?