ASTVผู้จัดการออนไลน์ - โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา จับมือพันธมิตรผุดต้นแบบโรงเรียนสีขาว ภาคตะวันออก ขานรับนโยบายรัฐบาลปฏิบัติการเชิงรุกแก้ปัญหายาเสพติดในโรงเรียน ควบคู่การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม แจงเหตุอาจารย์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับนักเรียนได้สั่งพักงานไปแล้ว
นายภราดาศิริชัย ฟอนซีกา ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา เปิดเผยถึง โครงการ อัสสัมชัญศรีราชา โรงเรียนสีขาว นำร่องขานรับนโยบายรัฐบาลพลังแผ่นดินแก้ปัญหายาเสพติด เป็นหนึ่งในโรงเรียนของมูลนิธิภราดาคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ที่ตระหนักถึงปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน และความสำคัญของนโยบายรัฐบาลตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด
โดยคาดว่า จะเป็นต้นแบบป้องกันและรักษาคุณภาพที่ดีของเด็กและเยาวชนในสถาบันการศึกษาต่างๆ ของมูลนิธิฯ ทั่วประเทศ ประกอบกับ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา อาจกำลังตกเป็นพื้นที่เป้าหมายของกลุ่มมิฉาชีพและขบวนการค้ายาเสพติด เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ จึงทำให้โรงเรียนเพิ่มความเข้มข้น และต่อยอดโครงการโรงเรียนสีขาว ในการสร้างการรับรู้ ให้ตระหนักต่อปัญหา และความเสียสละของบุคลากรทุกภาคส่วนของโรงเรียนในการดูแลปกปักษ์รักษาคุณภาพเด็กนักเรียนทุกคนด้วยการจับมือสร้างเครือข่ายโซเชียลเนตเวิร์คลดปัญหายาเสพติดกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ป.ป.ส.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นศูนย์รวมของข้อมูลเฝ้าระวังและสะท้อนสถานการณ์ปัญหายาเสพติดและปัญหาสังคมด้านอื่นๆ อย่างแท้จริงให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประกอบการพิจารณาแก้ไขตามยุทธศาสตร์แนวนโยบายแห่งรัฐว่าด้วยการแก้ไขปัญหายาเสพติด
โดยทางโรงเรียนดำเนินการจัดทำระบบฐานข้อมูลเครือข่ายพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด การฝึกอบรมคณะครู บุคลากรและนักเรียนโดยคณะวิทยากรจากกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ปปส. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น การทำกิจกรรมเชิงบวก เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้กับนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนและเด็กเยาวชนของสถาบันการศึกษาต่างๆ ในภูมิภาคตะวันออกของประเทศ การจัดทำโครงการ บ้านหลังเลิกเรียน เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเลือกตามความสนใจของเยาวชนภายหลังเลิกเรียน และการแต่งตั้งคณะทำงาน โดยคณะครูรับผิดชอบงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในโรงเรียนโดยตรงและจริงจังอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา ชี้แจงถึงกรณีที่ผู้ปกครองนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา ร้องเรียนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของอาจารย์ท่านหนึ่งนั้น ขณะนี้คณะกรรมการโรงเรียนได้ลงโทษด้วยการตักเตือนและสั่งให้พักงานเป็นเวลา 2 เดือน พร้อมระงับจ่ายเงินค่าตอบแทนตลอดระยะเวลาที่มีการพักงานแล้ว ซึ่งเป็นไปตามกฏระเบียบข้อบังคับของโรงเรียน ทั้งนี้ หากพบว่า อาจารย์คนดังกล่าว ยังมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอีก ทางคณะกรรมการก็จะลงโทษขั้นเด็ดขาดโดยการให้ออกจากงานโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ
ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ ยังกล่าวว่า ในการลงโทษบุคลากรนั้น เรายึดตามข้อเท็จจริง และกฏระเบียบข้อบังคับเป็นหลัก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องแยกเป็น 2 กรณีคือ การปฏิบัติหน้าที่ และการลงโทษ ว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากอะไร ซึ่งในรายละเอียดแล้วทางโรงเรียนไม่ต้องการกล่าวโทษเด็กในการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะและใช้วาจาก้าวร้าว จนทำให้อาจารย์ผู้สอนไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ แต่หากมองอีกมุมก็ต้องบอกว่า การกระทำของผู้เป็นอาจารย์ในการลงโทษเด็ก ก็ไม่ควรใช้ความรุนแรงกับเด็ก เพราะเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง โดยทางโรงเรียนก็ได้มีบทลงโทษไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางผู้บริหารโรงเรียนให้ความสำคัญสำหรับเรื่องนี้และไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก โดยเข้มงวดในการคัดสรรบุคคลากรที่ต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ รวมถึงคุณธรรมและจริยธรรมซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเด็กนักเรียนและในฐานะพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ และแบบอย่างที่ดีแก่ลูกศิษย์ ทั้งนี้ ทางโรงเรียนพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ และข้อร้องเรียนจากผู้ปกครองทุกคนอย่างจริงใจ
นายภราดาศิริชัย ฟอนซีกา ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา เปิดเผยถึง โครงการ อัสสัมชัญศรีราชา โรงเรียนสีขาว นำร่องขานรับนโยบายรัฐบาลพลังแผ่นดินแก้ปัญหายาเสพติด เป็นหนึ่งในโรงเรียนของมูลนิธิภราดาคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ที่ตระหนักถึงปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน และความสำคัญของนโยบายรัฐบาลตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด
โดยคาดว่า จะเป็นต้นแบบป้องกันและรักษาคุณภาพที่ดีของเด็กและเยาวชนในสถาบันการศึกษาต่างๆ ของมูลนิธิฯ ทั่วประเทศ ประกอบกับ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา อาจกำลังตกเป็นพื้นที่เป้าหมายของกลุ่มมิฉาชีพและขบวนการค้ายาเสพติด เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ จึงทำให้โรงเรียนเพิ่มความเข้มข้น และต่อยอดโครงการโรงเรียนสีขาว ในการสร้างการรับรู้ ให้ตระหนักต่อปัญหา และความเสียสละของบุคลากรทุกภาคส่วนของโรงเรียนในการดูแลปกปักษ์รักษาคุณภาพเด็กนักเรียนทุกคนด้วยการจับมือสร้างเครือข่ายโซเชียลเนตเวิร์คลดปัญหายาเสพติดกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ป.ป.ส.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นศูนย์รวมของข้อมูลเฝ้าระวังและสะท้อนสถานการณ์ปัญหายาเสพติดและปัญหาสังคมด้านอื่นๆ อย่างแท้จริงให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประกอบการพิจารณาแก้ไขตามยุทธศาสตร์แนวนโยบายแห่งรัฐว่าด้วยการแก้ไขปัญหายาเสพติด
โดยทางโรงเรียนดำเนินการจัดทำระบบฐานข้อมูลเครือข่ายพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด การฝึกอบรมคณะครู บุคลากรและนักเรียนโดยคณะวิทยากรจากกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ปปส. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น การทำกิจกรรมเชิงบวก เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้กับนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนและเด็กเยาวชนของสถาบันการศึกษาต่างๆ ในภูมิภาคตะวันออกของประเทศ การจัดทำโครงการ บ้านหลังเลิกเรียน เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเลือกตามความสนใจของเยาวชนภายหลังเลิกเรียน และการแต่งตั้งคณะทำงาน โดยคณะครูรับผิดชอบงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในโรงเรียนโดยตรงและจริงจังอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา ชี้แจงถึงกรณีที่ผู้ปกครองนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา ร้องเรียนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของอาจารย์ท่านหนึ่งนั้น ขณะนี้คณะกรรมการโรงเรียนได้ลงโทษด้วยการตักเตือนและสั่งให้พักงานเป็นเวลา 2 เดือน พร้อมระงับจ่ายเงินค่าตอบแทนตลอดระยะเวลาที่มีการพักงานแล้ว ซึ่งเป็นไปตามกฏระเบียบข้อบังคับของโรงเรียน ทั้งนี้ หากพบว่า อาจารย์คนดังกล่าว ยังมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอีก ทางคณะกรรมการก็จะลงโทษขั้นเด็ดขาดโดยการให้ออกจากงานโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ
ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ ยังกล่าวว่า ในการลงโทษบุคลากรนั้น เรายึดตามข้อเท็จจริง และกฏระเบียบข้อบังคับเป็นหลัก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องแยกเป็น 2 กรณีคือ การปฏิบัติหน้าที่ และการลงโทษ ว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากอะไร ซึ่งในรายละเอียดแล้วทางโรงเรียนไม่ต้องการกล่าวโทษเด็กในการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะและใช้วาจาก้าวร้าว จนทำให้อาจารย์ผู้สอนไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ แต่หากมองอีกมุมก็ต้องบอกว่า การกระทำของผู้เป็นอาจารย์ในการลงโทษเด็ก ก็ไม่ควรใช้ความรุนแรงกับเด็ก เพราะเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง โดยทางโรงเรียนก็ได้มีบทลงโทษไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางผู้บริหารโรงเรียนให้ความสำคัญสำหรับเรื่องนี้และไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก โดยเข้มงวดในการคัดสรรบุคคลากรที่ต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ รวมถึงคุณธรรมและจริยธรรมซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเด็กนักเรียนและในฐานะพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ และแบบอย่างที่ดีแก่ลูกศิษย์ ทั้งนี้ ทางโรงเรียนพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ และข้อร้องเรียนจากผู้ปกครองทุกคนอย่างจริงใจ