ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่ายคนลุ่มน้ำปิง-แตงกว่า 500 คน เดินทางคัดค้านให้กรมชลประทานเลิกเวทีชี้แจง-รับฟังการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำปิงตอนบน เหตุไม่จำเป็นต้องมีการรับฟังใดๆ เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างผลกระทบทั้งสิ้น พร้อมออกแถลงการณ์คัดค้านโครงการนี้ถึงที่สุด
วันนี้ (22 ก.ย.) ประชาชนบ้านโป่งอาง หมู่ที่ 5 ต.เมืองนะชุมชนลุ่มน้ำแม่แตงตอนบน/ลุ่มน้ำแม่คอง เครือข่ายทรัพยากรอำเภอเชียงดาวพี่น้องปลายน้ำลุ่มน้ำแม่ปิงตอนบน และชุมชนลุ่มน้ำแม่ป๋าม ประมาณ 500 คน ได้เคลื่อนขบวนไปยังหอประชุมเทศบาลตำบลเชียงดาว เพื่อร่วมกันคัดค้านการดำเนินการจัดเวทีของกรมชลประทานเกี่ยวกับการชี้แจงการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำปิง ซึ่งการประท้วงเคลื่อนไหวในครั้งนี้ชาวบ้านได้เรียกร้องให้ยุติการดำเนินการโดยทันที เนื่องจากโครงการดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนบ้านโป่งอางและชุมชนใกล้เคียงเป็นอันมากจนทำให้เวทีดังกล่าวต้องล่ม ยุติไปในที่สุด
มีรายงานแจ้งว่า ทั้งนี้ ทางตัวแทนกรมชลประทาน ได้รับปากว่าจะนำข้อมูลจากชาวบ้านไปศึกษาหาแนวทางแก้ไขการดำเนินการเรื่องการศึกษาผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ทางบริษัทฯ ที่รับจ้างทำการศึกษาฯ ต่อไป
พร้อมกันนี้ เครือข่ายทั้หมดได้ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอคัดค้านการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ อ่างเก็บน้ำแม่ปิงตอนบน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ หรือ จิตวิญญาณ ดิน ป่า และสายน้ำ อันจะนำไปสู่ความขัดแย้ง ทำลายรากเหง้า วิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่บ้านโป่งอางและพี่น้องต้นน้ำแม่ปิงตอนบน
ตามที่กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการเข้ามาทำการศึกษาความเหมาะสมและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ปิงตอนบน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ สัญญาจ้างเลขที่ จ.46/2553 (กสพ.1) ลงวันที่ 20 กันยายน 2553 วันที่เริ่มปฏิบัติงาน 24 กันยายน 2553 ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2555 รวมระยะเวลา 600 วัน
เบื้องต้น ทางคณะศึกษาฯร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ ได้เข้ามาจัดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากชุมชนในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ปิง 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 เดือนมกราคม 2554 ครั้งที่ 2 วันที่ 24 มีนาคม 2554 และครั้งที่ 3 วันที่ 5 เมษายน 2554 ประเด็นเวทีรับฟังความคิดเห็น มีการชี้นำและโน้มน้าว ให้เห็นชอบและสนับสนุนการศึกษาความเหมาะสมและวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ปิงตอนบน
นอกจากการจัดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นแล้ว ทางคณะศึกษาฯยังได้ลงพื้นที่ ณ ที่ตั้งโครงการ ในบ้านโป่งอาง หมู่ที่ 5 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจัดทำข้อมูลทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ระบบนิเวศพื้นที่และสุขภาพของคนในชุมชน ซึ่งการลงพื้นที่ในระยะเวลาที่ผ่านมานั้นทางชาวบ้านไม่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับผลกระทบจากการดำเนินการโครงการฯใดๆ ทั้งสิ้น การให้ข้อมูลของคณะทำงานศึกษาฯที่ผ่านมายังมิได้ให้ข้อมูลที่เป็นจริงอย่างรอบด้านทั้งหมดของตัวโครงการ ทางชุมชนจึงตั้งข้อสังเกตการศึกษาโครงการฯในประเด็นดังต่อไปนี้
1) การรับรู้ข้อมูลข่าวสารการดำเนินงานตามโครงการ ชุมชนไม่มีโอกาสเข้าถึง รับรู้ข่าวสาร รายละเอียดโครงการฯ ที่เป็นจริงอย่างรอบด้าน เช่น กรณีการศึกษาความเหมาะสมและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทางคณะศึกษาได้เบี่ยงแบนประเด็น โดยพยายามอธิบายในเรื่องการพัฒนาและซ่อมแซมระบบชลประทานเดิมให้มีประสิทธิภาพ มิไม่ได้กล่าวถึงโครงการสร้างอ่าง (เขื่อน) แม่น้ำปิงตอนบนแต่อย่างใด
2) กระบวนการมีส่วนร่วมและการตัดสินใจไม่ได้เกิดขึ้นจากคนในชุมชนอย่างแท้จริง เพราะคนในชุมชนที่อยู่ในพื้นที่โครงการสร้างเขื่อน ซึ่งจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่มีการดึงเอา หน่วยงานราชการ ชุมชนนอกพื้นที่ มาเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาโครงการเป็นหลัก
3) ขั้นตอน กระบวนการศึกษา มีลักษณะเร่งรีบในการดำเนินการ ขัดหลักวิชาการ ขาดรายละเอียดของการศึกษาความเหมาะสม ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อมและสุขภาพอย่างรอบด้าน
4) ที่ตั้งโครงการอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนโป่งอาง ดังกล่าว อยู่ห่างจากชุมชนเพียงแค่ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นโครงการที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ รวมถึงพื้นที่น้ำท่วมอยู่ในเขตพื้นที่ป่าต้นน้ำแม่ปิง ที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหาร แหล่งสมุนไพร ป่าชุมชน ของคนในชุมชน ซึ่งถือเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญไหลหล่อเลี้ยงชุมชนผ่านระบบเหมืองฝายของหมู่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่อำเภอเชียงดาว เชียงใหม่จนถึงที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยา
จากการดำเนินงานของกรมชลประทานและคณะทำงานศึกษานำโดย รศ.ดร.เลิศ จันทนภาพ ผู้เชี่ยวชาญด้านประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมตามโครงการฯดังกล่าว ทางชุมชนบ้านโป่งอาง หมู่ที่ 5 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ในฐานะเป็นผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียและได้รับผลกระทบโดยตรง จึงเห็นว่า การดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ปิงตอนบน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ของกรมชลประทานและคณะทำงานฯ เป็นไปในลักษณะที่ละเมิดสิทธิของชุมชน ซึ่งบัญญัติรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวมถึงฐานทรัพยากรฯที่ชุมชนได้อาศัยเป็นแหล่งอาหาร แหล่งสมุนไพร และป่าชุมชน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นแหล่งซุปเปอร์มาเก็ตของชุมชน (กาดของคนตุ๊ก) สัมพันธ์กับวิถีการดำรงชีวิตตามวัฒนธรรม องค์ความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น พึ่งพาอาศัยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ด้วยความสัมพันธ์ในระบบเครือญาติมาช้านานตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ที่สำคัญ นับตั้งแต่โครงการเข้ามาได้สร้างผลกระทบเกิดมลพิษทางจิตใจอย่างใหญ่หลวงกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่บ้านโป่งอาง ก่อให้เกิดการแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย เกิดความแตกแยกในหมู่เครือญาติ อันเนื่องมาจากได้รับข้อมูลเพียงด้านเดียวและถูกกระทำให้แบ่งกลุ่ม มีการจัดตั้งมวลชนเพื่อให้เกิดขัดแย้งในพื้นที่
ผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชนถึงกับกล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบเห็นความขัดแย้งของคนโป่งอางรุนแรงเช่นนี้ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความขัดแย้งดังกล่าว มาจากการเข้ามาดำเนินโครงการศึกษาความเหมาะสมและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ปิงตอนบน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนักวิชาการรับจ้าง แสวงหาความชอบธรรมในการดำเนินการโครงการฯ สิ่งที่เกิดขึ้นได้สร้างตราบาปอันหนักหนาสาหัสแก่ชาวบ้าน ที่ได้อยู่อาศัยกันอย่างเกื้อกูล
ดังนั้น วันนี้พวกเราจึงมารวมตัวกันเพื่อคัดค้านและมีมติไม่ยอมรับการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ปิงตอนบน และให้นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการ ประธานคณะกรรมการดูแลกำกับงานที่ปรึกษาด้านวิชาการ โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ปิงตอนบน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ รวมถึงรศ.ดร.เลิศ จันทนภาพ ผู้เชี่ยวชาญด้านประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วม ยุติการดำเนินโครงการดังกล่าว
พวกเราขอยืนยันอย่างมั่นคงว่า “จะติดตาม ทวงถามและพิทักษ์สิทธิของชุมชนอย่างต่อเนื่อง หากยังไม่มีความคืบหน้า หรือเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้อง หรือมีการกระทำใดๆ อันเป็นการข่มขู่คุกคามผู้นำ แกนนำ หรือชาวบ้าน พวกเราจะดำเนินการทุกวิถีทางตามสิทธิอันพึงมีของชุมชนเพื่อให้โครงการอ่าง (เขื่อน) เก็บน้ำแม่ปิงตอนบนล้มเลิก จนถึงที่สุด”