อธิบดีกรมอุทยานฯ บุกรื้อสิ่งปลูกสร้างในเขตอุทยาน “ทับลาน”

ศูนย์ข่าวศรีราชา-อธิบดีกรมอุทยานฯ บุกรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในเขตอุทยานทับลาน หลังศาลสั่งริบให้ตกเป็นของแผ่นดิน 3 ราย พร้อมเผยสั่งเจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดปศุสัตว์จังหวัด หลังออกใบอนุญาตค้าซากสัตว์ผิดกฎหมาย


วันนี้ (21 ก.ย.) ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัดปราจีนบุรี นายดำรง พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช แถลงข่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อผู้บุกรุกที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติทับลานว่า กรมฯ จะเข้าดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ศาลสั่งริบให้ตกเป็นของแผ่นดิน 3 ราย

ประกอบด้วย 1.รายที่เป็นบ้านพัก 1 หลัง อยู่บริเวณป่าซับบอน ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ของนายธีรศักดิ์ หรือนพอนันท์ พรอนันต์ฤกษ์ ภูมิลำเนา อยู่ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา จับกุมตรวจยึดเมื่อวันที่ 9 ก.ค.2546 คดีถึงที่สิ้นสุดหมายเลขแดงที่ 977/2546 ลงวันที่ 23 ก.ย.2546 มีโทษปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 2 ปี ริบของกลางให้จำเลย คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติ

2.บ้านพักทรงแปดเหลี่ยม บ้านไม้ยกสูง 1 หลังตั้งอยู่ที่ป่าซับพลู ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ของนายสมชาย คูหาแก้ว ภูมิลำเนาอยู่เขตหนองจอก กรุงเทพฯ ซึ่งมีการจับกุมตรวจยึดตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.2546 คดีถึงที่สิ้นสุด ตามคำร้องที่ ท.2019 พ.ศ.2550 ลงวันที่ 25 ต.ค.2550 ศาลพิพากษาให้จำเลยรับโทษปรับ 35,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 2 ปี ริบของกลางให้จำเลย คนงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทน และบริวารออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ

รายที่ 3 โครงสร้างบ้านพัก 1 หลัง ห้องครัวและห้องน้ำ 1 หลัง ตั้งอยู่ที่ป่าซับพลู ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ของนายวิเชียร เอมอุ่นจิตร์ ภูมิลำเนาอยู่ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง จับกุมตรวจยึดเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2546 คดีถึงที่สุดตามคดีหมายเลขแดงที่ 1381/2551 ลงวันที่ 14 พ.ค.2551 ศาลพิพากษาให้จำเลยรับโทษปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 2 ปี ริบของกลางให้จำเลย คนงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทน และบริวารออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ

นายดำรงกล่าวต่อไปว่า หลังจากนี้ทางกรมจะเร่งฟื้นฟูสภาพป่าโดยปลูกต้นไม้พื้นถิ่นเดิม และต้องการเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมกันอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าทับลานให้มาร่วมกันปลูกป่าและเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ หากพบเห็นการบุกรุกทำลายป่าให้แจ้งสายด่วน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนผู้ที่เข้ามาซื้อที่ดินพื้นที่อำเภอนาดี อำเภอวังน้ำเขียว ขอให้ตรวจสอบให้ถูกต้องก่อนว่าพื้นที่ที่จะซื้อไม่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน มิฉะนั้นผู้ที่ซื้ออาจถูกหลอกเสียทรัพย์แล้ว ยังอาจถูกดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่งด้วย

นายณรงค์ เผยอีกว่า สาเหตุของการบุกรุกนี้เนื่องจากหัวหน้าอุทยานในอดีต ปล่อยปะละเลยหน้าที่ทำให้มีการบุกรุก เพราะเนื่องจากการดำเนินการก่อสร้างในแต่ละแห่ง อุทยานฯ จะต้องทราบอยู่แล้วว่า พื้นที่ใดเป็นพื้นที่อุทยานฯ หากเจ้าหน้าที่ไม่รู้เห็นเป็นใจ ผู้ประกอบการก็ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่เนื่องจากมีการโยกย้ายหัวหน้าอุทยานฯ คนใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีการเอาจริงกับเรื่องการบุกรุกที่อุทยานฯ จึงทำให้มีการตรวจสอบและดำเนินคดีฟ้องร้อง จนในที่สุดบ้าน 3 หลังดังกล่าวสิ้นสุดคดี จนศาลดำเนินการริบทรัพย์ โดยหลังจากนี้ จะเคลียร์พื้นที่ทั้ง 3 จุด และทำการปลูกป่าไม้ พะยูงขึ้นมาทดแทน

ส่วนจำนวนที่เหลือ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดป้ายประกาศไปแล้ว ส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ตและบ้านหลังใหญ่และเป็นของนายทุนที่เข้ามาดำเนินการ โดยอุทยานฯได้ปิดป้ายประกาศให้ดำเนินการรื้อถอนแล้ว แต่นายทุนยังไม่รื้อถอน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค.อุทยานฯจะเข้ามาดำเนินการรื้อถอนจำนวน 50-60 ราย

นอกจากนี้ ในการตรวจสอบอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมาทำให้พบว่าในพื้นที่ยังมีการค้าเนื้อสัตว์ป่าและซากสัตว์ป่า เช่น หมี เก้ง กวางป่า โดยพบว่ามีการออกใบอนุญาตจากปศุสัตว์จังหวัด ให้สามารถค้าซากสัตว์ประเภท ช้าง หมี เก้ง กวาง ฯลฯได้ ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้องและเป็นเรื่องผิดกฎหมาย พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ไปแจ้งความเอาผิดต่อผู้ที่ออกใบอนุญาตดังกล่าว