พลิกวิกฤตเป็นโอกาส! น้ำท่วมซ้ำซากโรงเรียนดงสว่างฯ ปรับพื้นที่น้ำท่วมขังทำเศรษฐกิจพอเพียง

กาฬสินธุ์ - ผู้อำนวยการโรงเรียนพื้นที่น้ำท่วมในกาฬสินธุ์ ปรับพื้นที่น้ำท่วมขังเป็นพื้นที่ใช้สอย สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการปลูกข้าวอินทรีย์ เลี้ยงปลา และเพาะพันธุ์กล้าไม้ เป็นแหล่งเรียนรู้สอนให้เด็กเดินตามรอยพระยุคลบาทเศรษฐกิจพอเพียงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสอย่างได้ผลและน่าทึ่ง

วันนี้ (19 ก.ย.) ที่โรงเรียนดงสวางวิทยายน ตำบลห้วยโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ นายเจด็จ วีระนาคินทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดงสวางวิทยายน พร้อมคณะผู้บริหาร สาธิตการเพาะพันธุ์กล้าไม้ให้แก่เด็กนักเรียน และสำรวจนาข้าวอินทรีย์ พร้อมตรวจสภาพพื้นที่เตรียมใช้เป็นพื้นที่ใช้สอย หลังประสบปัญหาน้ำท่วมขังนานนับเดือน

นายเจด็จ วีระนาคินทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดงสวางวิทยายน กล่าวว่า ผลกระทบจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะบริเวณด้านหลังโรงเรียน ซึ่งแต่เดิมเคยใช้เป็นแปลงเกษตร ปลูกพืชผักตามฤดูกาล ทำโรงเรือนเพาะเห็ด สนามเด็กเล่น และใช้สอยอื่นๆ แต่เนื่องจากฤดูฝนของทุกปีประสบปัญหาน้ำท่วมขัง ใช้ทำประโยชน์อย่างเดิมไม่ได้ จึงเกิดแนวคิดที่จะประยุกต์ประโยชน์ใช้สอย โดยพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ซึ่งจากปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากทุกปีแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบของบประมาณในการแก้ปัญหาระยะยาว ไม่อยากให้นักเรียนต้องทนแบบนี้ทุกปี

จึงต้องหันมาพึ่งพาตนเอง แต่วันนี้สิ่งที่ขอคือการดูแลป้องกันเด็กจากโรคระบาดน้ำท่วมเท่านั้น ถ้าไม่มีงบปรับปรุงก็ไม่เป็นไรยังอยู่ได้

เมื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมไม่ได้ จึงได้นำคณะครู นักเรียน น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปรับใช้ โดยแบ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวอินทรีย์ ใช้ปุ๋ยคอก ปลอดการใช้สารเคมี เลี้ยงปลา และเพาะพันธุ์กล้าไม้ ประเภท ไม้เศรษฐกิจ ไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้พื้นเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งเรียนรู้ สอนให้เด็กรู้จักขั้นตอนการทำนา การทำเกษตรแบบวิถีดั้งเดิมแล้ว ยังจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม ได้ผลผลิตข้าวเป็นอาหารกลางวัน ได้พันธุ์ไม้ปลูกในบริเวณโรงเรียน ที่สาธารณะ หรือจะนำวิธีการไปใช้ที่บ้าน เพาะพันธุ์กล้าไม้ไปจำหน่าย สร้างรายได้อีกทางหนึ่งด้วย