ลำปาง - สหกรณ์การเกษตรแม่ทะวุ่น สมาชิกเริ่มทยอยถอนเงิน หลังพบเงินในบัญชีหายหลายราย ล่าสุดแจ้งความแล้ว 6 ราย รวมเงินเกือบ 6 แสน ขณะที่สหกรณ์ฯก็แจ้งความพนักงานสินเชื่อเชิดเงินเกือบ 5 ล้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบแล้ว
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า ขณะนี้บรรดาสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรแม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ต่างเริ่มทยอยมาถอนเงินออกจากบัญชี บางรายนำสมุดมาปรับเช็กยอด เพื่อให้แน่ใจว่าเงินที่นำมาฝากไว้ยังอยู่ครบ หลังจากที่กระแสข่าวเงินในบัญชีของสมาชิกหลายรายถูกยักยอกเงินจากบัญชี
ทั้งนี้ มีสมาชิกสหกรณ์ฯเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.แม่ทะแล้ว 6 ราย คือ 1.นางจันทร์ ทาจี ม.5ต.สันดอนแก้ว เงินหายจากบัญชี 2 11,029.19บาท 2.นางปวน แก้วก้อน ม.3 ต.นาครัว เงินหายจากบัญชี 65,000 บาท 3.นายเลื่อน ก๋าติ๊บ ม.8 ต.วังเงิน เงินหายจากบัญชี 20,000 บาท 4.นางฟองจันทร์ สุพรรณ ม.7 ต.สันดอนแก้ว เงินหายจากบัญชี 100,000 บาท 5.นางสาวปราณี สุพรรณ ม.7 ต.สันดอนแก้ว เงินหายจากบัญชี 102,000 บาท และ 6.หลัน คำมาจักร์ ม.3 ต.นาครัว เงินหายจากบัญชี 93,000บาท รวม 6 ราย เงินหายไปแล้วเกือบ 6 แสนบาท
ขณะที่สหกรณ์การเกษตรแม่ทะ โดยนายทอน ต๊ะคำ ประธานสหกรณ์ฯ ก็ได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเช่นกันว่า ถูกนายภราดา หรือเอกชัย เสนาธรรม ที่เสียชีวิตไปเมื่อเดือนตุลาคม2553 อดีตพนักงานสินเชื่อ ยักยอกเงินของสหกรณ์ฯไป 4.5 ล้านบาทด้วย
ล่าสุดวันนี้(17 ก.ย.54) ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนจากสหกรณ์การเกษตรแม่ทะ สำนักงานตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ สหกรณ์จังหวัดลำปาง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เพื่อตรวจสอบทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเชิญสมาชิกทั้งหมด ซึ่งมีอยู่กว่า 2,000 คน เข้าให้ปากคำและสอบถามยอดในบัญชีของแต่ละคนว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์จึงจะทราบว่ามีสมาชิกจำนวนกี่ราย ที่เงินหายจากบัญชีและยอดเงินที่หายเป็นจำนวนเท่าไหร่
ด้านนายสุธีย์ ขันทอง นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็น 1 ในคณะตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เผยว่า สิ้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรอบการปิดงบ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีได้เข้าตรวจตามปกติ แต่พบมีความผิดพลาดทางบัญชี จึงได้ตรวจสอบ และได้ออกเอกสารแจ้งสถานะทางการเงินส่งไปยังสมาชิกทุกรายเพื่อยืนยันความถูกต้อง ปรากฏว่า สมาชิกหลายรายที่ได้รับเอกสารแล้ว พบว่าจำนวนเงินที่ค้างในบัญชีไม่ตรงกับจำนวนเงินจริงที่ระบุในสมุดประจำตัวของสมาชิก จึงได้มีการร้องเรียนและบางส่วนได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนขั้นตอนของการตรวจสอบ ขณะนี้ทางคณะทำงานได้มีหนังสือไปยังสมาชิกทุกรายที่มีกว่า 2,000 คนเข้ายืนยันสถานะทางการเงินของตนเอง ให้เสร็จก่อนจึงจะสรุปได้ว่ามีสมาชิกกี่คนที่เงินหายไปและยอดเท่าไหร่ ซึ่งต้องใช้เวลาเพราะสมาชิกแต่ละคนมีทั้งเงินฝาก เงินกู้ และเงินเรือนหุ้นด้วย ซึ่งทั้งหมดต้องเกี่ยวพันกัน ต้องทำควบคู่กับการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง โดยดูบัญชีทางการเงินทั้งหมด เมื่อขั้นตอนตรงนี้เสร็จแล้วจึงจะดำเนินการขั้นตอนอื่นต่อไปได้
โดยขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครที่เป็นคนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวต้องรอผลการตรวจสอบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้มีการสั่งพักงานผู้จัดการสหกรณ์ฯและเจ้าหน้าที่การเงิน เป็นเวลา7วัน แล้ว