กาฬสินธุ์ - ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ค้านประกันตัว “อธิคม จันทนา” ประธานสโมสรกาฬสินธุ์เอฟซี ที่ก่อเหตุยักยอกเงินค่าตัวนักเตะ 250,000 บาท หลังจากพบว่ามีพฤติกรรมลวงโลกเพราะมีผู้เสียหายทยอยเดินทางเข้าแจ้งความอย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้ากรณีชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ จับกุมตัวนายอธิคม จันทนา ประธานสโมสรกาฬสินธุ์เอฟซี ในข้อหายักยอกเงินค่าตัวนักเตะจำนวน 250,000 บาท ซึ่งได้ทำการฝากขังไว้ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์
ล่าสุด วันนี้ (17 ส.ค.) เวลา 10.30 น.ที่ห้องสอบสวนตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ นายประจักษ์ ภูแลขำ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโคกศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ อดีตประธานสโมสรกาฬสินธุ์เอฟซี เข้าชี้ตัว นายอธิคม จันทนา ชาวจังหวัดชลบุรี ประธานสโมสรฟุตบอลกาฬสินธุ์เอฟซี ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ เพื่อยืนยันให้ตำรวจดำเนินคดี
หลังก่อเหตุยักยอกเงินนักเตะจำนวน 250,000 บาท จนถูกตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์จับกุมได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้สั่นสะเทือนวงการฟุตบอลกาฬสินธุ์
นายประจักษ์ ภูแลขำ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโคกศรี อดีตประธานสโมสรฟุตบอลกาฬสินธุ์เอฟซี กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ได้สั่นสะเทือนวงการฟุตบอลกาฬสินธุ์ และทำให้นักเตะไม่มีกำลังใจ ทั้งนี้สำหรับ นายอธิคม จันทนา ชาวจังหวัดชลบุรี ที่ได้เข้ามาเป็นประธานสโมสรกาฬสินธุ์เอฟซี ได้รับการแนะนำจากนายกฤษณ์จอมพล ภูจอมจิต ผู้อำนวยการด้านการศึกษา อบจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะผู้จัดการทีมสโมสรกาฬสินธุ์เอฟซี หรือคุณมืด
โดยคุณมืดได้ยืนยันว่า นายอธิคมเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และสามารถที่จะนำสปอนเซอร์ต่างๆ เข้ามาร่วมสนับสนุนทีม
นายประจักษ์ระบุว่า ขณะนั้นตนก็รู้สึกดีใจมากที่จะมีผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาช่วยกันบริหารจัดการทีมฟุตบอลกาฬสินธุ์เอฟซีเพื่อให้มีศักยภาพเทียบเท่ากับนักเตะในหลายจังหวัด จนเมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2554 นายกฤษณ์จอมพล ภูจอมจิต ก็ได้พานายอธิคมพร้อมกับมีผู้ใหญ่หลายคนไปพูดคุยกับตนเพื่อที่จะให้ตนได้ยกสโมสรฯ ให้นายอธิคมบริหาร ด้วยความเชื่อมั่นในตัวนายกฤษณ์จอมพลที่ไปการันตี ตนจึงได้ตัดสินใจยกทีมฟุตบอลให้นายอธิคมบริหาร
กระทั่งมีการจัดงานเปิดตัวประธานสโมสรกาฬสินธุ์เอฟซีคนใหม่ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2554 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด และนักการเมืองท้องถิ่นเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ด้วยความเชื่อมั่นว่าทีมฟุตบอลกาฬสินธุ์เอฟซีรุ่งแน่
นายประจักษ์กล่าวต่อว่า ด้วยความเชื่อมั่นก่อนที่จะมีการยกทีมฟุตบอลให้ ผู้จัดการทีมฟุตบอลฯ ยังได้ขอร้องให้ตนไปกู้เงินจากมูลนิธิส่งเสริมพัฒนากีฬาจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 250,000 บาท ซึ่งได้มอบให้กับประธานคนใหม่เป็นค่าใช้จ่าย แต่มาในระยะหลังได้รับการบอกกล่าวจากตัวนักเตะและผู้ควบคุมทีมว่านายอธิคมไม่ยอมจ่ายค่าตัว
โดยอ้างที่จะบ่ายเบี่ยงและทำท่าจะถอนตัวออกจากสโมสร ทั้งที่เงินรายได้ทั้งจากการเก็บค่าบัตรผ่านประตู และเงินสนับสนุนจำนวนมากก็ไม่มีการชี้แจงที่แน่ชัด อีกทั้งกรณีการกู้เงินจากมูลนิธิฯก็จะต้องคืนภายใน 1 เดือน เมื่อไม่มีเงินคืนตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ
“ปัญหาการทำทีมฟุตบอลที่ตกต่ำตนยอมรับในความผิดพลาดที่ไปหลงเชื่อคนลวงโลก แต่ทั้งหมดก็มีที่มาที่ไป มีผู้หลักผู้ใหญ่รับรอง แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากคนที่เข้าไปบริหารต้องการที่จะไปแสวงผลประโยชน์จากการกีฬาซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ในเงินจำนวนนี้ ก็ยังมีเงินสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทยอีกประมาณ 250,000 บาท ซึ่งเป็นเงินสนับสนุนนักเตะที่คงจะต้องเข้าไปตรวจสอบกับผู้จัดการทีมฯว่าเงินจำนวนนี้หายไปไหน” นายประจักษ์กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.รณภพ หริ่มสืบ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากนายอธิคมผู้ต้องหายังมีผู้เสียหายทยอยเดินทางเข้าแจ้งความ โดยเฉพาะหมายจับเดิมจาก สน.คันนายาว ที่ได้ยักยอกเงินฟุตบอลกองทัพอากาศไปกว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายจากต่างจังหวัดทยอยเข้าแจ้งความ
สำหรับสโมสรฟุตบอลกาฬสินธุ์เอฟซี ซึ่งเหลือการแข่งขันอีก 7 ครั้ง ทางจังหวัดก็จะส่งแข่งให้ครบ ส่วนอนาคตหลังจากจบเรื่องนี้ก็จะมีการพิจารณาหาประธานสโมสรคนใหม่ต่อไป
แหล่งข่าววงในทีมฟุตบอลกาฬสินธุ์เอฟซี ระบุว่า ปัญหาความซบเซาจากทีมนักเตะเกิดจากกลุ่มผู้บริหารทีมฟุตบอลมีพฤติกรรมแสวงหาผลประโยชน์จากเงินบริจาคของผู้ให้การสนับสนุน และมีการตั้งกลุ่มเป็นมาเฟียภายในที่บุคคลภายนอกจะไม่มีสิทธิเข้าไปรู้เห็น
โดยเฉพาะสื่อมวลชนภายในจังหวัดที่จะไม่ทราบความเคลื่อนไหวหรือมีการรายงานค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด อีกทั้งล่าสุดเชื่อว่าจะมีนักเตะฝีเท้าดีไม่ต่ำกว่า 3 คนเตรียมที่จะย้ายสโมสรกันแล้ว