ศาลอุทธรณ์แก้โทษให้ “เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์” คดียักยอกเงินบีบีซีจาก 211 ล้าน เหลือ 128,316,333 บาท และให้ร่วมกับพวกคืนเงินอีก 120 ล้าน ส่วนโทษจำคุก 20 ปี คงเดิม
วันนี้ (24 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ ด.6618/2542 ที่อัยการกองคดีเศรษฐกิจ 2 เป็นโจทก์ฟ้องนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี นางพรจันทร์ จันทรขจร และนางสุภาภรณ์ ทิพยศักดิ์ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ กรณีจำเลยร่วมกันเบียดบังยักยอกเงินจากบีบีซี จำนวน 200,956,250 บาท เป็นของตนเองและบุคคลที่ 3
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 1 พ.ย.49 ให้พิพากษาจำคุกนายเกริกเกียรติ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 20 ปี ปรับ 211,160,166 บาท จำคุกนายพรจันทร์ จำเลยที่ 2 เป็นเวลา 12 ปี 16 เดือน ปรับ 1,333,333.32 บาท หากจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับตาม ปอ.ม.29 ให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษของจำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขแดงที่ 213/2548 คดีหมายเลขแดงที่ 215/2548 และคดีหมายเลขแดงที่ 217/2548 ของศาลอาญากรุงเทพใต้ และคดีหมายเลขแดงที่ 3947/2548 ของศาลอาญา ให้จำเลยที่ 1 คืนเงินจำนวน 93,036,333 บาท โดยให้จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดคืนเงินจำนวน 84,720,000 บาท แก่ธนาคารโจทก์ร่วม และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 3
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง แต่ให้แก้ไขคำพิพากษาในส่วนของการชดใช้ค่าเสียหายแก่บีบีซี พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 คืนเงินแก่บีบีซี โจทก์ร่วม จำนวน 128,316,333 บาท โดยให้จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดคืนเงินจำนวน 120,000,000 บาท แก่โจทก์ร่วม นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น