xs
xsm
sm
md
lg

ทุ่มงบกลุ่ม จว.เหนือตั้งโรงยางแผ่นรมควันพะเยา ปูทางส่งตลาดจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พะเยา - ดึงงบกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ทุ่มตั้งโรงอบยางแผ่นรมควันที่พะเยา ผู้ว่าฯหวังดันเป็นศูนย์กลางยางพาราภาคเหนือ มุ่งส่งตลาดจีน ขณะที่ อปท.ในพื้นที่จับมือสหกรณ์ยางเตรียมเปิดศูนย์เรียนรู้ยางพาราชุมชนหนุนอีกทาง

นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ยางพาราจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกประมาณ 2 แสนไร่ และเชื่อว่าต่อไปพะเยาจะเป็นศูนย์กลางยางพาราภาคเหนือ เนื่องจากได้มีการใช้งบประมาณกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนกลุ่มกว่า 30 ล้านบาท สร้างโรงอบยางแผ่นรมควันที่อำเภอภูซาง ภายใต้การดูแลของนิคมสหกรณ์เชียงคำ ซึ่งเกษตรกรสามารถนำแผ่นยางไปรมควัน เพื่อรอการจำหน่ายในราคาที่ดีกว่าได้

นอกจากนี้ยังได้มีการรวมกลุ่มของผู้ปลูกยางพาราของจังหวัดพะเยาในรูปแบบสหกรณ์รับซื้อผลผลติยางพาราจากเกษตรกรในราคานำตลาด และมีแนวคิดที่จะกำหนดราคายางพาราของจังหวัดต่อไป

สำหรับตลาดส่งออกของยางพาราจะมุ่งไปที่ประเทศจีน โดยผ่านท่าเรือเชียงแสนและส่งตอไปยังประเทศจีนตามเส้นทาง R3A

ด้าน นายสิงห์คำ เชียงแรง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เชียงแรง กล่าวว่า ขณะนี้ อบต.เชียงแรงได้มีข้อตกลงเบื้องต้นกับสหกรณ์ชาวสวนยางพะเยา จำกัด ที่เข้าพื้นที่สาธารณะของสนามกีฬากลาง ต.เชียงแรง อ.ภูซาง เพื่อประกอบการรับซื้อขายยางพาราและต้นกล้าอยู่ เพื่อจะร่วมกันจัดทำศูนย์เรียนรู้เรื่องยางพาราของ ต.เชียงแรง เพื่อให้ประชาชนที่สนใจเรื่องยางพาราเข้ามาเรียนรู้ข้อมูลและวิธีการเกี่ยวกับการปลูก รักษา และจัดเก็บน้ำยางพาราได้ถูกกต้อง

รองนายก อบต.เชียงแรงกล่าวต่อว่า ศูนย์การเรียนรู้ดังกล่าวจะตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ใกล้กับพื้นที่ดำเนินการของสหกรณ์ฯ จะเริ่มต้นจากการปลูกยางพาราด้วยเมล็ด การติดตา การกรีดยาง และการจัดเก็บน้ำยาง พร้อมกันนี้จะมีรายได้จากการจำหน่ายน้ำยางพาราเข้าสู่ อบต.ในอนาคตด้วย ตรงนี้คาดว่าจะทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่ต้องไปแบ่งปันจากงบประมาณแผ่นดินได้อีกทางหนึ่ง

ด้าน นายเจตพร สังข์ทอง ผู้จัดการสหกรณ์ฯ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้กับสหกรณ์ฯ และเพื่อเปิดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องยางพาราให้แก่ประชาชนของเชียงแรง และพื้นที่ใกล้เคียง ดังนั้น ทางสหกรณ์ฯ จึงยินดีให้ความร่วมมือ โดยจะสนับสนุนต้นกล้ายางพาราที่ปลูกจากเมล็ดเพื่อนำไปปลูกในพื้นที่ 20 ไร่ดังกล่าว และจะให้ความรู้และทักษะเรื่องการดูแลรักษาต้นยางอย่างถูกวิธีด้วย ทำให้เกิดอาชีพแก่ชาวบ้านได้อย่างยั่งยืนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น