ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “ยท.” ยันจะต้องสร้างไทยให้เป็นมหาอำนาจยางพาราโลก กำหนดราคาเอง ชาวสวนและผู้ประกอบการจะร่วมมือกันนำยางไทยแข่งขันตลาดโลก ต้อนรับการค้าเสรีอาเชียนในปี 2555
วันนี้ (14 ส.ค.) นายเพิก เลิศวังศ์พง หัวหน้าพรรคยางพาราไทย (ยท.) และประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย จำกัด (ชสยท.) เปิดเผยว่า พรรค ยท.ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทุกสาขาอาชีพ โดยทั้งภาครัฐและภาคเอกชน พร้อมที่จะให้การสนับสนุนพรรค ยท .ในฐานะที่พร้อมจะทำให้ประเทศไทยมีความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคแล้ว จำนวน 5 สาขา คือ สาขาจังหวัดลำปาง อุบลราชาธานี จันทบุรี ชุมพร และสงขลา
“พรรคยางพาราไทยมีนโยบายที่จะร่วมประสานทุกฝ่าย ทั้งชาวสวนยางพารา กลุ่มอุตสาหกรรมผู้ส่งออกยางพารา และกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากยางพารา โดยได้พูดคุยกับสมาคมของกลุ่ม ทั้งนี้ ต่างเห็นด้วยและให้การสนับสนุน เพราะพรรคยางพาราไทยมีเป้าหมายกำหนดนโยบายเพื่อให้ยางพาราไทยมีอำนาจในเศรษฐกิจโลก และมุ่งให้ไทยเป็นผู้กำหนดราคายางพาราเอง เพราะที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจต่างประเทศเป็นผู้กำหนดราคาในการรับซื้อยางจากไทย” นายเพิกกล่าว ก่อนจะเสริมอีกว่า
“พรรคยางพาราไทยจะสร้างเสถียรภาพราคายางพารา สร้างสวัสดิการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยางพารา สร้างกองทุนยางพารา ประกันภัยยางพารา และดูแลรักษายางพาราตั้งแต่เริ่มกรีดไปจนถึงอายุการโค่นต้น ทั้งนี้ นโยบายไม่ต้องพึงงบประมาณของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้วงเงินหมุนสะพัดสำหรับยางพาราไทย ประมาณ 400,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมเงินเซสจากยางพารา มูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาทต่อปี
กลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับยางพารามีประมาณ 6 ล้านคน ตั้งแต่แรงงานกรีดยางพารา เจ้าของสวนยาง ผู้รับซื้อน้ำยาง เศษยางน้ำยางสด ยางแผ่น กลุ่มอุตสาหกรรมผู้ส่งออก และกลุ่มผลิตภัณฑ์จากยางพารา โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ส่งออก มีประมาณ 100 ราย และขนาดใหญ่ ประมาณ 50 ราย เราจะไม่แข่งขันกันเอง แต่ประสานผลประโยชน์ร่วมกันเพื่อแข่งขันในตลาดโลก พร้อมกับต้อนรับตลาดเสรีอาเชียน ในปี 2558”
สำหรับแนวทางทางการเมืองนั้น นายเพิกกล่าวว่า ได้หารือกับผู้ความเชี่ยวชาญยางพารา ทั้งเจ้าของสวน นักธุรกิจ พ่อค้า นักวิชาการ อดีตนักการเมือง อดีตข้าราชการ ข้าราชการ พร้อมเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาและสนับสนุน พรรคได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเป้าหมายในสมัยแรกจะส่งผู้สมัคร ส.ส. พร้อมของเสียงสมาชิกจากชาวสวนยาง 4 กลุ่ม ประมาณ 1 ล้านเสียง จาก 6 ล้านเสียง เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร เป็นปากเสียงให้กับชาวสวนยางพารา
“หากชาวสวนยางมีเศรษฐกิจที่ดี ประชาชนและประเทศโดยภาพรวมก็จะดีไปพร้อมกัน “ทางกลุ่ม ได้ดำเนินการสร้างแนวทางมาประมาณ 10 ปี จนเกิดเป็นกลุ่มเป็นก้อนไปทุกจังหวัด จะนำ สหกรณ์ ชสยท.ที่มีอยู่ประมาณ 144 แห่งทั่วทุกจังหวัด นำร่องพรรคยางพาราไทยไปทุกจังหวัด จะใช้รูปสหกรณ์ ทั้งนี้ พรรคยางพาราไทยมั่นใจว่าจะได้ที่นั่ง ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรแน่นอน และจะเข้าร่วมกับทุกรัฐบาล” หัวหน้าพรรคยางพาราไทยกล่าว
วันนี้ (14 ส.ค.) นายเพิก เลิศวังศ์พง หัวหน้าพรรคยางพาราไทย (ยท.) และประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย จำกัด (ชสยท.) เปิดเผยว่า พรรค ยท.ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทุกสาขาอาชีพ โดยทั้งภาครัฐและภาคเอกชน พร้อมที่จะให้การสนับสนุนพรรค ยท .ในฐานะที่พร้อมจะทำให้ประเทศไทยมีความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคแล้ว จำนวน 5 สาขา คือ สาขาจังหวัดลำปาง อุบลราชาธานี จันทบุรี ชุมพร และสงขลา
“พรรคยางพาราไทยมีนโยบายที่จะร่วมประสานทุกฝ่าย ทั้งชาวสวนยางพารา กลุ่มอุตสาหกรรมผู้ส่งออกยางพารา และกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากยางพารา โดยได้พูดคุยกับสมาคมของกลุ่ม ทั้งนี้ ต่างเห็นด้วยและให้การสนับสนุน เพราะพรรคยางพาราไทยมีเป้าหมายกำหนดนโยบายเพื่อให้ยางพาราไทยมีอำนาจในเศรษฐกิจโลก และมุ่งให้ไทยเป็นผู้กำหนดราคายางพาราเอง เพราะที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจต่างประเทศเป็นผู้กำหนดราคาในการรับซื้อยางจากไทย” นายเพิกกล่าว ก่อนจะเสริมอีกว่า
“พรรคยางพาราไทยจะสร้างเสถียรภาพราคายางพารา สร้างสวัสดิการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยางพารา สร้างกองทุนยางพารา ประกันภัยยางพารา และดูแลรักษายางพาราตั้งแต่เริ่มกรีดไปจนถึงอายุการโค่นต้น ทั้งนี้ นโยบายไม่ต้องพึงงบประมาณของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้วงเงินหมุนสะพัดสำหรับยางพาราไทย ประมาณ 400,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมเงินเซสจากยางพารา มูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาทต่อปี
กลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับยางพารามีประมาณ 6 ล้านคน ตั้งแต่แรงงานกรีดยางพารา เจ้าของสวนยาง ผู้รับซื้อน้ำยาง เศษยางน้ำยางสด ยางแผ่น กลุ่มอุตสาหกรรมผู้ส่งออก และกลุ่มผลิตภัณฑ์จากยางพารา โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ส่งออก มีประมาณ 100 ราย และขนาดใหญ่ ประมาณ 50 ราย เราจะไม่แข่งขันกันเอง แต่ประสานผลประโยชน์ร่วมกันเพื่อแข่งขันในตลาดโลก พร้อมกับต้อนรับตลาดเสรีอาเชียน ในปี 2558”
สำหรับแนวทางทางการเมืองนั้น นายเพิกกล่าวว่า ได้หารือกับผู้ความเชี่ยวชาญยางพารา ทั้งเจ้าของสวน นักธุรกิจ พ่อค้า นักวิชาการ อดีตนักการเมือง อดีตข้าราชการ ข้าราชการ พร้อมเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาและสนับสนุน พรรคได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเป้าหมายในสมัยแรกจะส่งผู้สมัคร ส.ส. พร้อมของเสียงสมาชิกจากชาวสวนยาง 4 กลุ่ม ประมาณ 1 ล้านเสียง จาก 6 ล้านเสียง เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร เป็นปากเสียงให้กับชาวสวนยางพารา
“หากชาวสวนยางมีเศรษฐกิจที่ดี ประชาชนและประเทศโดยภาพรวมก็จะดีไปพร้อมกัน “ทางกลุ่ม ได้ดำเนินการสร้างแนวทางมาประมาณ 10 ปี จนเกิดเป็นกลุ่มเป็นก้อนไปทุกจังหวัด จะนำ สหกรณ์ ชสยท.ที่มีอยู่ประมาณ 144 แห่งทั่วทุกจังหวัด นำร่องพรรคยางพาราไทยไปทุกจังหวัด จะใช้รูปสหกรณ์ ทั้งนี้ พรรคยางพาราไทยมั่นใจว่าจะได้ที่นั่ง ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรแน่นอน และจะเข้าร่วมกับทุกรัฐบาล” หัวหน้าพรรคยางพาราไทยกล่าว