กกต.ส่วนกลาง ติวเข้ม กกต.จังหวัด หลังโดนตำหนิอื้อ

ศูนย์ข่าวศรีราชา- กกต.ส่วนกลาง ติวเข้มการทำงานของ กกต.จังหวัด หลังได้รับการติติง ไม่เข้มงวดการตรวจสอบนักการเมืองท้องถิ่นและระดับประเทศ ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่

วันนี้ (5 ก.ย.) ที่โรงแรม เดอะไทด์ รีสอร์ท บางแสน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ดร.สดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานการสัมมนาเสริมสร้างการปฏิบัติงาน ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ แก่พนักงานการเลือกตั้งประจำจังหวัด ประจำปี 2554 โดยมีพนักงานการเลือกตั้ง ร่วมประชุมสัมมนาครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

การจัดโครงการสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อให้พนักงานการเลือกตั้งประจำจังหวัด ได้รับทราบถึงแนวนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติงานตามแผนยุทธศาสตร์กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ระยะ 4 ปี ( ปี 2553-2556) โดยนำปัญหาและอุปสรรครวมทั้งจุดเด่นในการปฏิบัติงาน ในรอบปีที่ผ่านมา มาปรับปรุงและพัฒนาแนวทางการปฏิบัติงาน เพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดและทำความเข้าใจในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค

ดร.สดศรี กล่าวว่า ที่ผ่านมา กกต.ส่วนกลางได้รับการติติง จากอดีต กกต.จังหวัด ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานการเลือกตั้งประจำจังหวัด ในการเข้มงวดตรวจสอบการปฏิบัติงานหรือหน้าที่ของนักการเมืองท้องถิ่นและนักการเมืองระดับประเทศ โดยเฉพาะนักการเมืองระดับประเทศ (ส.ส.) ที่ลงสมัครรับการเลือกตั้ง

ปัญหาที่มีการติติง เช่น กรณีการจัดตั้งที่ทำการสาขาพรรคการเมือง โดยส่วนใหญ่พรรคการเมือง จัดตั้งสาขาพรรค ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นไปตามข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ คือ เป็นเพียงเพิง หรือร้านขายของเล็กๆ ซึ่งไม่เป็นสำนักงาน เพราะหากขออนุญาตตั้งเป็นสาขาพรรคแล้ว จะต้องมีเจ้าหน้าที่และผู้จัดการสาขาพรรคนั่งทำงาน ต้องมีการจัดประชุม จัดทำค่าใช้จ่าย ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ ไม่มีการตรวจสอบ หรือต้องแจ้งให้ กกต.ส่วนกลางรับทราบ เพื่อวางแนวทางหรือมาตรการที่รัดกุมต่อไป เนื่องจากการตั้งสาขาพรรค ไม่มีกฎหมายรองรับหากดำเนินการโดยไม่ถูกต้อง สามารถหยุดหรือปิดสาขาพรรคได้ ซึ่งจะต้องมีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไปในอนาคต

ดร.สดศรี กล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้น เรื่องการตรวจสอบค่าใช้จ่ายของผู้สมัครรับการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งจะต้องแจ้งค่าใช้จ่ายให้ กกต.จังหวัดได้รับทราบและทำการตรวจสอบ ซึ่งมีผ่านมาการแจ้งค่าใช้จ่าย โดยจะมีการปลอมแปลงเอกสารบิลเกินความจริง การใช้จ่ายเงินเกินความเป็นจริง ซึ่งเรื่องนี้พนักงานการเลือกตั้งประจำจังหวัดจะต้องเข้มงวดและตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เกินปัญหาดังกล่าวขึ้น

“ในการลงรับสมัครการเลือกตั้งในแต่ละครั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง จะให้เงินค่าใช้จ่ายในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.คนละไม่เกิน 1.5 ลานบาท โดยเงินดังกล่าวถือเป็นเงินภาษีของประชาชน ดังนั้นการใช้เงินดังกล่าว จะต้องถูกต้องและชัดเจน หากไม่ตรงกับค่าใช้จ่าย ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพราะที่ผ่านมา กกต.จังหวัด จะต้องติดตามตรวจสอบอย่างเข้มงวดและไม่ถูกหลอก” ดร.สดศรี กล่าว