กระบี่-“สดศรี” ย้ำ พรรคการเมืองจะเข้มแข็งได้ ต้องขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรคที่มีความสามารถ แนะอย่าตั้งพรรคเพื่อการเฉพาะกิจ
วันนี้ (8 ส.ค) ที่โรงแรมมาริไทม์ปาร์ค แอนด์ สปารีสอร์ท จังหัดกระบี่ กกต. ได้จัดโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินงานของสาขาพรรคการเมือง รุ่นที่ 4 เป้าหมาย 14 จังหวัดภาคใต้ โดยมี นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธาน เพื่อให้คณะกรรมการสาขาพรรคการเมืองทั้งหลายได้มีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินกิจการของสาขาพรรคการเมืองอย่างถูกต้อง และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น ตลอดจนมีความคิดริเริ่มในการพัฒนาสาขาพรรคการเมืองให้มีความเข้มแข็งเป็นสถาบันทางการเมืองอันเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประชาธิปไตยของไทยอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 150 คน
นางสดศรี กล่าวว่า สาขาพรรคการเมืองทุกพรรคจะเข้มแข็งได้ ต้องขึ้นอยู่กับผู้บริหารของพรรคที่มีความสามารถ การจัดตั้งพรรคต้องมีเงิน มีคน และมีความศรัทธาของคนที่จะเข้ามาสู่พรรคการเมือง การจัดตั้งพรรคไม่ใช่จัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะกิจ ช่วงสั้นๆแล้วเลิกไป สาขาพรรคการเมืองต้องดำเนินการในเรื่องต่างๆ ได้แก่ การดำเนินกิจการของสาขาพรรคการเมือง การจัดทำบัญชี การทำรายงานการประชุม แนวทางทางการพัฒนาสาขาพรรคคการเมือง การสนับสนุนพรรคการเมืองและสาขาพรรคการเมืองโดนรัฐ ข้อกฎหมาย หลักเกณฑ์และวิธีการจัดให้มีคำส่งปรับและการใช้มาตรการบังคับทางปกครอง
การจัดโครงการดังกล่าวคาดว่า คณะกรรมการสาขาพรรคการเมือง ผู้ปฏิบัติงานในสาขาพรรคการเมือง เจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานของพรรคการเมือง รวมทั้งพนักงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด จะสามารถดำเนินกิจการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสาขาพรรคการเมืองให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้องบังคับมากยิ่งขึ้น การกระทำผิดที่มีโทษปรับทางปกครองลดลง
วันนี้ (8 ส.ค) ที่โรงแรมมาริไทม์ปาร์ค แอนด์ สปารีสอร์ท จังหัดกระบี่ กกต. ได้จัดโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินงานของสาขาพรรคการเมือง รุ่นที่ 4 เป้าหมาย 14 จังหวัดภาคใต้ โดยมี นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธาน เพื่อให้คณะกรรมการสาขาพรรคการเมืองทั้งหลายได้มีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินกิจการของสาขาพรรคการเมืองอย่างถูกต้อง และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น ตลอดจนมีความคิดริเริ่มในการพัฒนาสาขาพรรคการเมืองให้มีความเข้มแข็งเป็นสถาบันทางการเมืองอันเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประชาธิปไตยของไทยอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 150 คน
นางสดศรี กล่าวว่า สาขาพรรคการเมืองทุกพรรคจะเข้มแข็งได้ ต้องขึ้นอยู่กับผู้บริหารของพรรคที่มีความสามารถ การจัดตั้งพรรคต้องมีเงิน มีคน และมีความศรัทธาของคนที่จะเข้ามาสู่พรรคการเมือง การจัดตั้งพรรคไม่ใช่จัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะกิจ ช่วงสั้นๆแล้วเลิกไป สาขาพรรคการเมืองต้องดำเนินการในเรื่องต่างๆ ได้แก่ การดำเนินกิจการของสาขาพรรคการเมือง การจัดทำบัญชี การทำรายงานการประชุม แนวทางทางการพัฒนาสาขาพรรคคการเมือง การสนับสนุนพรรคการเมืองและสาขาพรรคการเมืองโดนรัฐ ข้อกฎหมาย หลักเกณฑ์และวิธีการจัดให้มีคำส่งปรับและการใช้มาตรการบังคับทางปกครอง
การจัดโครงการดังกล่าวคาดว่า คณะกรรมการสาขาพรรคการเมือง ผู้ปฏิบัติงานในสาขาพรรคการเมือง เจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานของพรรคการเมือง รวมทั้งพนักงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด จะสามารถดำเนินกิจการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสาขาพรรคการเมืองให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้องบังคับมากยิ่งขึ้น การกระทำผิดที่มีโทษปรับทางปกครองลดลง