พะเยา - ชาวปางผักหมผวาโครงการก่อสร้างวิทยาลัยนานาชาติฯ ทำดินสไลด์ เผยที่ป่าติดถนนไม่มีเอกสารสิทธิ เตรียมหอบหลักฐานร้อง ส.ส.เพื่อไทย ตรวจสอบด่วน!
นายสมชาย เวียงคำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.งิม อ.ปง จ.พะเยา กล่าวว่า ได้มีบุคคลนอกพื้นที่รายหนึ่งจากกรุงเทพฯ มาปรับพื้นที่เพื่อก่อสร้างวิทยาลัยนานาชาติล้านนา บริเวณริมถนนสายปง-เชียงคำ ในพื้นที่หมู่ 7 ต.ออย อ.ปง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยม ล่าสุดถูกปรับพื้นที่ไปประมาณ 50 ไร่ โดยอ้างว่าจะมาดำเนินการก่อสร้างสถาบันการศึกษา ซึ่งตอนแรกชาวบ้านคิดว่าจะเป็นสิ่งที่ดีเพราะเป็นเรื่องของการศึกษา
แต่ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ มีเพียงคนงานรับจ้างตัดหญ้าในแต่ละวันเท่านั้น เมื่อพื้นที่ดังกล่าวไม่มีต้นไม้ใหญ่น้อยอยู่เลย ฝนตกลงมาจึงชะล้างดินลงทุกครั้ง จึงกลัวเหตุการณ์ดินสไลด์จะตามมา
ผญบ.หมู่ 7 เปิดเผยอีกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การเข้ามาก่อสร้างวิทยาลัยนานาชาติดังกล่าวมีการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าบริเวณดังกล่าวอย่างชัดเจนหรือไม่ และพื้นที่ดังกล่าวติดถนนแล้วมีความชันเกินกว่า 45 องศา โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือหน่วยงานใดๆ ใช้พื้นที่ป่าก็ต้องขออนุญาตอย่างถูกต้องตามขั้นตอน
พร้อมกันนี้ หมู่บ้านได้มีการรักษาป่าชุมชนไว้ด้านหลังพื้นที่ที่กำลังมีการอ้างว่าจะใช้สร้างวิทยาลัยนานาชาติฯ เกรงว่าหากไม่ตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนฯ แห่งนี้ให้มีความชัดเจน อาจจะมีการบุกรุกป่าเพิ่มขึ้นได้
“อย่างไรก็ตาม ผมและตัวแทนของชาวบ้าน จะนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ นำไปเสนอต่อนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เพื่อพิจารณาประสานงานให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน และสืบค้นข้อเท็จจริงของวิทยาลัยนานาชาติดังกล่าวต่อไป” นายสมชายกล่าว
นายสมชาย เวียงคำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.งิม อ.ปง จ.พะเยา กล่าวว่า ได้มีบุคคลนอกพื้นที่รายหนึ่งจากกรุงเทพฯ มาปรับพื้นที่เพื่อก่อสร้างวิทยาลัยนานาชาติล้านนา บริเวณริมถนนสายปง-เชียงคำ ในพื้นที่หมู่ 7 ต.ออย อ.ปง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยม ล่าสุดถูกปรับพื้นที่ไปประมาณ 50 ไร่ โดยอ้างว่าจะมาดำเนินการก่อสร้างสถาบันการศึกษา ซึ่งตอนแรกชาวบ้านคิดว่าจะเป็นสิ่งที่ดีเพราะเป็นเรื่องของการศึกษา
แต่ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ มีเพียงคนงานรับจ้างตัดหญ้าในแต่ละวันเท่านั้น เมื่อพื้นที่ดังกล่าวไม่มีต้นไม้ใหญ่น้อยอยู่เลย ฝนตกลงมาจึงชะล้างดินลงทุกครั้ง จึงกลัวเหตุการณ์ดินสไลด์จะตามมา
ผญบ.หมู่ 7 เปิดเผยอีกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การเข้ามาก่อสร้างวิทยาลัยนานาชาติดังกล่าวมีการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าบริเวณดังกล่าวอย่างชัดเจนหรือไม่ และพื้นที่ดังกล่าวติดถนนแล้วมีความชันเกินกว่า 45 องศา โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือหน่วยงานใดๆ ใช้พื้นที่ป่าก็ต้องขออนุญาตอย่างถูกต้องตามขั้นตอน
พร้อมกันนี้ หมู่บ้านได้มีการรักษาป่าชุมชนไว้ด้านหลังพื้นที่ที่กำลังมีการอ้างว่าจะใช้สร้างวิทยาลัยนานาชาติฯ เกรงว่าหากไม่ตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนฯ แห่งนี้ให้มีความชัดเจน อาจจะมีการบุกรุกป่าเพิ่มขึ้นได้
“อย่างไรก็ตาม ผมและตัวแทนของชาวบ้าน จะนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ นำไปเสนอต่อนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เพื่อพิจารณาประสานงานให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน และสืบค้นข้อเท็จจริงของวิทยาลัยนานาชาติดังกล่าวต่อไป” นายสมชายกล่าว