ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ชุดเฉพาะกิจฯกรมป่าไม้ ลุยตรวจรีสอร์ต “เขาแผงม้า” รุกป่าสงวนฯ วังน้ำเขียวเสร็จทั้ง 22 แห่งแล้ว พบฮุบพื้นที่ป่ารวมกว่า 700 ไร่ ไร้เอกสารสิทธิยืนยัน มีเพียงใบ “ภบท. 5” และยังไม่มีหน้าไหนกล้าแสดงตัวเป็นเจ้าของ ด้าน“นอภ.วังน้ำเขียว” ฐานะ หน.พนักงานสอบสวน เผย ทำตาม กม.ไม่กดดัน แต่กำหนดเวลาไม่ได้ เผย ดึงอัยการ-นิติกรจังหวัด ช่วย ย้ำ “วังน้ำเขียว” ยังปกติสวยงามเช่นเคย วอน ปชช.มาเที่ยว อ้างข่าวฮุบป่าทำชาวบ้านเครียดป่วยเข้ารักษาเต็ม รพ.
วันนี้ (12 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการกับรีสอร์ต 22 แห่ง ที่เข้าข่ายบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง บริเวณเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่พนักงานป่าไม้ได้แจงความร้องทุกข์ดำเนินคดีไว้ที่ สภ.วังน้ำเขียว ทั้ง 22 แห่ง แล้ว ว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปราบการทำลายทรัพยากรป่าพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ตามคำสั่งของกรมป่าไม้ จำนวน 6 ชุด รวมกว่า 300 นาย ได้กระจายลงพื้นที่เข้าตรวจค้นรีสอร์ตเป้าหมาย 22 แห่ง ที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เสร็จเรียบร้อยทั้งหมด แล้ว
รีสอร์ตบางแห่งยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโดยดี แต่หลายแห่งไม่มีคนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกและเขียนรูปแปลงสถานที่พร้อมกับทำการรังวัดพื้นที่โดยรอบ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า รีสอร์ตทั้ง 22 แห่ง มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง เนื้อที่รวมกว่า 700 ไร่ ทุกแห่งยังไม่มีผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของ และยังไม่มีหลักฐานเอกสารสิทธิการครอบครองมาแสดงกับเจ้าหน้าที่แม้แต่แห่งเดียว ส่วนใหญ่มีเพียงใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภบท.5) ที่ออกโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคือ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) มาแสดงเท่านั้น
“เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ผู้ดูแลสถานที่ทั้งหมดนำเอกสารสิทธิในการครอบครองที่ดินมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน หากไม่นำมาแสดงกรมป่าไม้ก็จะมีคำสั่งให้เจ้าของรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ภายใน 45 วัน ซึ่งหากครบกำหนดแล้วยังไม่ปฏิบัติตาม กรมป่าไม้มีสิทธิ์เข้าทำการรื้อถอนได้เอง โดยเจ้าของจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด” นายสุเทพ กล่าว
ส่วนการตรวจสอบรีสอร์ตและบ้านพักอีก 17 แห่งที่กรมป่าไม้ พบว่า มีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง โซนซี ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว เพิ่มเติม นั้นภายในสัปดาห์หน้าทางกรมป่าไม้จะเริ่มเข้าดำเนินการตรวจสอบ โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการดำเนินกับ รีสอร์ตและบ้านพัก ทั้ง 22 รายแรก
ด้านตำรวจ สภ.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ได้ออกหมายเรียกให้เจ้าของรีสอร์ต ทั้ง 22 แห่ง เข้ารับทราบข้อกล่าวหา และนำหลักฐานเอกสารสิทธิครอบครองที่ดินเข้าชี้แจงกับเจ้าหน้าที่แล้ว เพื่อประกอบสำนวนคดีก่อนสรุปสำนวนส่งอัยการ และส่งฟ้องศาลต่อไป แต่ล่าสุดยังไม่มีใครเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด
นายชัยยงค์ ฮมภิรมย์ นายอำเภอวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง บริเวณเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว 22 แห่ง เปิดเผยว่า การดำเนินการสอบสวนรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ จำนวน 22 ราย ดังกล่าวในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนเราต้องดำเนินการไปขบวนการของการสอบสวน ซึ่งได้ส่งพนักงานสอบสวนฝ่ายปกครองเข้าร่วมในการตรวจสอบ โดยจะมีทางอัยการจังหวัดนครราชสีมาเป็นที่ปรึกษา
“ขอเรียนว่า เรื่องนี้เป็นตามกระบวนการปกติ ซึ่งการสอบสวนเป็นการดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่ระบุไว้ว่า จะต้องค้นหาข้อเท็จจริงออกมาให้ได้แล้วก็ดำเนินการปรับใช้กันตามกฎหมาย เพื่อเสนอไปทางอัยการได้มีคำสั่งคดีต่อไป” นายชัยยงค์ กล่าว
นายชัยยงค์ กล่าวอีกว่า ในส่วนการสอบสวนจะแล้วเสร็จในกี่วันหรือกี่สัปดาห์นั้นคงยังไม่สามารถกำหนดวันได้แน่ชัด เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างประกอบการสอบสวนด้วย เรื่องนี้ขอเรียนว่า เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ซึ่งตนต้องรายงานไปยัง นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอนิติกรจากทางจังหวัด มาร่วมในการสอบสวนคดีด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการสอบสวนไม่มีอะไรหนักใจ กระบวนยุติธรรมต้องว่ากันไป แต่เรื่องการส่งผลกระทบการท่องเที่ยวเป็นเรื่องของการเกิดจากกระแสข่าวมากกว่า เพราะกระแสข่าวที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของ อ.วังน้ำเขียว หลายด้าน ตนในฐานะเป็นนายอำเภอวังน้ำเขียว อยากให้พี่น้องประชาชนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยให้มาเที่ยว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เช่นเดิม
“ในความเป็นจริงแล้ว สถานการณ์ในพื้นที่เรายังมีความสงบเรียบร้อยดี อ.วังน้ำเขียว ยังเป็นยังมีความสวยงาม อากาศดีเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรที่รุนแรงและน่ากลัวแต่อย่างใด” นายชัยยงค์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การสอบสวนมีแรงกัดดัน หรือถูกบีบอย่างไรหรือไม่ นายชัยยงค์ ตอบว่า เรื่องนี้ไม่มี มีแต่เรื่องของความเดือดร้อนกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นที่สร้างความสับสนและสร้างความวิตกกังวลให้กับพี่น้องในพื้นที่หลายประการ ทั้งเรื่องการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะผลกระทบที่ชัดเจนในปัจจุบันก็คือคนไม่ค่อยมาเที่ยว อ.วังน้ำเขียว เกษตรกรก็เดือดร้อน พืชผักผลผลิตการเกษตรขายไม่ได้ คนก็ป่วยเต็มโรงพยาบาลหมดเลย เนื่องจากว่า มีความเครียดกันมาก
