ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- กรมป่าไม้ระดมกำลังจากทั่วประเทศกว่า 300 นาย รอบุกค้น 22 รีสอร์ตรุกป่า “เขาแผงม้า” เผย จนท.ป่าไม้ถกเครียด ร่วม ตร.-กอ.รมน.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ข้อยุติ สุดท้ายต้องรอศาลอนุมัติออกหมายค้นในช่วงบ่ายวันนี้
วันนี้ (10 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ที่สถานีวนวัฒนวิจัยสะแกราช สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ กรมป่าไม้ ต.อุดมทรัย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา กรมป่าไม้ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากสำนักการจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 8 (นครราชสีมา), สำนักการจัดการฯ ที่ 9 (ชัยภูมิ), สายตรวจปราบปรามการกระทำผิดว่าด้วยป่าไม้ จากทั่วประเทศ
กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กบ.ปทศ) กองกำกับการ 3 หรือตำรวจป่าไม้ รวมกว่า 300 นาย พร้อมรถยนต์หลายสิบคัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ทหารจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครราชสีมา (กอ.รมน.นม.) อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อเตรียมพร้อมลงพื้นที่เข้าตรวจสอบรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ จำนวน 22 แห่ง ที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง บริเวณเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
ทั้งนี้ ชุดเฉพาะกิจดังกล่าวจัดแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 6 ชุด ในการกระจายกันเข้าปฏิบัติภารกิจตรวจสอบรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศเป้าหมายตามที่ได้รับมอบหมายพร้อมกันทั้ง 22 แห่งภายในวันนี้ (10 ส.ค.)
เวลา 10.00 น. นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักการจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) พร้อมด้วย หัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, ฝ่ายทหาร จาก กอ.รมน.นม. นำโดย พล.ต.โชติวัฒน์ ภูมิภัทรสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการ กอ.รมน. นม.ได้ร่วมหารือกันอย่างเคร่งเครียด โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์แต่อย่างใด การหารือใช้เวลานานร่วม 3 ชั่วโมงก่อนพักรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งไม่มีใครยอมเปิดเผยรายละเอียดต่อสื่อมวลชน เพียงแต่แจ้งว่า ที่ประชุมมีมติร่วมกันว่าการเข้าตรวจสอบรีสอร์ตบ้านพักเป้าหมายทั้ง 22 แห่งดังกล่าว ต้องรอศาลจังหวัดนครราชสีมาอนุมัติหมายศาลออกมาก่อนจึงจะเข้าตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดได้
ทั้งนี้ เดิมทีทางกรมป่าไม้ต้องการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เข้าทำการตรวจสอบรีสอร์ตเป้าหมายทันที โดยไม่ต้องรอหมายศาล แต่ได้รับการท้วงติงจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าอาจจะมีปัญหาตามมาภายหลังได้ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด จึงต้องรอความชัดเจนจากศาลจะดีกว่า
จากนั้นเวลาประมาณ 13.00 น.วันเดียวกันนายสุเทพ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้เดินทางไปฟังคำสั่งศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งศาลจะพิจารณาหมายค้นรีสอร์ตทั้ง 22 แห่งในช่วงบ่ายวันนี้