ชาวนาลุ่มน้ำยมหมดทางกู้นาล่ม-ประกาศหาคนเกี่ยวหนีน้ำ แบ่งข้าวแทนค่าแรง

พิจิตร - ชาวนาพื้นที่ลุ่มน้ำยม โอดครวญหนัก เจอฤทธิ์พายุฝนนกเตน ระหว่างข้าวตั้งท้องออกรวงแก่เต็มที่ ไม่มีแรงงานเก็บเกี่ยวแถมรถเกี่ยวข้าวก็ลงแปลงนาไม่ได้ ตัดใจประกาศใครออกแรงช่วยเกี่ยวแบ่งผลผลิตให้เสมอภาค สุดท้ายนา 60 ไร่ ได้ข้าว 7 เกวียน ขายได้ 3 หมื่นบาทเศษ ขาดทุนย่อยยับ วอน “ยิ่งลักษณ์” ช่วยชดเชย

วันนี้ (3 ส.ค.) นางสวิง กลับศรี อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/2 หมู่ 12 ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร โอดครวญร้องทุกข์กับ นายวิเชียร อนุศาสนนันท์ นายอำเภอสามง่าม จ.พิจิตร ที่มาตรวจเยี่ยมพื้นที่นาข้าวที่ถูกน้ำท่วม ว่า ตนเองเป็นชาวนาในแถบลุ่มน้ำยม ทำนา 60 ไร่ ต้นข้าวตั้งท้องออกรวงสมบูรณ์แก่เต็มที่รอเก็บเกี่ยว แต่แล้วเพียงแค่ 3 วันที่เกิดพายุฝนนกเตน และน้ำจากแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่ง ทำให้น้ำเข้าท่วมนาข้าวเสียหายย่อยยับ เก็บเกี่ยวรอบแรกได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย 12 ไร่ จากนั้นรถเกี่ยวก็ลงแปลงนาไม่ได้

ขณะนี้ตนจึงตัดใจประกาศให้ลูกหลานญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน ว่า ผลผลิตข้าวในนาใครอยากได้ให้มาออกแรงเกี่ยวแล้วก็ให้เอาผลผลิตไปแบ่งกันได้เลย ปรากฏว่า ต้องช่วยดันพายเรือเกี่ยวข้าวได้แค่ 10 ไร่ ได้ผลผลิตทั้งสิ้นแค่ 7 ตัน นำไปขายได้ตันละ 4-5 พันบาท ได้เงินมาแค่ 30,000 บาท แต่ลงทุนไป 120,000 บาท จึงขาดทุนย่อยยับ และอยากวอนให้รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ขอให้หาวิธีหาเงินชดเชยหรือหาเมล็ดพันธุ์ข้าวมาแจกเพื่อจะได้ทำนาในฤดูนาปีต่อไป และหวังว่า จะได้ผลผลิตและจำนำได้ราคาตันละ 15,000 บาท มาชำระหนี้สินที่นาล่มในฤดูกาลนี้

นางสวิง เล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้ เพียง 3 วัน วาดความฝันไว้ว่าจะได้เงินแสนจากการเกี่ยวข้าวขาย ซึ่งพอเห็นว่าน้ำจะท่วมสูงก็รีบไปจ้างรถแบ็กโฮมาขุดทำคันดินเสริมรอบแปลงนาหวังจะรอดหมดเงินไป 3 หมื่นบาท จู่ๆ เจอฤทธิ์พายุนกเตนทำเอาแทบลมใส่ เพราะน้ำท่วมนาหมด แต่ก็ต้องตัดใจและตั้งสติสู้ เพราะเหตุที่เกิดเป็นภัยธรรมชาติ

ปรากฏว่า ข้าวที่เกี่ยวได้มีความชื้นสูง ไปถึงโรงสีก็ถูกปฏิเสธการซื้อ และเล่นตัวตีราคาให้แค่ตันละ 3-4 พันบาท จนต้องตัดใจขายเหมาได้เงินมาแค่ 30,000 บาท ตีทุนคืนได้ยังไม่ถึงครึ่งส่วนข้าวที่เหลือในท้องนาก็หมดปัญญาเกี่ยว จะทิ้งไว้ให้น้ำท่วมก็จะเหม็นเน่าและสงสารแม่โพสพจึงตัดใจประกาศใครมีแรงอยากได้ก็ให้มาช่วยกันเกี่ยวข้าว ได้เท่าไหร่ก็นำเอามาตากที่ลานตากข้าวกลางหมู่บ้านแล้วแบ่งเฉลี่ยๆ กันไป

ในส่วนของนายวิเชียร อนุศาสนนันท์ นายอำเภอสามง่าม จ.พิจิตร ได้รับทราบปัญหาแล้ว และขอให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบในลักษณะดังกล่าว ให้ไปแจ้งความเสียหายกับ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และขอให้ถ่ายภาพเก็บหลักฐานมาแสดงด้วย ถ้ามีโอกาสและมีนโยบายของรัฐบาลที่จะมีการจ่ายเงินชดเชย หรือมีสิ่งของทางด้านการเกษตรมาช่วยเหลือ จะได้เสนอชื่อให้ได้รับความช่วยเหลือต่อไป