KNUผวาถูกไทยจับสนองคำขอพม่าลอบออกแม่สอด-กลับที่มั่นฝั่งพม่าเพียบ

ตาก- นายทหารใหญ่ KNU.ผวา หลังจากพม่าประสานไทยปราบ พบหลายนายย้ายกลับฐานที่มั่นในฝั่งพม่า ตรงข้าม “อุ้มผาง”แล้ว แบะท่าพร้อมเจรจา แต่มีข้อแม้ให้ “อองซานซูจี”เป็นคนกลาง พม่าต้องหยุดละเมิดสิทธิชนชาวกะเหรี่ยง

หลังจากจังหวัดตาก ได้ส่งตัวแทนเข้าพบเอกอัครราชทูตพม่า ประจำประเทศไทย เพื่อหารือถึงแนวทางการเปิดด่านฯเมียวดี ตรงข้ามด่านฯแม่สอด จ.ตาก ที่ถูกรัฐบาลกลางของพม่าสั่งปิดมานานกว่า 1 ปีแล้ว รวมถึงผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดเมียวดี ได้มีการพูดคุยกับนายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ในประเด็นเดียวกัน ซึ่งพม่าก็มีทีท่าตอบรับ แต่มีประเด็นให้ไทยแก้ไขแลกการเปิดด่านคือ 1.แก้ไขปัญหาศูนย์อพยพ 2. จับมือระเบิดกรุงร่างกุ้ง และ 3. จับกุมแกนนำ KNU ที่อาศัยในเขตแม่สอด นั้น

เรื่องดังกล่าวได้ทำให้เกิดปฏิกิริยาจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ (KNU)ทันที โดยหลังจากที่ทางการพม่าเมียวดี ได้ให้พิกัดที่อยู่ของแกนนำระดับสูงของ KNU ที่อาศัยในแม่สอดให้กับเจ้าหน้าที่ไทย ปรากฏว่าแกนนำระดับนายพันหลายนายได้ย้ายกลับไปยังที่มั่นกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) บริเวณบ้านบ่อแร่ ตรงข้ามบ้านตะเปอะพู ม.1 ต.โมโกร อ.อุ้มผาง จ.ตาก เนื่องจากปลอดภัยกว่า รวมทั้งเพื่อไม่สร้างปัญหาให้กับผู้ว่าฯตากด้วย

ขณะที่นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคง เพื่อหาทางแก้ไขรวมทั้งให้ความร่วมมือกับทางการพม่าที่ได้ขอร้องมา เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ และร่วมกันแก้ไขปัญหาร่วมกันอีกทางหนึ่งด้วย

ผู้นำระดับสูงของ KNU ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ที่ฐานที่มั่นแห่งหนึ่งในชายแดนแม่สอด ถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางกะเหรี่ยง KNU เข้าใจถึงสถานการณ์ของทางผู้ว่าฯตาก ดีว่าต้องพื้นที่ที่มีปัญหา ทั้งเรื่องการเปิดด่านที่ปิดยืดเยื้อมานาน รวมทั้งศูนย์อพยพผู้ลี้ภัยทั้ง 3 ศูนย์ก็ยืดเยื้อมานานกว่า 37 ปี เป็นภาระยุ่งยากในการดูแลของไทย และเมื่อไทยประสานไปยังพม่าก็มีข้อแม้ดังกล่าวออกมา ซึ่งไม่เกินความคาดหมายของเรา

แต่ยืนยันว่า เรื่องการวางระเบิดนั้นก็ไม่เกี่ยวข้องกับ KNU เพราะเป้าหมายของ KNU ต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย ไม่ใช่การก่อวินาศกรรม ก่อความรุนแรง

นายทหารกะเหรี่ยง ยังกล่าวอีกว่า KNU เราก็อยากมีสันติภาพเช่นกัน ที่ผ่านมาทราบว่านางอ่องซานซูจี ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยในพม่า ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดีแห่งสหภาพเมียนม่าร์ และผู้นำชนกลุ่มน้อย 4 กลุ่มประกอบด้วยกลุ่ม KNU กลุ่ม KIO กลุ่มมอญใหม่ NMSP และกลุ่มกองทัพกู้ชาติไทยใหญ่ SSA ระบุว่าต้องการเห็นสันติภาพและความสงบสุขในพม่า และที่ผ่านมาประชาชนและประเทศชาติขาดโอกาสในการพัฒนา โดยขอให้ทุกฝ่ายหยุดปฏิบัติการใดๆทางการทหาร โดยพร้อมจะเป็นคนกลางเจรจา ซึ่ง KNU ไม่ขัดข้องกับข้อเสนอดังกล่าว และเห็นว่าเป็นการดีที่จะทำให้ประเทศชาติสงบ มุ่งไปสู่การพัฒนาทั้งเศรษฐกิจ-การเมือง

แต่มีข้อแม้ว่าพม่าจะต้องหยุดละเมิดและหยุดกดขี่ข่มเหงชนชาวกะเหรี่ยงทันที เพราะที่ผ่านมาชาวกะเหรี่ยงมักจะถูกละเมิดตลอดเวลา จากนั้นก็จะเข้าสู่การเจรจา