ผู้ว่าฯตาก ยกมือหนุน “ซูจี” ดึงพม่า-ชนกลุ่มขึ้นโต๊ะเจรจาหวังพัฒนาการค้าร่วม

ตาก - พ่อเมืองตาก เห็นด้วย “อ่องซานซูจี” เป็นคนกลางเจรจาระหว่างรัฐบาลพม่ากับ 4 ชนกลุ่มน้อย เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าอย่างแท้จริง หวังผู้อพยพจะได้เดินทางกลับประเทศ

วันนี้ (29 ก.ค.) นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก จังหวัดชายแดนที่มีช่องทางการค้ากับพม่าใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ กล่าวถึงกรณีที่ นางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยในพม่า ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดีแห่งสหภาพพม่า และผู้นำชนกลุ่มน้อย 4 กลุ่มประกอบด้วยกลุ่ม KNU กลุ่ม KIO กลุ่มมอญใหม่ NMSP และกลุ่มกองทัพกู้ชาติไทยใหญ่ SSA

หนังสือของนางอองซานซูจี ที่เขียนเปิดผนึกถึงทุกฝ่าย เสนอตัวรับเป็นตัวกลางในการหาทางออกให้ประเทศพม่า ว่า เห็นด้วยกับแนวคิดของซูจี เพราะพม่าจะได้เกิดสันติภาพและความสงบสุขผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงจะได้เดินทางกลับประเทศ และจะทำให้บริเวณแนวชายแดนไทย-พม่า ที่เคยเป็นสนามรบปรับเปลี่ยนเป็นสนามเศรษฐกิจการค้าชายแดน มีการค้าขาย เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจ รวมทั้งประชาชนพม่าจะได้มุ่งสู่การพัฒนาก่อนที่จะเข้าสู่ระบบสากลในเขตการค้าเสรีอาเซียน

ผู้ว่าฯตาก เชื่อว่า พม่ามีแนวโน้มที่จะปรับเปลี่ยนประเทศไปในแนวทางที่ดีขึ้นทั้งเศรษฐกิจ-การเมืองและสังคม หลังมีรัฐบาลใหม่ และมีท่าทีพัฒนาความสัมพันธ์กับนานาประเทศรวมทั้งชนกลุ่มน้อย

เขามองว่า หากมีการเจราจาระหว่างรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดี พล.อ.เต็งเส่ง กับ ชนกลุ่มน้อยฝ่ายต่อต้าน จะทำให้การเมืองและเศรษฐกิจพม่าดีขึ้น ส่งผลต่อการเปิดชายแดนแม่สอด-เมียวดี นำการค้าเข้าสู่ระบบ รวมทั้งมีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด-เมียวดีร่วมกัน

“สิ่งสำคัญผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงจะได้เดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อประกอบอาชีพที่บ้านเมืองของตัวเอง” ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าว

ขณะที่แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU กล่าว ณ.ฐานที่มั่นแห่งหนึ่งชายแดนไทย-พม่า ตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก ถึงกรณีเดียวกันนี้ว่า KNU ไม่ขัดข้องกับข้อเสนอดังกล่าว และเห็นว่าเป็นการดีที่จะทำให้ประเทศชาติสงบ และมุ่งไปสู่การพัฒนาทั้งเศรษฐกิจ-การเมือง แต่มีข้อแม้ว่าพม่าจะต้องหยุดละเมิดและหยุดกดขี่ข่มเหงชนชาวกะเหรี่ยงทันที เพราะที่ผ่านมาชาวกะเหรี่ยงมักจะถูกละเมิดตลอดเวลา จากนั้นก็จะเข้าสู่การเจรจา

ทั้งนี้ นางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยในพม่า ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดีแห่งสหภาพเมียนมาร์ และผู้นำชนกลุ่มน้อย 4 กลุ่ม ระบุว่า ต้องการเห็นสันติภาพและความสงบสุขในพม่า และที่ผ่านมาประชาชนและประเทศชาติขาดโอกาสในการพัฒนา โดยขอให้ทุกฝ่ายหยุดปฏิบัติการใดๆ ทางการใช้กำลังทหาร โดยพร้อมจะเป็นคนกลางเจรจา