ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้เฒ่า เด็กและชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี สุดทนปัญหาฝุ่นจากรถสิบล้อบรรทุกดินจนล้มป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ และทางเดินหายใจ หลังไม่มีหน่วยงานในพื้นที่เข้าดูแล ลุกฮือปิดถนนพร้อมแฉภาพถ่ายการขุดดินติดพื้นที่เขาจนลึกเป็นเวิ้งกว้าง ร้องผู้มีอำนาจเร่งตรวจสอบคนตระกูลพึ่งเมือง ด้านเจ้าของบ่อดินเดือดซิ่งเก๋งชนถังขยะกั้นถนน ก่อนปะทะคารมกลุ่มชาวบ้านจนหวิดวางมวย
จากกรณีนายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ ได้มอบหมายให้นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยนายชาติ เหมือนอบ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลพลูตาหลวง นายสุเมธี ศิริพันธ์ กำนันตำบลพลูตาหลวง และผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง เข้าเจรจาและแก้ไขปัญหาหลังชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ ได้รวมตัวเรียกร้องให้กลุ่มคนขับสิบล้อบรรทุกดินของหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งซึ่งขออนุญาตจากหน่วยงานรัฐเข้าทำการขุดดินและขนย้ายดินออกนอกพื้นที่เพื่อปรับหน้าดินในโครงการเป็นระยะเวลา 1 ปี และมีกำหนดสิ้นสุดวันที่ 10 มิถุนายนปีหน้า
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวก่อให้เกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจายจนชาวบ้านจำนวนมากได้รับผลกระทบล้มป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ และสภาพถนนภายในหมู่บ้านยังเป็นหลุมบ่อ ซึ่งที่ผ่านมามีชาวบ้านได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุและเสียชีวิตมาแล้ว
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา และการเจรจาระหว่างตัวแทนจากอำเภอศรีราชา และผู้ประกอบการได้ข้อยุติโดยที่กลุ่มคนขับสิบล้อบรรทุกดินรับปากว่าจะแก้ไขปัญหาด้วยการซ่อมแซมถนนที่ชำรุด และจัดรถน้ำเข้าฉีดบริเวณเส้นทางที่รถวิ่งผ่านตั้งแต่ช่วงบริเวณหมู่บ้านสมอทอง ไปจนถึงวัดทุ่งโปรง
ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ (29 ก.ค.) นายวิชัย เภาสูตร อดีตผู้ใหญ่ บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลพลูตาหลวง พร้อมด้วย นางสำเนียง กีระสี แกนนำและชาวบ้านกว่า 30 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก ได้พร้อมใจกันใช้ผ้าปิดจมูกออกมารวมตัวปิดถนนช่วงบริเวณหน้าวัดทุ่งโปรง และยังนำถังขยะมาวางกั้นไม่ให้รถสิบล้อบรรทุกดินจากทั้ง 2 บ่อวิ่งผ่าน เนื่องจากสุดทนที่เจ้าของบ่อ ผู้ประกอบการรถบรรทุกและหน่วยงานในพื้นที่ไม่แก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น
สำหรับการรวมตัวของชาวบ้านก็เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเข้ามายุติการขุดและขนย้ายดินออกนอกพื้นที่ แต่เหตุการณ์กลับตึงเครียดขึ้นเมื่อนายสามิตร พึ่งเมือง บุตรชายของนายสำนวน พึ่งเมือง เจ้าของบ่อดิน ได้ขับรถยนต์ฮอนด้า รุ่นซีวิค 3 ประตู สีเหลือง ทะเบียน กต-6695 ระยอง เข้ามาที่กลุ่มชาวบ้านด้วยความเร็ว และพุ่งชนถังขยะที่วางกั้นถนนจนล้ม จากนั้นได้ลงจากรถเดินปรี่เข้ามาหากลุ่มชาวบ้าน พร้อมด้วยนายสำนวน นายสามารถ และน.ส.สกาวเดือน ซึ่งทั้งหมดเป็นคนในตระกูลพึ่งเมือง ใช้วาจาที่ไม่สุภาพใส่ผู้ชุมนุม
จนกระทั่ง เรือเอก บุญเสริม กีระสี อายุ 65 ปี ทหารนอกราชการ สังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ตะโกนด่าโต้ตอบจนเกือบจะวางมวยใส่กัน และเป็นจังหวะเดียวกับที่รถสิบล้อบรรทุกดินได้อาศัยช่วงดังกล่าววิ่งผ่านไปด้วยความเร็ว พร้อมตะโกนด่ากลุ่มชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านไม่ยอมเจรจาอีกต่อไป และเรียกร้องให้ทั้ง 2 บ่อยุติการขุดดิน
นอกจากนั้น นายภคพล และนางดลพร ปรีชา สองสามีภรรยาที่ได้รับความเดือดร้อน ได้อุ้มเด็กชายภาณุพล ปรีชา วัยขวบ 11 เดือน บุตรชายที่ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้จากสาเหตุฝุ่นละอองของรถสิบล้อบรรทุกดิน พร้อมทั้งนำหลอดดูดน้ำเกลือเพื่อฉีดเข้าจมูกบุตรชายสำหรับล้างสิ่งสกปรกในโพรงจมูกตามที่แพทย์สั่งให้ทำเป็นประจำทุกวันมาแสดงต่อสื่อมวลชน ก่อนระบายความคับแค้นใจที่มีต่อกลุ่มนายทุนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน
ขณะที่ นางสำเนียง กีระสี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน บอกผ่านผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านหมู่ที่ 8 ตำบลพลูตาหลวง ต้องประสบปัญหาฝุ่นละอองอย่างหนัก รวมถึงถนนเป็นหลุมบ่อมา ซึ่งที่ผ่านมาได้ร้องขอให้หน่วยงานในพื้นที่เข้าช่วยแก้ไขปัญหา แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ล่าสุดจึงขอให้หน่วยงานที่มีอำนาจ โดยเฉพาะกรมทรัพยากรธรรมชาติฯ ลงมาแก้ไขปัญหาและตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการบุกรุกป่าและขุดเขาหรือไม่ เบื้องต้นได้ร่างรายชื่อชาวบ้านที่ประสบปัญหาแล้วเกือบ 100 ราย พร้อมเตรียมยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี
นายวิชัย เภาสูตร อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ได้นำภาพถ่ายเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นภาพรถแบ็กโฮที่กำลังขุดดินในพื้นที่บ่อของนายสำนวน พึ่งเมือง ซึ่งหากมองจากภาพแล้วพบว่าพื้นที่ป่าไม้สูงใหญ่ได้ถูกถางออกจนหมดจนเป็นหลุมลึกหลายสิบเมตร เป็นเวิ้งลึกกว้างหลายไร่ อีกทั้งยังอยู่ใต้เสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวมีป่าไม้สูงใหญ่คล้ายกำแพงสูงปิดล้อมพื้นที่รอบนอก และมีประตูรั้วกั้นทางเข้าเพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป ทำให้ไม่มีผู้ใดเห็นภาพการขุดอย่างชัดเจน
จากกรณีนายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ ได้มอบหมายให้นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยนายชาติ เหมือนอบ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลพลูตาหลวง นายสุเมธี ศิริพันธ์ กำนันตำบลพลูตาหลวง และผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง เข้าเจรจาและแก้ไขปัญหาหลังชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ ได้รวมตัวเรียกร้องให้กลุ่มคนขับสิบล้อบรรทุกดินของหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งซึ่งขออนุญาตจากหน่วยงานรัฐเข้าทำการขุดดินและขนย้ายดินออกนอกพื้นที่เพื่อปรับหน้าดินในโครงการเป็นระยะเวลา 1 ปี และมีกำหนดสิ้นสุดวันที่ 10 มิถุนายนปีหน้า
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวก่อให้เกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจายจนชาวบ้านจำนวนมากได้รับผลกระทบล้มป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ และสภาพถนนภายในหมู่บ้านยังเป็นหลุมบ่อ ซึ่งที่ผ่านมามีชาวบ้านได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุและเสียชีวิตมาแล้ว
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา และการเจรจาระหว่างตัวแทนจากอำเภอศรีราชา และผู้ประกอบการได้ข้อยุติโดยที่กลุ่มคนขับสิบล้อบรรทุกดินรับปากว่าจะแก้ไขปัญหาด้วยการซ่อมแซมถนนที่ชำรุด และจัดรถน้ำเข้าฉีดบริเวณเส้นทางที่รถวิ่งผ่านตั้งแต่ช่วงบริเวณหมู่บ้านสมอทอง ไปจนถึงวัดทุ่งโปรง
ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ (29 ก.ค.) นายวิชัย เภาสูตร อดีตผู้ใหญ่ บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลพลูตาหลวง พร้อมด้วย นางสำเนียง กีระสี แกนนำและชาวบ้านกว่า 30 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก ได้พร้อมใจกันใช้ผ้าปิดจมูกออกมารวมตัวปิดถนนช่วงบริเวณหน้าวัดทุ่งโปรง และยังนำถังขยะมาวางกั้นไม่ให้รถสิบล้อบรรทุกดินจากทั้ง 2 บ่อวิ่งผ่าน เนื่องจากสุดทนที่เจ้าของบ่อ ผู้ประกอบการรถบรรทุกและหน่วยงานในพื้นที่ไม่แก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น
สำหรับการรวมตัวของชาวบ้านก็เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเข้ามายุติการขุดและขนย้ายดินออกนอกพื้นที่ แต่เหตุการณ์กลับตึงเครียดขึ้นเมื่อนายสามิตร พึ่งเมือง บุตรชายของนายสำนวน พึ่งเมือง เจ้าของบ่อดิน ได้ขับรถยนต์ฮอนด้า รุ่นซีวิค 3 ประตู สีเหลือง ทะเบียน กต-6695 ระยอง เข้ามาที่กลุ่มชาวบ้านด้วยความเร็ว และพุ่งชนถังขยะที่วางกั้นถนนจนล้ม จากนั้นได้ลงจากรถเดินปรี่เข้ามาหากลุ่มชาวบ้าน พร้อมด้วยนายสำนวน นายสามารถ และน.ส.สกาวเดือน ซึ่งทั้งหมดเป็นคนในตระกูลพึ่งเมือง ใช้วาจาที่ไม่สุภาพใส่ผู้ชุมนุม
จนกระทั่ง เรือเอก บุญเสริม กีระสี อายุ 65 ปี ทหารนอกราชการ สังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ตะโกนด่าโต้ตอบจนเกือบจะวางมวยใส่กัน และเป็นจังหวะเดียวกับที่รถสิบล้อบรรทุกดินได้อาศัยช่วงดังกล่าววิ่งผ่านไปด้วยความเร็ว พร้อมตะโกนด่ากลุ่มชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านไม่ยอมเจรจาอีกต่อไป และเรียกร้องให้ทั้ง 2 บ่อยุติการขุดดิน
นอกจากนั้น นายภคพล และนางดลพร ปรีชา สองสามีภรรยาที่ได้รับความเดือดร้อน ได้อุ้มเด็กชายภาณุพล ปรีชา วัยขวบ 11 เดือน บุตรชายที่ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้จากสาเหตุฝุ่นละอองของรถสิบล้อบรรทุกดิน พร้อมทั้งนำหลอดดูดน้ำเกลือเพื่อฉีดเข้าจมูกบุตรชายสำหรับล้างสิ่งสกปรกในโพรงจมูกตามที่แพทย์สั่งให้ทำเป็นประจำทุกวันมาแสดงต่อสื่อมวลชน ก่อนระบายความคับแค้นใจที่มีต่อกลุ่มนายทุนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน
ขณะที่ นางสำเนียง กีระสี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน บอกผ่านผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านหมู่ที่ 8 ตำบลพลูตาหลวง ต้องประสบปัญหาฝุ่นละอองอย่างหนัก รวมถึงถนนเป็นหลุมบ่อมา ซึ่งที่ผ่านมาได้ร้องขอให้หน่วยงานในพื้นที่เข้าช่วยแก้ไขปัญหา แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ล่าสุดจึงขอให้หน่วยงานที่มีอำนาจ โดยเฉพาะกรมทรัพยากรธรรมชาติฯ ลงมาแก้ไขปัญหาและตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการบุกรุกป่าและขุดเขาหรือไม่ เบื้องต้นได้ร่างรายชื่อชาวบ้านที่ประสบปัญหาแล้วเกือบ 100 ราย พร้อมเตรียมยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี
นายวิชัย เภาสูตร อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ได้นำภาพถ่ายเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นภาพรถแบ็กโฮที่กำลังขุดดินในพื้นที่บ่อของนายสำนวน พึ่งเมือง ซึ่งหากมองจากภาพแล้วพบว่าพื้นที่ป่าไม้สูงใหญ่ได้ถูกถางออกจนหมดจนเป็นหลุมลึกหลายสิบเมตร เป็นเวิ้งลึกกว้างหลายไร่ อีกทั้งยังอยู่ใต้เสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวมีป่าไม้สูงใหญ่คล้ายกำแพงสูงปิดล้อมพื้นที่รอบนอก และมีประตูรั้วกั้นทางเข้าเพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป ทำให้ไม่มีผู้ใดเห็นภาพการขุดอย่างชัดเจน