แฉนายทุนบุกรุกตัดไม้และขุดเขาในพลูตาหลวง

ศูนย์ข่าวศรีราชา - แฉนายทุนบุกรุกตัดไม้และขุดเขา บริเวณตำบลพลูตาหลวง สัตหีบ ส่งผลกระทบ มีฝุ่น ถนนพัง และล้มป่วยด้านระบบทางเดินหายใจ วอนผู้มีอำนาจตรวจสอบด่วน

จากกรณีที่ นายวิชัย เภาสูตร อายุ 45 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลพลูตาหลวง พร้อมด้วย นางสำเนียง กีระสี อายุ 46 ปี ได้เป็นแกนนำชาวบ้านกว่า 30 ราย ที่ประสบปัญหาฝุ่นละอองจากรถสิบล้อบรรทุกดิน ที่ขุดดินจากบ่อลูกรังในพื้นที่ของ นายสำนวน พึ่งเมือง และนางสุพิน เสาะการ ไปใช้ในโครงการหมู่บ้านจัดสรร โดยได้ใส่ผ้าปิดจมูกออกมารวมตัวปิดถนนบริเวณหน้าวัดทุ่งโปรง หมู่ที่ 8 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ประท้วงไม่ให้รถสิบล้อบรรทุกดินวิ่ง

สาเหตุที่ต้องปิดถนน เนื่องจากชาวบ้านต่างได้รับผลกระทบล้มป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ และทางเดินหายใจ เกือบครึ่งหมู่บ้าน และถนนพัง มานานนับปี โดยไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้การช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหา ซึ่งการปิดถนนประท้วงนั้นเริ่มขึ้นเมื่อนายสำนวน นายสามิตร นายสามารถ และนางสาวสกาวเดือน ตระกูลพึ่งเมือง กลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ได้เดินทางเข้าเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วง จนเกิดปากเสียงอย่างรุนแรงเกือบถึงขึ้นชกต่อยกัน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจ เรียกร้องให้ยุติการขุด และขอให้หน่วยงานที่มีอำนาจเข้ามาตรวจสอบพื้นที่ทั้ง 2 แห่ง ซึ่งอาจมีการลักลอบขุดเขา และตัดไม้ทำลายป่า

ล่าสุด วันนี้ (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวพร้อมชาวบ้านหมู่ที่ 8 ตำบลพลูตาหลวง ได้เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่บ่อรุกรังซึ่งเป็นพื้นที่เกิดปัญหาในขณะนี้ โดยจากการสำรวจบ่อลูกรังในพื้นที่ของ นายสำนวน พึ่งเมือง ที่อ้างว่า มีเอกสารสิทธิครอบครองพื้นที่ดังกล่าว และได้รับใบอนุญาตการขุดอย่างถูกต้อง พบว่าพื้นที่แห่งนี้มีภูเขาล้อมรอบ มีเสาไฟฟ้าแรงสูงตัดผ่าน ซึ่งได้ถูกขุดเป็นเวิ้งลึกจากพื้นดินลงไปหลายเมตร เป็นวงกว้างนับร้อยไร่ และยังพบการขุดที่คาดว่าจะลุกล้ำเข้าไปในพื้นที่เขา

ส่วนทางด้านพื้นที่บ่อลูกรังของ นางสุพิน เสาะการ มีพื้นที่อยู่ติดชายเขา โดยพื้นที่ผืนนี้ได้มีหน่วยงานของรัฐเข้ามาตรวจสอบ และสั่งระงับการขุดหลายต่อหลายครั้ง นอกจากนี้ หากมองด้วยสายตาจากพื้นดินขึ้นไป พบว่าบนหุบเขาแต่ละลูกได้มีกลุ่มนายทุน เข้ามาลักลอบตัดไม้ทำลายป่าจนโล่งเตียน เป็นเนื้อที่หลายร้อยไร่ และลักลอบปลูกต้นยางพารากันเป็นจำนวนมาก

นายวิชัย เภาสูตร อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 กล่าวว่า อดีตสมัยที่เป็นผู้ใหญ่บ้านพื้นที่ทั้ง 2 แห่งได้เกิดเป็นคดีความมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ หรือระงับการขุดอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาตนและชาวบ้านได้ติดต่อแจ้งให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวงและหน่วยงานในพื้นที่เข้ามาตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากบ่อดินลูกรังทั้ง 2 แห่ง ทั้งเรื่องฝุ่นและถนนพัง แต่ก็ไม่มีการดำเนินการเข้ามาแก้ไขให้ดีขึ้นหรือถูกต้อง

จึงขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องทรัพยากรป่าไม้ และการบุกรุกเขา เข้ามาตรวจสอบ เพื่อให้ชาวพลูตาหลวงได้อยู่กับสภาพอากาศที่สดชื่นบริสุทธิ์ และเต็มไปด้วยผืนป่าเหมือนในอดีต