อุบลราชธานี - ผู้ว่าฯอุบลราชธานี ประสานเจ้าแขวงเมืองจำปาสัก ประเทศลาว ช่วย 3 นักท่องเที่ยวไทยถูกทางการลาวจับข้อหาจารกรรม เพราะใช้สถานีเรดาร์เป็นแบกกราวนด์ถ่ายภาพ เบื้องต้นทราบ 3 นักท่องเที่ยวยังอยู่ดี พร้อมเชื่อเมื่อตรวจสอบไม่มีเจตนาจะได้รับการปล่อยตัวเร็วๆ นี้
จากกรณี 3 หนุ่มไทยขับรถตระเวนเที่ยวในปากเซ แขวงจำปาสัก ตามแผนเที่ยวลาวใต้-ลาวเหนือ-เวียดนาม ใน 10 วัน แต่ถูกทหารลาวจับกุมตั้งข้อหาจารกรรม โดยการถ่ายรูปแบบเปิดเผย เพราะพบภาพถ่ายสถานีเรดาร์ทางทหาร ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาทางการลาวให้ผู้ต้องหาโทรศัพท์บอกญาติ ก่อนเร่งติดต่อสถานทูตลาวให้ช่วยเหลือแล้ว เพราะเชื่อว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ่ายติดเรดาร์เป็นแบกกราวนด์ภาพวิวเท่านั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (28 ก.ค.) นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ได้ประสานกับทางการลาว โดยท่านสอนชัย ศรีพันดอน เจ้าแขวงจำปาสักทราบว่า คนไทยทั้ง 3 ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในคุกบังเยาะ เมืองปากเซ และหากทั้งหมดเดินทางเข้าประเทศลาวอย่างถูกต้อง โดยมีเจตนาบริสุทธิ์เป็นนักท่องเที่ยว แต่บังเอิญไปถ่ายภาพติดฐานเรดาร์ของทางการลาวโดยไม่ตั้งใจ
ทั้งนี้ เพราะอาจไม่เข้าใจภาษาที่ติดประกาศหวงห้ามไว้ก็น่าจะถูกปล่อยตัวในเร็วๆ นี้ จึงขอฝากเตือนนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวให้ใช้ความระมัดระวัง ในการถ่ายภาพสถานที่สำคัญต่างๆ ไว้ด้วย
หลังจากนั้น นายสุรพล ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนด้านความมั่นคง พร้อมมอบหมายให้นายธรธรรม์ ชินโกมุท นายอำเภอสิรินธร ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนติดต่อกับเมืองปากเซ ประสานขอรับ 3 คนไทยที่ถูกจับกุมตัวกลับประเทศต่อไป
สำหรับ 3 คนไทยที่ถูกทางการลาวควบคุมตัวไว้ประกอบด้วยนายสามารถ เยาว์ธานี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 3 ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย นายธันวา สุภาคำ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/2 หมู่ 1 ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย และนายวรพล คำเสนา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
ทั้งหมดเดินทางด้วยรถส่วนตัวเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศลาวและเวียดนามเป็นเวลา 10 วัน แต่ถูกตำรวจลาวเมืองปากเซ จับตัวไว้สอบสวน เพราะสงสัยจะเข้าไปทำการจารกรรม แต่หากตรวจสอบภาพถ่ายจากกล้องที่ตรวจยึดไปไม่พบความผิดปกติ ทางการลาวก็จะทำเรื่องปล่อยตัวนักท่องเที่ยวทั้ง 3 คนนี้ต่อไป