อุบลราชธานี-ญาติผู้น้องนายสามารถ เยาว์ธานี ยื่นหนังสือให้จังหวัดเร่งช่วยเหลือ 3 นักท่องเที่ยวที่ถูกทางการลาวจับกุมตั้งข้อหาจารกรรม เพราะเชื่อไม่มีเจตนาและต้องการสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยวไปทำแพ๊กเก็ตทัวร์เที่ยวลาวใต้ถึงลาวเหนือ ด้านจังหวัดรับปากเมื่อได้รับคำตอบจากลาวจะเร่งช่วยเหลือทันที
จากกรณี 3 หนุ่มไทยขับรถตระเวนเที่ยวในเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก และถูกตำรวจลาวจับกุมตั้งข้อหาจารกรรมโดยการถ่ายรูปแบบเปิดเผย เพราะมีภาพถ่ายสถานีเรดาร์ทางทหาร ต่อมาทางการลาวให้ผู้ต้องหาโทรศัพท์บอกญาติ ก่อนติดต่อสถานทูตลาวให้ช่วยเหลือ เพราะเชื่อไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ่ายติดเรดาร์เป็นแบ็กกราวนด์ภาพวิว
ต่อมาจังหวัดอุบลราชธานี ประสานไปทางเจ้าแขวงให้ช่วยเหลือ แต่ฝ่ายลาวอ้างขอตรวจสอบรายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดก่อน
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้( 29 ก.ค.)นางจินตนา ศิริแสงเลิศ อายุ 40 ปี เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกับนายสามารถ เยาว์ธานี หนึ่งใน 3 คนไทยที่ถูกจับได้นำหนังสือขอให้ทางจังหวัดอุบลราชธานี เร่งประสานติดต่อให้ทางการลาวปล่อยตัวคนทั้ง 3 ทันที พร้อมให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ว่า นายสามารถมีอาชีพเป็นไกด์นำเที่ยว โดยจะพาลูกทัวร์จากกรุงเทพฯและจังหวัดภาคเหนือไปเที่ยวในเขตลาวใต้เป็นประจำ แต่ครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวโดยนำรถส่วนตัวเข้าไป
เพราะนายสามารถต้องการสำรวจเส้นทางลาวใต้ขึ้นไปลาวเหนือ โดยมีจุดหมายออกจากประเทศลาวและเข้าประเทศไทยที่ จ.น่าน เพื่อทำเป็นแพ๊กเก็ตทัวร์ชุดใหม่
กระทั่งต่อมาทราบจากเวปไซต์เอ็มไทยว่า ทหารลาวได้จับคนทั้ง 3 และตั้งข้อหาจารกรรมโดยถ่ายภาพที่ตั้งทางทหารของลาว พ่อแม่ของนายสามารถ จึงทำเรื่องส่งไปสถานทูตลาวให้ช่วยเหลือ เพราะไม่ได้รับการติดต่อจากคนทั้ง 3 หลังถูกจับไปเลย เบื้องต้นนายวิโรฒ มีแก้ว รอง ผวจ.ได้รับหนังสือพร้อมรับปากอยู่ระหว่างการประสานกับทางการลาว เมื่อได้รับคำตอบที่แน่ชัดว่าทางลาวจะเอาอย่างไร จะรีบเข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้ง 3 คนทันที
สำหรับ 3 นักท่องเที่ยวเดินทางออกจากจังหวัดอุบลราชธานี ด้วยรถกระบะดีแม็กสีเทาดำทะเบียน บพ 7893 เชียงราย โดยแจ้งออกจากด่านช่องเม็ก อ.สิรินธร เมื่อสายวันที่ 21 ก.ค. มีจุดหมายเดินทางท่องเที่ยวในลาวใต้และลาวเหนือเป็นเวลา 10 วัน โดยรถคันดังกล่าวเป็นของนายธันวา สุภาคำ ซึ่งมีอาชีพขายวัสดุก่อสร้าง
ส่วนนายวรพล คำเสนา ประกอบอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่ประจำรถกู้ชีพในกรุงเทพฯ โดยทั้ง 3 รู้จักกันเพราะเป็นเพื่อนนักศึกษาที่เรียนมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
จากกรณี 3 หนุ่มไทยขับรถตระเวนเที่ยวในเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก และถูกตำรวจลาวจับกุมตั้งข้อหาจารกรรมโดยการถ่ายรูปแบบเปิดเผย เพราะมีภาพถ่ายสถานีเรดาร์ทางทหาร ต่อมาทางการลาวให้ผู้ต้องหาโทรศัพท์บอกญาติ ก่อนติดต่อสถานทูตลาวให้ช่วยเหลือ เพราะเชื่อไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ่ายติดเรดาร์เป็นแบ็กกราวนด์ภาพวิว
ต่อมาจังหวัดอุบลราชธานี ประสานไปทางเจ้าแขวงให้ช่วยเหลือ แต่ฝ่ายลาวอ้างขอตรวจสอบรายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดก่อน
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้( 29 ก.ค.)นางจินตนา ศิริแสงเลิศ อายุ 40 ปี เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกับนายสามารถ เยาว์ธานี หนึ่งใน 3 คนไทยที่ถูกจับได้นำหนังสือขอให้ทางจังหวัดอุบลราชธานี เร่งประสานติดต่อให้ทางการลาวปล่อยตัวคนทั้ง 3 ทันที พร้อมให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ว่า นายสามารถมีอาชีพเป็นไกด์นำเที่ยว โดยจะพาลูกทัวร์จากกรุงเทพฯและจังหวัดภาคเหนือไปเที่ยวในเขตลาวใต้เป็นประจำ แต่ครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวโดยนำรถส่วนตัวเข้าไป
เพราะนายสามารถต้องการสำรวจเส้นทางลาวใต้ขึ้นไปลาวเหนือ โดยมีจุดหมายออกจากประเทศลาวและเข้าประเทศไทยที่ จ.น่าน เพื่อทำเป็นแพ๊กเก็ตทัวร์ชุดใหม่
กระทั่งต่อมาทราบจากเวปไซต์เอ็มไทยว่า ทหารลาวได้จับคนทั้ง 3 และตั้งข้อหาจารกรรมโดยถ่ายภาพที่ตั้งทางทหารของลาว พ่อแม่ของนายสามารถ จึงทำเรื่องส่งไปสถานทูตลาวให้ช่วยเหลือ เพราะไม่ได้รับการติดต่อจากคนทั้ง 3 หลังถูกจับไปเลย เบื้องต้นนายวิโรฒ มีแก้ว รอง ผวจ.ได้รับหนังสือพร้อมรับปากอยู่ระหว่างการประสานกับทางการลาว เมื่อได้รับคำตอบที่แน่ชัดว่าทางลาวจะเอาอย่างไร จะรีบเข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้ง 3 คนทันที
สำหรับ 3 นักท่องเที่ยวเดินทางออกจากจังหวัดอุบลราชธานี ด้วยรถกระบะดีแม็กสีเทาดำทะเบียน บพ 7893 เชียงราย โดยแจ้งออกจากด่านช่องเม็ก อ.สิรินธร เมื่อสายวันที่ 21 ก.ค. มีจุดหมายเดินทางท่องเที่ยวในลาวใต้และลาวเหนือเป็นเวลา 10 วัน โดยรถคันดังกล่าวเป็นของนายธันวา สุภาคำ ซึ่งมีอาชีพขายวัสดุก่อสร้าง
ส่วนนายวรพล คำเสนา ประกอบอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่ประจำรถกู้ชีพในกรุงเทพฯ โดยทั้ง 3 รู้จักกันเพราะเป็นเพื่อนนักศึกษาที่เรียนมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
