xs
xsm
sm
md
lg

อสังหาฯโคราชผวาค่าแรง 300 บาททำวิกฤต – “ส.ก่อสร้างไทย”จี้แก้คอร์รัปชัน 30%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ  กรรมการบริหาร บริษัท คลังคาซ่า จำกัด
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่โคราช ระบุค่าแรง 300 บาท “เผาไทย” กระทบต้องปรับขึ้นราคาบ้านแน่ 10 % ผวาสร้างปัญหาระยะยาวอื้อ แนะรัฐบาลใหม่เตรียมแผนรองรับก่อนเจอวิกฤตเศรษฐกิจล่มเช่น “กรีซ - อาร์เจนตินา” ด้านเลขาฯ สมาคมก่อสร้างไทยชี้กระทบต้นทุนก่อสร้างต้องปรับขึ้นราคา ชี้เรื่องใหญ่อุตฯก่อสร้างขาดแคลนแรงงานหนักและปัญหาคอร์รัปชันหักหัวคิว 30% เร่งผลักดันกำหนดราคากลางเป็นธรรมโปร่งใส

วันนี้ (24 ก.ค.) นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ กรรมการบริหารบริษัท คลังคาซ่า จำกัด เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรรายใหญ่ของ จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาทและเงินเดือนระดับปริญญาตรี 15,000 บาท ของว่าที่รัฐบาลใหม่พรรคเพื่อไทย (พท.)ว่า ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์อาจต้องมีการปรับขึ้นราคาอสังหาริมทรัพย์อีก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงดังกล่าว ซึ่งแรงงานที่เข้ามาก่อสร้างบ้านสรรจัดนั้นมีทั้งแรงงานฝีมือที่ได้ค่าจ้างเกินกว่าวันละ 300 บาท และแรงงานทั่วไปหรือแรงงานไร้ฝีมือพวกช่างฝึกหัดที่ได้ค่าจ้างไม่ถึง 300 บาท/วัน และการก่อสร้างบ้านจัดสรรนั้นจำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้แรงงานคนเป็นหลักคือคนงานก่อสร้าง ฉะนั้นเมื่อมีการปรับค่าแรงขึ้นก็จะส่งผลให้ราคาบ้านปรับขึ้นตามประมาณ 10%

ส่วนผลต่อยอดขายโครงการบ้านจัดสรร อาคารพาณิชย์ นั้น นายสุดที่รัก กล่าวว่า ในระยะสั้นอาจเป็นผลดี เพราะเป็นการเร่งให้คนซื้อบ้านเร็วขึ้นก่อนจะมีการปรับราคา แต่ในระยะยาวยังเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ฉะนั้นรัฐต้องมีแผนมารองรับเรื่องนี้ให้ดี เพราะจะมีปัญหาตามมาอีกมาก โดยหากปรับขึ้นค่าแรงซึ่งไม่ใช่เฉพาะค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท แต่ยังรวมถึงค่าจ้างขั้นต่ำเดือนละ 15,000 บาท สำหรับผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่เป็นนโยบายหาเสียง ซึ่งทำให้ต้องปรับฐานเงินเดือนครั้งใหญ่กันใหม่ทั้งหมด

“รัฐบาลต้องมีแผนมารองรับ มิฉะนั้นประเทศไทยอาจประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจล่ม เหมือนประเทศกรีซ หรือ อาร์เจนตินา ก็ได้ แต่หากมีแผนย่อยรองรับได้ดี เราก็สามารถเป็นประเทศเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น ญี่ปุ่น หรือ สิงคโปร์ ได้เช่นกัน ” นายสุดที่รัก กล่าว

ด้านนายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันที่ จ.นครราชสีมา ว่า การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานมีผลกระทบกับอุตสาหกรรมก่อสร้างบ้างซึ่งมีต้นทุนที่มาจากค่าแรงงานประมาณ 15% การจ้างงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนหนึ่ง แรงงานฝีมือ ปัจจุบันกลุ่มนี้ได้ค่าจ้างเกินวันละ 300 บาทอยู่แล้ว แต่ส่วนที่สอง คือ แรงงานไร้ฝีมือซึ่งได้รับค่าจ้างตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่กำหนดไว้ในปัจจุบัน ซึ่งส่วนนี้หากภาครัฐมีนโยบายต้องการสนับสนุนทางสมาคมฯ เห็นว่าภาครัฐควรต้องดูเรื่องราคากลางให้เหมาะสม เพราะในส่วนภาคเอกชนมองว่าหากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นก็ต้องเพิ่มราคาขายสินค้าตามไปด้วย ซึ่งคิดว่าเป็นอัตราที่ไม่มากนักอาจปรับขึ้นประมาณ 3%

อย่างไรก็ตาม หากมองโดยภาพรวมแล้วการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน อุตสาหกรรมก่อสร้างอาจไม่กระทบมาก แต่ปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นตอนนี้ คือการขาดแคลนแรงงานอย่างหนักในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง ถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งปัจจุบันขาดแคลนแรงงานอยู่ถึง 800,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ ที่สมาคมฯจะมีการหารือกับภาครัฐอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร

นายกฤษดา กล่าวอีกว่า รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาควรต้องผลักดันเมกะโปรเจกต์ หรือโครงการขนาดใหญ่ต่อไป เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างเจริญเติบโตในทิศทางที่ควรจะเป็น โดยธรรมชาติแล้วหากภาครัฐเติบโตภาคเอกชนก็จะโตตามอยู่แล้ว เช่น ภาครัฐโตขึ้น 50% ภาคเอกชนจะโตขึ้นประมาณ 100% หรือเท่าตัวของภาครัฐ

อีกทั้ง สิ่งสำคัญที่ภาคเอกชนเป็นห่วงในขณะนี้และจะได้นำเสนอต่อรัฐบาลใหม่ คือ เรื่องการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันของบุคลากรรัฐ และการเปิดเผยราคากลางให้โปร่งใส ซึ่งเรื่องนี้สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย พยายามผลักดันมาโดยตลอด เพราะสังคมที่มีการพูดกันบ่อยว่าเอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้คนของรัฐเป็นค่าหักหัวคิวถึง 30% ทางผู้ประกอบการเองที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างรู้ดีว่า สิ่งที่คนข้างนอกมองกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงไม่เหมือนกัน

“ฉะนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้ขึ้นอีกวิธีการแก้ไขที่ดีที่สุดคือ การทำอย่างไรให้ราคาที่ทางราชการจัดจ้างเป็นธรรม คือไม่ใช่ให้กำไรมากเกินไป แต่ไม่ใช่ให้ผู้รับเหมาขาดทุน ขอให้อยู่ได้ เรื่องนี้ทาง 4 สมาคมวิชาชีพ คือ สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ,วิศวกรรมสถาน , สถาปนิกสยาม และวิศวกรที่ปรึกษา ได้ผลักดันให้ตั้งสถาบันมาตรฐานการคิดราคากลางขึ้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการแก้ปัญหา” นายกฤษดา กล่าว

นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น