ศูนย์ข่าวศรีราชา- ท่าเรือแหลมฉบัง มอบที่ดินให้ กรมศุลกากร กว่า 35 ไร่ สร้างจุดเอกซเรย์ตู้สินค้า 3 แห่ง รองรับการใช้กฎหมายของสหรัฐฯที่กำชับเอกซเรย์ตู้สินค้า 100 % โดยใช้งบก่อสร้างกว่า 900 ล้านบาท
วันนี้ ( 20 ก.ค. 2554) ที่หอสังเกตการณ์การท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นางฉวีวรรณ คงเจริญกิจกุล ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมศุลกากร เป็นประธานและสักขีพยาน ในพิธีรับมอบพื้นที่สำหรับติดตั้งระบบเอกซเรย์คอนเทนเนอร์ โดยมีนายเฉลิมเกียรติ สลักคำ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง นายยุทธนา หยิมการุณ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วยเรือเอกสุทธินันท์ หัตถวงษ์ รองผู้อำนวยการการท่าเรือแหลมฉบัง และ นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนบริการศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้
นายเฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สำหรับการมอบที่ดินในครั้งนี้ เป็นการมอบที่ดินจำนวน 3 แปลง เพื่อใช้ในการติดตั้งเครื่องเอกซเรย์แบบติดตั้งอยู่กับที่ จำนวน 3 จุด เพื่อรองรับการบังคับใช้กฎหมาย “Recommendation of the 9/11 Commission Act 2007” ของประเทศสหรัฐอเมริกา ในการตรวจตู้คอนเทนเนอร์ 100 % และเป็นการเพิ่มสมรรถนะให้กับท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศในอนาคต
สำหรับพื้นที่ที่มอบ ประกอบด้วย 1.พื้นที่บริเวณลานทรายบดอัดต่อเนื่องจากพื้นที่เอกซเรย์ตู้สินค้าเดิม(ขาออก) ทางรถยนต์ด้านทิศใต้ จำนวน 25-0-0 ไร่ สำหรับติดตั้งเครื่องเอกซเรย์แบบติดตั้งอยู่กับที่ (ขาออก) 2. พื้นที่บริเวณลานแอลฟัลติกส์ต่อเนื่องพื้นที่เอกซเรย์ตู้สินค้าเดิม (ขาเข้า) ทางรถยนต์ด้านทิศเหนือ จำนวน 11-0-11 ไร่ สำหรับติดตั้งเครื่องเอกซเรย์แบบติดตั้งอยู่กับที่ (ขาเข้า) โดยจะมีการรื้อถอนโรงจอดรถยนต์ของการท่าเรือแหลมฉบัง และ 3. พื้นที่บริเวณด้านหลังคลังสินค้าทั่วไป โครงการท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 1 จำนวน 1-3-48 ไร่ โดยรวมพื้นที่ทั้งสิ้น 37-3-59 ไร่
ด้านนายยุทธนา กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศและปกป้องสังคม กอปรกับเพื่อรองรับการบังคับใช้กฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ความปลอดภัยของสินค้าส่งออกของประเทศไทยต่อประชาคมโลก การอำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศในอนาคต และรองรับโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ เป็นระบบรถไฟรางคู่ของท่าเรือแหลมฉบัง ตามแผนวิสาหกิจฉบับที่ 10 ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
ขณะนี้ ตู้สินค้าที่ออกจากท่าเรือแหลมฉบังที่ส่งออกไปประเทศสหรัฐอเมริกาสูงถึง 200,000 ตู้/ปี และมีตู้สินค้า ที่ขนส่งทางรถไฟประมาณ 500,000 ตู้/ปี โดยกรมศุลกากรได้เห็นชอบให้มีการจัดหาระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้าแบบติดตั้งประจำที่จำนวน 2 ระบบ และระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้าแบบรางรถไฟ จำนวน 1 ระบบ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากการท่าเรือแหลมฉบัง ที่มอบที่ดินจำนวนดังกล่าว เพื่อใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างเครื่องเอกซเรย์
นางฉวีวรรณ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้งบประมาณ จำนวน 962.8 ล้านบาท ในการก่อสร้างจุดเอกซเรย์ทั้ง 3 จุด ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเร็วๆนี้ โดยใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 1 ปี 3 เดือน จะแล้วเสร็จ และหลักเสร็จแล้วจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการทันที ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่เก็บค่าใช้จ่ายจากภาคเอกชน แต่หลังจากนั้นจะต้องประชุม เพื่อกำหนดค่าใช้จ่ายต่อไป
