ระยอง - ‘ปวีณา ‘ บุกระยอง พาครอบครัวลูกชายถูกลูกเรือเขมรรุมฆ่าตายเข้าพบ ผบช.ภ.2 ที่ สภ.เพ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง คดีนี้ถ้าตำรวจไม่เอาจริง ต่อไปลูกเรือต่างด้าวมันจะได้ใจและอาจก่อเหตุร้ายเหมือนเหตุการณ์แรงงานต่างด้าวรวมตัวกันทำลายและเผารถตำรวจเหมือนเช่นที่ชลบุรี
เวลา 11.00 น.วันนี้ (13 ก.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธร ต.เพ อ.เมืองระยอง นางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นำ นางบุญตา ทองตุ๋ย อายุ 49 ปี มารดา และนางสาวหนึ่งฤทัย เที่ยงแท้ อายุ 26 ปี พี่สาว นายอนุวัต สมฤทธิ์ อายุ 15 ปี ที่ถูกกลุ่มลูกเรือชาวเขมรกว่า 30 คน รุมตีฟันด้วยจอบ เละเสียม อย่างโหดเหี้ยม แล้วลากศพไปทิ้งบริเวณสวนสุขภาพหัวแหลมปากคลองแกลง หมู่ 6 ต.แกลง อ.เมืองระยอง โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพ นำกำลังเข้าจับกุมกลุ่มลูกเรือประมงบริเวณสวนสุขภาพหัวแหลมปากคลองแกลง ใกล้ที่เกิดเหตุมาสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด พร้อมแจ้งข้อหากลุ่มลูกเรือประมงเพียง 4 คน ที่เหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวไป และรีบผลักดันออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ต่อมา นางบุญตา และนางสาวหนึ่งฤทัย เข้าร้องเรียน นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผวจ.ระยอง และเดินทางไปร้องขอความเป็นธรรม นางปวีณา หงสกุล ที่สำนักงานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จึงได้เดินทางมาเพื่อรับฟังการดำเนินการจับกุมคดีนี้ โดยมี พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผบก.ภ.จ.ระยอง พ.ต.อ.เสรีย์ นาประดิษฐ์ ผกก.สภ.เพ และ พ.ต.ท.ชวน สุขสมบูรณ์ สารวัตรเวร เจ้าของคดีชี้แจงรายละเอียดสำนวนการสืบสวนสอบสวนและจับกุมให้ นางปวีณา ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า คืนเกิดเหตุ นายอนุวัต ผู้ตายพร้อมเพื่อนรวม 15 คน ไปนั่งดื่มสุราบริเวณสวนสุขภาพหัวแหลมปากคลองแกลง จุดเกิดเหตุ ใกล้ๆ กันมีกลุ่มลูกเรือประมงชาวเขมรนั่งดื่มสุราอยู่ก่อน มีการพูดแซวกัน
จนเกิดเหตุทะเลาะวิวาท กลุ่มลูกเรือชาวเขมรได้วิ่งไปตามเพื่อนลูกเรือด้วยกันกว่า 30 คน ถือไม้และมีดเข้าไปรุมตีกลุ่มผู้ตายที่มีจำนวนน้อยกว่า กลุ่มผู้ตายต้องวิ่งหนีไปทางหัวแหลม บางคนหนีลงทะเลว่ายน้ำลอยคออยู่ในทะเล ส่วนผู้ตายวิ่งหนีไม่ทันจึงถูกลูกเรือเขมร ใช้มีดไม้และด้ามไม้กวาด รุมทำร้าย ทำให้ผู้ตายล้มฟุบในที่เกิดเหตุ แล้วช่วยกันยกศพผู้ตายไปโยนทิ้งทะเลห่างจุดเกิดเหตุ 15 เมตร และเจ้าหน้าที่ได้พบศพบริเวณซอกหิน
หลังเกิดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปดูที่เกิดและติดตามจับกุมลูกเรือชาวเขมรทันทีกว่า 30 คน มาสอบสวนผู้ต้องหา และมีพยานยืนยันผู้กระทำผิดรวม 4 คน จึงจับกุมดำเนินคดี มี นายสาริน นายตู่ นายสง่า และ ตุ๊ก ให้การรับสารภาพ ที่เหลือไม่มีพยานยืนยัน จึงได้ปล่อยตัวไปดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ขณะนี้ฝากขังอยู่ระหว่างการสอบสวนที่เรือนจำกลาง จ.ระยอง
นางสาวหนึ่งฤทัย พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า อยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องชาย เป็นอุทาหรณ์สำหรับกลุ่มวัยรุ่น สถานที่ท่องเที่ยวไม่น่าจะให้ลูกเรือต่างด้าวมาอยู่บริเวณนี้ เพราะสถานที่แห่งนี้มีคดีเกิดขึ้นหลายครั้ง และในอดีตมีญาติถูกรุมข่มขืนบริเวณแห่งนี้ แต่ไม่กล้าแจ้งความ เพราะความอับอาย และขอให้มีแสงสว่างเพิ่มมากขึ้น พร้อมยืนยันว่า น้องชายไม่ใช่เป็นเด็กเกเร เป็นเด็กดีเด่นของโรงเรียนวัดท่าเรือ สาเหตุที่ออกจากโรงเรียน เนื่องจากพ่อเป็นคนพิการแม่มีฐานะยากจน จึงออกมาช่วยพี่สาวทำงาน บางครั้งครูก็จะพาไปตีกลองยาวตามงานพิธีต่างๆ เพื่อแลกกับเงินมาเลี้ยงพ่อแม่
พล.ต.ต.นิวัฒน์ รองผบช.ภ.2 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบสวนเพื่อนผู้ตายทั้ง 15 คน ซึ่งรู้ว่าลูกเรือเขมรที่ลงมือทำร้ายเป็นใครบ้าง ซึ่งต้องมีขยายผลพาดพิงถึงใครจะจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก
นางปวีณา กล่าวว่า การที่คนไทยถูกเขมรฆ่าอย่างเหี้ยมโหด และฆ่าในแผ่นดินไทย และเด็กที่ถูกฆ่าตายมีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น หากมีการชกต่อยก็จะไม่ว่า แต่นี่รุมกันหลายสิบคนเอาจอบเอาเสียม มีด และไม้มารุมฆ่า และเด็กที่ตายไม่มีอาวุธและไม่ใช่เป็นเด็กอันธพาลเรื่องนี้ตำรวจต้องมีการกวาดล้างให้เป็นเยี่ยงอย่างและไม่ใช่เฉพาะแต่ จ.ระยอง เท่านั้น
ขณะนี้แรงงานต่างด้าวทะลักเข้ามามาก อยากจะฝากผู้บัญชาการตำรวจภาค 2 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง คดีนี้ถ้าตำรวจไม่เอาจริง ต่อไปลูกเรือต่างด้าวมันจะได้ใจและอาจก่อเหตุร้ายเหมือนเหตุการณ์แรงงานต่างด้าวรวมตัวกันทำลายและเผารถตำรวจ ที่ชลบุรี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มันโหดร้าย เด็กไม่มีทางสู้ จากการดูภาพถ่ายเด็กเสียชีวิตมันชัดเจนมาก ส่วนเด็กที่หนีลงทะเลลอยคอเป็นชั่วโมง ป่านนี้คงโดนรุมฆ่าตาย ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมลูกเรือเขมรที่รุมฆ่ามาดำเนินคดีให้หมด
พล.ต.ต.ปรีชา ผบก.ภ.จ.ระยอง กล่าวว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังเกิดเหตุก็ออกติดตามจับกุม เราก็ไม่พอใจเหมือนกันที่แรงงานต่างด้าวมาก่อเหตุรุนแรง ทำให้ภาพลักษณ์มันเสีย ส่วนเรื่องการลงโทษอยู่ที่ศาล แต่เราก็มีมาตรการป้องกันเหตุอยู่แล้ว มีการจับกุมแรงงานต่างด้าวและผลักดันออกนอกประเทศก็มีจำนวนมาก กรณีเรื่องภาพลักษณ์ของบ้านเพ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวพยายามทำอย่างเต็มที่
ต่อมา ผบช.ภ.2 และคณะได้พา นางปวีณา และครอบครัวเด็กคนตายไปดูที่เกิดเหตุ บริเวณสวนสุขภาพหัวแหลมปากคลองแกลง ท่ามกลางกลุ่มประมงและชาวบ้านแถบนั้นมายืนดูเหตุการณ์จำนวนมาก และไม่ค่อยพอใจที่ นางปวีณา ลงมาช่วยครอบครัวเด็กที่ถูกฆ่าตาย และกล่าวหาว่ากลุ่มเด็กที่ถูกลูกเรือเขมรฆ่าตายชอบมาไถเงินลูกเรือเป็นประจำ และมักจะมีเหตุทะเลาะวิวาทกัน
ขณะเดียวกัน นายนิรุต ยั่งยืน หรือ หรั่ง อายุ 16 ปี เพื่อนผู้ตายในฐานะพยาน และอยู่ในเหตุการณ์คืนเกิดเหตุ กล่าวยืนยันต่อหน้า ผบช.ภ.2 ว่า ก่อนเกิดเหตุเพื่อนๆ รวมทั้งผู้ตายได้ชวนกันไปกินหมูกระทะ หลังจากนั้น ก็ชวนกันมาเที่ยวสวนสุขภาพแห่งนี้ โดยมีกลุ่มลูกเรือเขมรนั่งกินเหล้ากันอยู่ก่อน มีการพูดจาแซวกันไปมา ลูกเรือเขมรวิ่งไปตามเพื่อนมาจำนวนหลายสิบคนมีอาวุธมีดดาบ ไม้ จอบ ฯลฯ ไล่รุมทำร้ายจนต้องวิ่งหนี แต่ผู้ตายหนีไม่ทันจึงถูกลูกเรือเขมรรุมฟันด้วยจอบ มีดดาบ และไม้ จนตายคาที่ พวกตนวิ่งหนีลงทะเลลอยคออยู่ในทะเลจึงรอดตาย ขอยืนยันว่า พวกผมไม่ได้กินเหล้าแต่อย่างใด และไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับลูกเรือเขมรมาก่อน
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาชาวเขมร รวม 4 คนที่รุมทำร้ายมาดำเนินคดีทันทีขณะนี้อยู่ระหว่างการฝากขัง และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อออกหมายจับผู้กระทำผิดที่เหลือมาดำเนินคดีให้หมด ด้านมาตรการการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพ ได้จัดสายตรวจเข้ามาดูแลเป็นประจำ โดยเฉพาะลูกเรือประมงต่างด้าวที่มาพักที่นี่ มีการพูดจาขอความร่วมมือกับเจ้าของเรือ หากลูกเรือลำใดก่อเหตุต้องรับผิดชอบลูกเรือของตน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ นางปวีณา ลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณ สวนสุขภาพหัวแหลมปากคลองแกลง เจ้าหน้าที่ช่างไฟของเทศบาล ต.แกลงกะเฉด กำลังปรับปรุงโคมส่องสว่างอยู่อย่างเร่งรีบ และมีการขนแรงงานต่างด้าวไปทำหลักฐานที่ สภ.เพ จำนวนมากผิดปกติ และ 1 ในเพื่อนคนตายเป็นลูกชายของนายดาบตำรวจ สภ.เพ คนหนึ่งที่ชาวบ้านแถบนั้นพูดว่าทำตัวเป็นนักเลง อ้างเป็นลูกตำรวจชอบไปไถเงินลูกเรือประมง และมีเหตุทะเลาะวิวาทกับลูกเรือเขมรเป็นประจำ
