“ปวีณา หงสกุล” พาสามเณรที่ถูกเจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลใน จ.เลย ข่มขืนกระทำชำเรา มาร้องกองปราบฯ ให้เร่งติดตามตัวคนร้ายก่อเหตุขู่เอาชีวิตสามเณร-ผู้ปกครอง ด้าน ผบก.กองปราบเผยให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว ส่วนเรื่องคดีรอผู้บังคับบัญชาสั่งการต่อไป
วันนี้ (12 พ.ค.) ที่กองปราบปราม นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมกับผู้ปกครอง พาสามเณรผู้เสียหาย 3 รูป ซึ่งถูกพระครูเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งและเป็นเจ้าคณะตำบลในจังหวัดเลยกับพวก ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 2552 ถึง 3 เม.ย. 2554 ต่อเนื่องกันขณะจำพรรษาอยู่ที่วัด เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.เพื่อขอให้ทาง บก.ป.ร่วมสอบสวนคดี และช่วยติดตามดำเนินคดีกับผู้ที่ข่มขู่เอาชีวิตสามเณรผู้เสียหาย
นางปวีณากล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้พาผู้เสียหายและผู้ปกครองเข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ภูเรือ จ.เลย ซึ่งทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ผบช.ภ.4 ให้ความสนใจเข้ามาเร่งรัดคดีด้วยตนเองโดยมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบสวนดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิด ต่อมาทางพระผู้ใหญ่รูปดังกล่าวได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กระทั่งทางคณะสงฆ์จังหวัดเลยมีมติให้ปลดออกจากทุกตำแหน่งและให้สึก แต่พระรูปนี้ก็ยังไม่ได้สึกแต่อย่างใด นอกจากนี้ทางผู้เสียหายกลับยังถูกข่มขู่
นางปวีณากล่าวต่อว่า เหตุที่ตัดสินใจพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความ เพราะอยากให้ทาง บก.ป.ช่วยเหลือและร่วมสอบสวนดำเนินคดีนี้ เนื่องจากทางผู้เสียหายไม่กล้าเดินทางกลับไปในพื้นที่ จ.เลย และเพื่อสะดวกในการสอบปากคำด้วย นอกจากนี้ก็ขอให้เร่งรัดติดตามตัวผู้ที่ข่มขู่เอาชีวิตผู้เสียหายกับผู้ปกครอง เนื่องจากทั้งหมดรู้สึกกังวลใจในความปลอดภัยอีกด้วย
ด้าน พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.นิรันดร์ สัตยารังสรรค์ ผกก.3 บก.ป.เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบรับเรื่องและสอบปากคำผู้เสียหายไว้ในเบื้องต้นก่อน ส่วนกรณีการร่วมสอบสวนคดีนั้นคงต้องทำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป