ศรีสะเกษ - สลด! หนุ่มใหญ่ศรีสะเกษ วอนขอความเป็นธรรมภรรยาถูกผู้ช่วย ผญบ.กับพวก 4 คน ข่มขืน และตามราวีเยาะเย้ย ข่มขู่ไม่หยุด ก่อนถูกอุ้มหายตัวไปจากบ้านนาน 5 เดือนแล้ว ยังไม่กลับ เผย แจ้ง ตร.ให้ช่วยตามหา แต่ไม่คืบหน้า ทำให้ติดหนี้สินรุงรัง เหตุต้องออกตระเวนตามหาเมีย ล่าสุด ลูก 2 คน หาทำงานเก็บเงินเป็นทุนตามหาแม่ หลังทนเห็นพ่อทุกข์ใจหนัก และต้องเลี้ยงลูกเล็กเพียงลำพังทั้ง 4 คน
วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ ได้รับการร้องทุกข์จาก นายสมใจ ก้าวเหนือ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 ม. 5 บ้านซำเขียน ต.ไพร อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ว่า ภรรยาของตนถูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกับพวก ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันข่มขืนหลังจากนั้น ภรรยาได้หายสาบสูญไปจากบ้านเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว
ดังนั้น ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านของ นายสมใจ พบว่า บ้านของนายสมใจ เป็นบ้านชั้นเดีย วยกพื้นสูง สภาพบ้านค่อนข้างเก่าทรุดโทรม และได้พบกับ นายสมใจ ซึ่งได้นำผู้สื่อข่าวตรวจสอบรอบบริเวณบ้าน และบริเวณหน้าห้องส้วมที่ภรรยาของนายสมใจ หายตัวไป หลังจากที่ลงมาเข้าห้องส้วมกลางดึก เพราะท้องเสีย ต้องถ่ายอุจจาระหลายครั้งในคืนวันเกิดเหตุ
นายสมใจ ก้าวเหนือ อายุ 42 ปี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนได้ไปทำงานอยู่ จ.ชลบุรี เพื่อหาเงินส่งมาให้ภรรยาเลี้ยงลูก 4 คน อยู่ที่บ้านแห่งนี้ ต่อมาภรรยาของตนได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบว่า ถูกเพื่อนบ้าน 4 คน รวมทั้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันข่มขืน กระทำชำเรา เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 52 ที่ผ่านมา และต่อมาวันที่ 1 ธ.ค.52 ก็ได้ถูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านดังกล่าวลวงไปข่มขืนอยู่ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในตัว อ.ขุนหาญ อีก
เมื่อตนได้รับทราบจึงได้รีบกลับมาบ้าน และได้นำภรรยาไปแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไพร อ.ขุนหาญ แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ โดยตำรวจบอกว่า หากภรรยาตนอายุต่ำกว่า 18 ปี ถึงจะรับแจ้งความ ซึ่งตนได้นำเรื่องนี้ไปร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับเรื่องนี้
กรณีที่พนักงานสอบสวน สภ.ไพร ไม่รับแจ้งความ ทำให้ตำรวจคนนั้นถูกสั่งย้ายไปแล้ว แต่เรื่องของภรรยาตนไม่มีความคืบหน้าอะไร กลุ่มพวกที่ข่มขืนภรรยาของตนยังคงลอยนวลอยู่ในหมู่บ้าน อีกทั้งยังมาพูดจาเยาะเย้ยตนและภรรยาอีกด้วยว่า ภรรยาของตนพวกเขาจะเอาไปข่มขืนอีกเมื่อไรก็ได้ ทำให้ครอบครัวได้รับความอับอายเป็นอย่างมากที่ภรรยาโดนข่มขืนแล้วยังมาเยาะเย้ยอีก
นายสมใจ กล่าวต่อว่า ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.ไพร ได้รับแจ้งความ และได้สรุปสำนวนส่งฟ้องศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ซึ่งต่อมาศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ได้มีหมายศาลแจ้งให้ตนกับภรรยาไปเบิกความที่ศาลในวันที่ 27 ต.ค.53 และในคืนวันที่ 26 ต.ค.ก่อนถึงวันไปเบิกความ ปรากฏว่า ได้มีกลุ่มคนที่ร่วมกันข่มขืนภรรยาตนเข้ามาพบขอเจรจากับตนและภรรยา ว่า ไม่ให้ไปขึ้นศาลจังหวัดกันทรลักษ์ โดยแจ้งว่า จะจ่ายเงินให้จำนวน 150,000 บาท แต่ตนและภรรยาไม่ยอม เนื่องจากได้รับความบอบช้ำทางจิตใจจากกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้มาก และตลอดคืนได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนพากันนำเอาก้อนหินมาขว้างใส่บ้านของตน จนทำให้กระเบื้องฝาผนังบ้านแตกเป็นรูหลายสิบแห่ง
ดังนั้น พอรุ่งเช้าของวันที่ 27 ต.ค.53 ตนกับภรรยาจึงเดินทางไปที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ และขึ้นเบิกความตามที่ศาลได้นัดหมายไว้ ซึ่งภรรยาของตนได้ให้การไปตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ทำให้กลุ่มที่ข่มขืนภรรยาของตนทั้ง 4 คน ตกเป็นจำเลยมีความโกรธแค้นตนกับภรรยามาก และได้มีการเข้ามาพูดจาข่มขู่ตนกับภรรยา
หลังจากที่ตนและภรรยาเบิกความเสร็จแล้ว ได้พากันกลับมาที่บ้าน จากนั้นเวลาประมาณ 22.00 น.วันเดียวกันนี้ ได้มีทนายความของจำเลยโทรศัพท์มาหาภรรยาของตนอีก และได้บอกให้รับเงิน 150,000 บาท และยอมความเรื่องนี้ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี แต่ภรรยาของตนไม่รับและได้ปิดโทรศัพท์ กระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น.ภรรยาตนเกิดปวดท้อง เนื่องจากท้องเสียอยากเข้าห้องส้วม ตนจึงได้ลงไปส่ง เนื่องจากห้องน้ำอยู่ห่างจากตัวบ้านประมาณ 50 เมตร ตนได้นั่งรอและกลับขึ้นบ้านไปนอนต่อ และต่อมาประมาณ 1 ชั่วโมง ภรรยาตนก็ปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำอีก จึงบอกว่า ให้ไปเองเพียงลำพัง มีอะไรค่อยร้องตะโกนเรียก
จากนั้นตนได้นอนหลับต่อจนกระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น.คืนเดียวกัน ลูกชายคนเล็กตื่นขึ้นมาและร้องขอดื่มน้ำ จึงได้ร้องเรียกหาภรรยา แต่ปรากฏว่า ไม่พบนอนอยู่บนที่นอนแต่อย่างใด ดังนั้น จึงได้ลงไปดูในห้องน้ำ ก็ไม่พบ ตนกับลูกจึงได้พากันออกตามหาทั่วบริเวณใกล้เคียงก็ไม่เจอ
นายสมใจ กล่าวเล่าต่อว่า ตนกับลูกพากันออกตามหาตามสถานที่ต่างๆ ก็ไม่พบ จึงได้พากันไปแจ้งความกับตำรวจ แต่เรื่องก็เงียบหายไปไม่มีความคืบหน้า ต่อมาจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เรื่องก็เงียบหายอีก จากนั้นได้ไปร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แต่จนถึงวันนี้เป็นเวลาร่วม 5 เดือนแล้ว ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร ไม่รู้ว่าถึงวันนี้แล้ว ภรรยาตนจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ทำให้ขณะนี้ตนติดหนี้สินกว่า 60,000 บาทแล้ว เพราะหมดสิ้นไปกับค่าใช้จ่ายในการตามหาภรรยา
ล่าสุด เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ลูกชายคนโตกับคนรอง บอกว่า ทำงานเก็บเงินมาได้ 5,000 บาท จะเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อออกตามหาแม่ โดยบอกว่า แม้ไม่รู้ว่าจะเจอหรือไม่ แต่ดีกว่าอยู่รอแม่ที่บ้านเฉยๆ และทนเห็นพ่อทนทุกข์ใจไม่ไหว ซึ่งลูกชายได้โทรศัพท์กลับมาหาบอกว่ามาถึงกรุงเทพฯ แล้ว แต่ยังไม่เจอแม่ จึงบอกลูกทั้งสองคนให้กลับบ้าน เพราะมันอันตราย แต่ลูกยืนยันว่าจะขอออกตามหาแม่อีกสักวันสองวันจึงจะกลับ
ขณะที่ตนต้องเลี้ยงลูกคนเล็กอายุ 1 ปี 8 เดือน จึงไม่สามารถออกไปทำงานรับจ้างเหมือนเดิมได้ ทำให้ชีวิตตอนนี้ลำบากมากไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ทำได้เพียงส่งหนังสือร้องทุกข์ไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และ กรุงเทพฯ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า พล.ต.ต.เสริมสุข วีรวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ ได้มีหนังสือตอบข้อร้องทุกข์ของ นายสมใจ โดยแจ้งว่า ขณะนี้ได้จัดตั้งตำรวจชุดติดตามหาภรรยาของนายสมใจแล้ว ทั้งระดับอำเภอและระดับจังหวัดโดยให้รายงานผลการดำเนินการให้ทราบทุก 15 วัน แต่จนกระทั่งบัดนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าในการค้นหาภรรยาของนายสมใจแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บริเวณที่เกิดเหตุอยู่กลางหมู่บ้าน มีประชาชนอยู่อย่างหนาแน่น แต่กลับไม่มีเบาะแสภรรยาของนายสมใจแต่อย่างใด ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวบ้านซำเขียนสงสัยเป็นอย่างมาก ว่า กลุ่มคนร้ายอาจมีวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ตำรวจไม่สามารถติดตามหาเบาะแสภรรยาของนายสมใจได้