"เก่ง เมธัส" อดีตนายแบบหลากคดี แจงข่าวถูกอุ้ม เพื่อทวงหนี้พนันบอลหลักล้านไม่เป็นความจริง ยัน พี่ร่วมหุ้นส่วน มารับไปกินข้าว แต่รปภ.ห้าง เข้าใจผิด ขณะที่"ผู้การตำรวจทางหลวง" ระบุ เจ้าทรัพย์แจ้งให้ ไปตามรถวอลโว่ ที่ถูกยักยอกไป แต่อยู่ในความครอบคองของอดีตนายแบบ จึงตามไปดูแต่ไม่พบ ส่วนเรื่องหนี้พนันบอล พูดกันไปคนละทาง
วานนี้ (12 ม.ค.) นายเมธัส หรือเก่ง สวนศรี อดีตดารา-นายแบบ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ถึงกรณีมีข่าวถูกตำรวจอุ้มไปจากห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เมื่อคืนวันที่ 11 ม.ค. นำตัวขึ้นรถตำรวจทางหลวงเพื่อไปทวงหนี้พนัน ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเรื่องอุ้มตามที่เป็นข่าว คนที่มารับ เป็นเหมือนลูกพี่ มารับไปกินข้าว แต่มีตำรวจตามมาด้วย โดยเพื่อนของลูกพี่ขับรถตำรวจมา จากนั้น จึงได้ขึ้นรถออกไป พร้อมทั้งโทรศัพท์บอก นายจารึก สวนศรี น้องชายให้ไปเอารถปอร์เช่ที่จอดไว้ที่ห้างเดอะมอลล์ เพื่อนำกลับบ้าน แต่น้องชายเอารถออกมาไม่ได้ เนื่องจากไม่มีบัตรจอดรถ ประกอบกับรปภ.ของห้าง ไม่ไว้วางใจ เพราะการแต่งกายของน้อง จึงไม่ให้นำรถออกไป
"เมื่อน้องผมสอบถาม รปภ.บอกว่า เห็นผมไปกับรถตำรวจ เหมือนถูกอุ้ม แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เป็นการกอดคอกันเดินไปขึ้นรถ ส่วนแก๊งทวงหนี้นั้น ขอยืนยันว่าไม่มี" นายเมธัสกล่าว
เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผบก.ทล. กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า มีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงว่า รถยี่ห้อวอลโว่ รุ่น S80 ทะเบียน ฌฎ 555 กทม.ถูกยักยอกไป พร้อมแสดงหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของรถดังกล่าวจริง ซึ่งรถคันดังกล่าว นายเมธัสเป็นผู้ซื้อต่อจากกลุ่มผู้เสียหาย แต่เกิดผิดเงื่อนไขสัญญาในการซื้อขายรถ จึงต้องการนำรถกลับคืนมา พร้อมประสานขอให้ตำรวจทางหลวงช่วยสกัดจับรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือในการสกัดจับ ต่อมากลุ่มผู้เสียหายได้ประสานมาว่ารถคันดังกล่าวอยู่ที่นายเมธัส และจอดอยู่ที่ห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบก็พบเพียงแต่นายเมธัสเท่านั้น ส่วนรถวอลโว่คันดังกล่าวตรวจสอบแล้วไม่พบแต่อย่างใด
"ส่วนกรณีที่กลุ่มชายฉกรรจ์ได้อุ้มตัวนายเมธัสไปนั้น ยืนยันว่าไม่ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอย่างแน่นอน ตำรวจทางหลวงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เป็นเพียงการปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามรถคืนตามที่ผู้เสียหายร้องขอเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยให้ทางผู้เสียหายและนายเมธัสเจรจากันเอง และได้เดินทางกลับ" พล.ต.ต.นรบุญกล่าวและว่า เบื้องต้นทราบว่า นายเมธัสได้เจรจาต่อรองขอผ่อนจ่ายเงินเป็นงวดๆ ให้ ซึ่งทางกลุ่มผู้เสียหายไม่ยอมและต้องการนำรถวอลโว่กลับคืน สุดท้ายจึงเจรจาตามรถกลับคืนมาได้สำเร็จ โดยทางกลุ่มผู้เสียหายก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ช่วยเหลือ ส่วนเรื่องคดีความในการอุ้มนายเมธัส หรือเรื่องที่มาที่ไปของรถวอลโว่คันดังกล่าวจะเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จะต้องเป็นผู้ดำเนินการต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้างสรรพสินค้างามวงศ์วาน นายเมธัส ได้ขับรถเก๋งสปอร์ตปอร์เช่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ป้ายแดง 5555 กรุงเทพมหานคร มาพร้อมกับนางตะลุ่ม สวนศรี อายุ 77 ปี ผู้เป็นยาย โดยนายเมธัสได้ขับรถเก๋งคันงามเข้าไปจอดในตำแหน่งที่จอดเดิมเมื่อคืนเกิดเหตุ ก่อนจะพานางตะลุ่มเข้าพบนางพิไลวรรณ หงสกุล ผู้จัดการห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เพื่อนำกระเช้าเข้าขอบคุณ ที่รปภ.ของห้าง ได้ช่วยดูแลรถให้
นายเมธัส กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเรื่องเข้าใจผิด ตนเองไม่ได้ถูกอุ้มไปทวงหนี้พนันอย่างที่เป็นข่าว และกลุ่มคนที่มาพาขึ้นรถไปนั้น คือพี่บีซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่ลงทุนเปิดผับด้วยกันที่พัทยา ส่วนตำรวจทางหลวงที่เห็นขับรถมาด้วยนั้น เป็นเพียงเพื่อนของพี่บีที่ติดตามมาด้วยเท่านั้น ไม่ได้มาอุ้มตน และตนก็เป็นคนนัดให้กลุ่มพี่บีมาเจอกันที่ลานจอดรถชั้นล่างของห้าง เพื่อหาอาหารกินกันแต่กลับมาในตอนเวลาที่ห้างใกล้ปิด ทางพี่บีจึงชวนตนออกไปหาอะไรกินกันข้างนอกห้าง ตนเองจึงตัดสินใจจอดรถทิ้งไว้และขึ้นรถเก๋งซีอาร์วีไปกับพี่บีแทน ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งให้นายจารึก น้องชายเป็นผู้เอากุญแจสำรองมาขับรถกลับไปเก็บที่บ้าน แต่ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ยอม เนื่องจากบัตรที่จอดรถติดกระเป๋าตนเองมาด้วย เมื่อน้องชายไม่มีมาแสดง ทางห้างจึงไม่ยินยอมให้น้องชายนำรถออกไป
นายเมธัสกล่าวว่า ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้ผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ จึงเกิดเป็นข่าวขึ้นมา เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งไปเห็นว่า ตนเองถูกชายฉกรรจ์ที่มากับรถตำรวจทางหลวงล็อกคอและพาเดินไปขึ้นรถเก๋งซีอาร์วีออกไปจึงกลายเป็นข่าวว่าตนเองรู้ล็อกตัวอุ้มขึ้นรถไปทวงหนี้ ทั้งๆที่คนที่ล็อกคอตนเองนั้น คือพี่บี พี่ชายคนหนึ่งที่เป็นหุ้นส่วนเปิดผับด้วยกันที่พัทยา และการล็อกคอที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นนั้น เป็นการล็อกกันธรรมดาแบบคนสนิทกันไม่ได้ล็อกแบบรุนแรงหรือต้องการจับตัวไม่ให้หนี เมื่อทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวแบบนั้น ก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ว่า ตนเองถูกอุ้มไปทวงหนี้และทิ้งรถไว้ที่ลานจอด
"หากผมถูกอุ้มไปทวงหนี้จริง ป่านนี้จะกลับมาเอารถ และมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์แบบนี้หรือ แต่อย่างไรก็ตาม ผมขอขอบคุณทางห้างที่ได้ช่วยดูแลเอาใจใส่ความปลอดภัยของลูกค้า รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ดูแลรถของผมเป็นอย่างดี จึงตั้งใจนำกระเช้ามาขอบคุณในวันนี้ และถือโอกาสชี้แจงข่าวด้วย" นายเมธัสกล่าว
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่กลายเป็นประเด็นว่า อดีตนายแบบถูกอุ้มนั้น ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 11 ม.ค. โดยพล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผบก.นนทบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา สว.สส.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมกำลังชุดสืบสวนเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน หลังรับแจ้งจากทางห้างฯ ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายขับรถเข้ามายังลานจอดรถชั้นใต้ดิน ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันอุ้มตัวนายเมธัสขณะกำลังเตรียมจะขึ้นรถเก๋งสปอร์ตปอร์เช่ ขึ้นรถตำรวจทางหลวงไปอย่างรวดเร็ว
นายสมศักดิ์ เกตุสาคร หัวหน้าหน่วยรปภ.กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ รปภ.ของห้างฯ สังเกตเห็นรถตำรวจทางหลวง 2 คัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายแต่งเครื่องแบบเต็มยศ พร้อมด้วยชายฉกรรจ์อีก 7-8 คนมาดักรอนายเมธัสอยู่ที่รถปอร์เช่ จนกระทั่งนายเมธัสเดินออกมาจากห้างพร้อมด้วยเพื่อนชายอีกคน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว จึงจับอดีตนายแบบชื่อดังขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นไม่นาน นายจารึก สวนศรี น้องชายนายเมธัส ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พี่ชายมาซื้อของที่ห้าง พร้อมกับนายนุภาพ สวนศรี อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นญาติสนิทกันและได้โทร.บอกกับตนเองว่าถูกนายบี พาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอุ้มตัวไปเพื่อต้องการให้ใช้หนี้พนันบอลจำนวนหลายล้านบาท แต่พี่ชายขอผ่อนใช้เป็นงวดๆ ทางฝ่ายนายบีไม่ยอมต้องการให้ใช้เป็นก้อน หรือไม่ก็จะยึดรถ แต่พี่ชายไม่ยอมจึงถูกอุ้มขึ้นรถพาไปเคลียร์หนี้สิน ซึ่งพี่ชายบอกว่าตอนนี้ถูกนำตัวขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าไปทางพัทยาแล้ว ขอให้แจ้งให้นายสมชาย สวนศรี บิดาทราบด้วย
วานนี้ (12 ม.ค.) นายเมธัส หรือเก่ง สวนศรี อดีตดารา-นายแบบ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ถึงกรณีมีข่าวถูกตำรวจอุ้มไปจากห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เมื่อคืนวันที่ 11 ม.ค. นำตัวขึ้นรถตำรวจทางหลวงเพื่อไปทวงหนี้พนัน ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเรื่องอุ้มตามที่เป็นข่าว คนที่มารับ เป็นเหมือนลูกพี่ มารับไปกินข้าว แต่มีตำรวจตามมาด้วย โดยเพื่อนของลูกพี่ขับรถตำรวจมา จากนั้น จึงได้ขึ้นรถออกไป พร้อมทั้งโทรศัพท์บอก นายจารึก สวนศรี น้องชายให้ไปเอารถปอร์เช่ที่จอดไว้ที่ห้างเดอะมอลล์ เพื่อนำกลับบ้าน แต่น้องชายเอารถออกมาไม่ได้ เนื่องจากไม่มีบัตรจอดรถ ประกอบกับรปภ.ของห้าง ไม่ไว้วางใจ เพราะการแต่งกายของน้อง จึงไม่ให้นำรถออกไป
"เมื่อน้องผมสอบถาม รปภ.บอกว่า เห็นผมไปกับรถตำรวจ เหมือนถูกอุ้ม แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เป็นการกอดคอกันเดินไปขึ้นรถ ส่วนแก๊งทวงหนี้นั้น ขอยืนยันว่าไม่มี" นายเมธัสกล่าว
เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผบก.ทล. กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า มีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงว่า รถยี่ห้อวอลโว่ รุ่น S80 ทะเบียน ฌฎ 555 กทม.ถูกยักยอกไป พร้อมแสดงหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของรถดังกล่าวจริง ซึ่งรถคันดังกล่าว นายเมธัสเป็นผู้ซื้อต่อจากกลุ่มผู้เสียหาย แต่เกิดผิดเงื่อนไขสัญญาในการซื้อขายรถ จึงต้องการนำรถกลับคืนมา พร้อมประสานขอให้ตำรวจทางหลวงช่วยสกัดจับรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือในการสกัดจับ ต่อมากลุ่มผู้เสียหายได้ประสานมาว่ารถคันดังกล่าวอยู่ที่นายเมธัส และจอดอยู่ที่ห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบก็พบเพียงแต่นายเมธัสเท่านั้น ส่วนรถวอลโว่คันดังกล่าวตรวจสอบแล้วไม่พบแต่อย่างใด
"ส่วนกรณีที่กลุ่มชายฉกรรจ์ได้อุ้มตัวนายเมธัสไปนั้น ยืนยันว่าไม่ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอย่างแน่นอน ตำรวจทางหลวงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เป็นเพียงการปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามรถคืนตามที่ผู้เสียหายร้องขอเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยให้ทางผู้เสียหายและนายเมธัสเจรจากันเอง และได้เดินทางกลับ" พล.ต.ต.นรบุญกล่าวและว่า เบื้องต้นทราบว่า นายเมธัสได้เจรจาต่อรองขอผ่อนจ่ายเงินเป็นงวดๆ ให้ ซึ่งทางกลุ่มผู้เสียหายไม่ยอมและต้องการนำรถวอลโว่กลับคืน สุดท้ายจึงเจรจาตามรถกลับคืนมาได้สำเร็จ โดยทางกลุ่มผู้เสียหายก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ช่วยเหลือ ส่วนเรื่องคดีความในการอุ้มนายเมธัส หรือเรื่องที่มาที่ไปของรถวอลโว่คันดังกล่าวจะเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จะต้องเป็นผู้ดำเนินการต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้างสรรพสินค้างามวงศ์วาน นายเมธัส ได้ขับรถเก๋งสปอร์ตปอร์เช่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ป้ายแดง 5555 กรุงเทพมหานคร มาพร้อมกับนางตะลุ่ม สวนศรี อายุ 77 ปี ผู้เป็นยาย โดยนายเมธัสได้ขับรถเก๋งคันงามเข้าไปจอดในตำแหน่งที่จอดเดิมเมื่อคืนเกิดเหตุ ก่อนจะพานางตะลุ่มเข้าพบนางพิไลวรรณ หงสกุล ผู้จัดการห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เพื่อนำกระเช้าเข้าขอบคุณ ที่รปภ.ของห้าง ได้ช่วยดูแลรถให้
นายเมธัส กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเรื่องเข้าใจผิด ตนเองไม่ได้ถูกอุ้มไปทวงหนี้พนันอย่างที่เป็นข่าว และกลุ่มคนที่มาพาขึ้นรถไปนั้น คือพี่บีซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่ลงทุนเปิดผับด้วยกันที่พัทยา ส่วนตำรวจทางหลวงที่เห็นขับรถมาด้วยนั้น เป็นเพียงเพื่อนของพี่บีที่ติดตามมาด้วยเท่านั้น ไม่ได้มาอุ้มตน และตนก็เป็นคนนัดให้กลุ่มพี่บีมาเจอกันที่ลานจอดรถชั้นล่างของห้าง เพื่อหาอาหารกินกันแต่กลับมาในตอนเวลาที่ห้างใกล้ปิด ทางพี่บีจึงชวนตนออกไปหาอะไรกินกันข้างนอกห้าง ตนเองจึงตัดสินใจจอดรถทิ้งไว้และขึ้นรถเก๋งซีอาร์วีไปกับพี่บีแทน ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งให้นายจารึก น้องชายเป็นผู้เอากุญแจสำรองมาขับรถกลับไปเก็บที่บ้าน แต่ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ยอม เนื่องจากบัตรที่จอดรถติดกระเป๋าตนเองมาด้วย เมื่อน้องชายไม่มีมาแสดง ทางห้างจึงไม่ยินยอมให้น้องชายนำรถออกไป
นายเมธัสกล่าวว่า ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้ผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ จึงเกิดเป็นข่าวขึ้นมา เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งไปเห็นว่า ตนเองถูกชายฉกรรจ์ที่มากับรถตำรวจทางหลวงล็อกคอและพาเดินไปขึ้นรถเก๋งซีอาร์วีออกไปจึงกลายเป็นข่าวว่าตนเองรู้ล็อกตัวอุ้มขึ้นรถไปทวงหนี้ ทั้งๆที่คนที่ล็อกคอตนเองนั้น คือพี่บี พี่ชายคนหนึ่งที่เป็นหุ้นส่วนเปิดผับด้วยกันที่พัทยา และการล็อกคอที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นนั้น เป็นการล็อกกันธรรมดาแบบคนสนิทกันไม่ได้ล็อกแบบรุนแรงหรือต้องการจับตัวไม่ให้หนี เมื่อทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวแบบนั้น ก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ว่า ตนเองถูกอุ้มไปทวงหนี้และทิ้งรถไว้ที่ลานจอด
"หากผมถูกอุ้มไปทวงหนี้จริง ป่านนี้จะกลับมาเอารถ และมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์แบบนี้หรือ แต่อย่างไรก็ตาม ผมขอขอบคุณทางห้างที่ได้ช่วยดูแลเอาใจใส่ความปลอดภัยของลูกค้า รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ดูแลรถของผมเป็นอย่างดี จึงตั้งใจนำกระเช้ามาขอบคุณในวันนี้ และถือโอกาสชี้แจงข่าวด้วย" นายเมธัสกล่าว
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่กลายเป็นประเด็นว่า อดีตนายแบบถูกอุ้มนั้น ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 11 ม.ค. โดยพล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผบก.นนทบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา สว.สส.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมกำลังชุดสืบสวนเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน หลังรับแจ้งจากทางห้างฯ ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายขับรถเข้ามายังลานจอดรถชั้นใต้ดิน ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันอุ้มตัวนายเมธัสขณะกำลังเตรียมจะขึ้นรถเก๋งสปอร์ตปอร์เช่ ขึ้นรถตำรวจทางหลวงไปอย่างรวดเร็ว
นายสมศักดิ์ เกตุสาคร หัวหน้าหน่วยรปภ.กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ รปภ.ของห้างฯ สังเกตเห็นรถตำรวจทางหลวง 2 คัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายแต่งเครื่องแบบเต็มยศ พร้อมด้วยชายฉกรรจ์อีก 7-8 คนมาดักรอนายเมธัสอยู่ที่รถปอร์เช่ จนกระทั่งนายเมธัสเดินออกมาจากห้างพร้อมด้วยเพื่อนชายอีกคน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว จึงจับอดีตนายแบบชื่อดังขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นไม่นาน นายจารึก สวนศรี น้องชายนายเมธัส ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พี่ชายมาซื้อของที่ห้าง พร้อมกับนายนุภาพ สวนศรี อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นญาติสนิทกันและได้โทร.บอกกับตนเองว่าถูกนายบี พาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอุ้มตัวไปเพื่อต้องการให้ใช้หนี้พนันบอลจำนวนหลายล้านบาท แต่พี่ชายขอผ่อนใช้เป็นงวดๆ ทางฝ่ายนายบีไม่ยอมต้องการให้ใช้เป็นก้อน หรือไม่ก็จะยึดรถ แต่พี่ชายไม่ยอมจึงถูกอุ้มขึ้นรถพาไปเคลียร์หนี้สิน ซึ่งพี่ชายบอกว่าตอนนี้ถูกนำตัวขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าไปทางพัทยาแล้ว ขอให้แจ้งให้นายสมชาย สวนศรี บิดาทราบด้วย
