ยะลา - ศอ.บต.เดินหน้านโยบายงานด้านการอำนวยความเป็นธรรม ดูแลสวัสดิการผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยให้ความช่วยเหลือเยียวยากลุ่มบุคคลที่ต้องรับภาระการดูแลครอบครัว ในเรื่องของทุนการศึกษาบุตรและการส่งเสริมอาชีพ
วันนี้ (6 ม.ค.) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ถ.สุขยางค์ อ.เมืองยะลา แพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 15 พร้อมด้วย นายอิสมาแอ ซาและ ประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ นำกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 20 คน เข้าพบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (เลขาธิการ ศอ.บต.) นายฐานิส ศรียะพันธ์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. (ฝ่ายยุติธรรม) ผศ.ปิยะ กิจถาวร รองเลขา ศอ.บต. และ นายกิตติ สุระคำแหง ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานยุติธรรม ศอ.บต. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีสามีและญาติพี่น้องถูกอุ้มสูญหาย
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ทาง ศอ.บต. มีนโยบายหลักในการอำนวยด้านความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเสมอภาคโดยไม่เลือกปฏิบัติ นอกเหนือจากนี้หลังจากรับถ่ายโอนภารกิจการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ ตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 นั้น ศอ.บต. ถือเป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ในวันนี้ถือเป็นมิติที่ดีที่ประชาชนเดินเข้ามาหา แต่งานด้านการอำนวยความเป็นธรรมเชิงรุก ในฐานะหน่วยงานภาครัฐต้องเดินเข้าหาชาวบ้าน แต่วันนี้ถือว่าประชาชนให้ความไว้วางใจ ศอ.บต.
ส่วนกรณีของชาวบ้านทั้ง 10 ครอบครัว ที่เข้ามาร้องขอความเป็นธรรมในวันนี้ ส่วนใหญ่จากการสอบถามพูดคุยพบว่าถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปสอบปากคำ ซึ่งบางรายได้หายสาบสูญไปเป็นระยะเวลานานกว่า 8 ปี ในกรณีนี้ต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงในการสืบสวนสอบสวน ว่าบุคคลที่หายสาบสูญไปนั้นมีสาเหตุเกี่ยวโยงมาจากเรื่องใดบ้าง
ซึ่งการดำเนินงานของ ศอ.บต. สามารถให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนได้คือ การเยียวยากลุ่มบุคคลที่ต้องรับภาระการดูแลครอบครัวของผู้สูญหาย ส่วนใหญ่เป็นภรรยาที่ต้องดูแลบุตรแต่เพียงลำพัง ศอ.บต. ได้เข้าไปดูแลในเรื่องของทุนการศึกษาบุตรและการส่งเสริมอาชีพ การสนับสนุนการมีงานทำของญาติผู้สูญหาย ซึ่งกระบวนการตรวจสอบความผิดตามอาญากฎหมายก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ทางด้านนาง นาซีเราะห์ วาโซ๊ะ ชาวบ้านจาก อ.จะแนะ จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า สามีของตนหายสาบสูญไปกว่า 8 ปี ตั้งแต่กรณีเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ปัจจุบันตนต้องทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่หาเลี้ยงลูกแต่เพียงลำพัง ในวันนี้ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ ศอ.บต. ได้ให้ความสำคัญกับกรณีผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม และรู้สึกยินดีที่ทางเลขาธิการ ศอ.บต. ได้เข้ามาดูแลเรื่องทุนการศึกษาบุตร พร้อมทั้งส่งเสริมให้ตนได้ประกอบอาชีพ เพราะถือว่าหลังจากที่สามีหายสาบสูญนั้น ตนเองไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครและไม่มีหน่วยงานใดที่ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือ หลังจากวันนี้ไป สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวคงดีขึ้นและลูกก็จะได้เรียนสูงๆ ตามที่คาดหวังไว้ด้วย