โจรใจบาปขโมยพระพุทธโสธรจากพระตำหนักพระสังฆราชฯ

กาญจนบุรี - โจรใจบาปแอบย่องขโมยพระพุทธโสธร จากพระตำหนักพระสังฆราชฯ ที่กาญจนบุรี ขณะผู้ดูแลเผลอ ด้านลูกศิษย์หลังทราบข่าวต่างเดินทางมาพร้อมสาปแช่งไปต่างๆ นานา

เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (26 มิ.ย.) พ.ต.ท.บำรุง วสุนธรานิติกุล พงส.สบ2 สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากองใบฎีกาสมยศ พระลูกวัดถาวรวราราม (วัดญวน) ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ว่า มีคนร้ายแอบเข้าไปขโมย พระพุทธโสธร ปางมารวิชัย เนื้อทองเหลือง หน้าตักกว้าง 9 นิ้ว สูง 9 นิ้ว ประดิษฐานไว้ที่บริเวณ พระตำหนักสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ชั้น 2 หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานไปยัง พ.ต.ท.ชุมพล เฉลิมวิบูลย์ สว.กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี เพื่อตรวจหารอยนิ้วมือแฝง

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบริเวณพระตำหนักสมเด็จพระสังฆราชฯ ชั้น 2 พบ องใบฎีกา สมยศ พระลูกวัดถาวรวราราม และ คุณยาย วันดี กิจเสมอ อายุ 71 ปี ผู้ดูแลทำความสะอาด จากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจดูสถานที่ที่หัวขโมยลักลอบขโมยพระพุทธรูปไป

นางวันดี กิจเสมอ เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.ที่ผ่านมา ตนได้ขึ้นไปเปิดประตูที่ชั้น 2 เพื่อไปทำความสะอาดตามปกติ จากนั้นก็ไปทำความสะอาดบริเวณชั้นล่างต่อโดยที่ตนไม่ได้ล็อกประตูชั้น 2 เพียงแต่ปิดเอาไว้เท่านั้น และหลังจากที่ทำความสะอาดพระตำหนักเสร็จเรียบร้อย ต่อมาได้เดินไปที่บริเวณกุฏิเจ้าอาวาส เนื่องจากมีงานพิธีบูชา บูรพาจารย์ (จี่โต๋) เพื่อดูแลความสะอาดให้เรียบร้อย

จนถึงเวลาประมาณเที่ยงวันจึงเดินทางกลับมาที่พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราชฯ และได้เดินไปที่ชั้น 2 และเมื่อขึ้นไปถึงตนเห็นประตูได้เปิดกว้างขึ้นผิดสังเกต ตนจึงเดินดูความเรียบร้อย แต่ปรากฏว่าพระพุทธรูป ที่ประดิษฐานไว้ที่บริเวณด้านหน้ารูปของสมเด็จพระสังฆราชฯหายไป ตนจึงแจ้งให้ องใบฎีกาสมยศ พระลูกวัดถาวรวราราม ทราบเพื่อแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้าน องใบฎีกาสมยศ พระลูกวัดถาวรวราราม กล่าวว่า พระพุทธรูปที่ถูกขโมยไปนั้นเป็นพระพุทธโสธร ปางมารวิชัย เนื้อทองเหลือง หน้าตักกว้าง 9 นิ้ว สูง 9 นิ้ว โดยมีบรรดาญาติของ นางสุรีย์ สุทธิกุลพาณิช ที่เสียชีวิตไปแล้วนำมาถวายให้กับทางวัด โดยพระพุทธรูปดังกล่าวได้นำมาจากวัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อประมาณเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งทางวัดได้นำมาประดิษฐานไว้ที่บริเวณที่บูชาของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้กราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตและครอบครัว แต่สุดท้ายก็มาถูกขโมยไปจนได้

“อาตมาเชื่อว่า คนร้ายกลุ่มนี้น่าจะไม่ใช่กลุ่มคนร้ายที่อยู่ในพื้นที่ น่าจะมีการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ที่ดูแลพระตำหนักมาโดยตลอด จนในที่สุดผู้ดูแลเผลอจึงฉวยโอกาสขึ้นไปขโมย โดยไม่เกรงกลัวบาปกรรมที่จะตามทัน”

ด้าน พ.ต.ท.บำรุง วสุนธรานิติกุล ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า หลังจากทำการตรวจสอบโดยรอบเบื้องเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจพบรอยนิ้วมือแฝงได้ที่บริเวณประตูทางเข้าชั้น 2 แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ารอยนิ้วมือดังกล่าวจะเป็นของคนร้ายหรือไม่ เนื่องจากมีศิษยานุศิษย์เดินทางเข้ามากราบไหว้บูชาเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาหลักฐานหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจหาหลักฐานอยู่นั้น ได้มีบรรดาศิษยานุศิษย์ที่ทราบข่าวเดินทางมาที่พระตำหนักสมเด็จพระญาณสังวรฯจำนวนหนึ่งต่างสาปแช่งคนร้ายที่ขโมยพระพุทธรูปต่างๆ นานา