อุบลราชธานี- “ชวน หลีกภัย” ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ บุก จ.อำนาจเจริญ หาเสียงช่วยผู้สมัคร บอกแกนนำคนเสื้อแดงสั่งหยุดรังควาน “มาร์ค” ได้แล้ว เพราะไม่สร้างสรรค์ รับนักธุรกิจการเมือง ทำให้ต้องโกงทุกรูปแบบ เพื่อถอนทุนคืน วอนเลิกป้ายสี ปชป.เป็นพรรคคนใต้ได้แล้ว
เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 21 มิ.ย. นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายสุทัศน์ เงินหมื่น ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อปราศรัยหาเสียงช่วยนายอภิวัฒน์ เงินหมื่น ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.อำนาจเจริญ ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลอำนาจ อ.ลืออำนาจเจริญ มีประชาชนมาฟังปราศรัยกว่า 2,000 คน ท่านกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและ อส.
นายชวนปราศรัยชูนโยบายบายของพรรคที่สามารถช่วยเหลือเกษตรกร คือ โครงการประกันราคาผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งให้ผลตอบแทนดีกว่าการจำนำ ที่พรรคเพื่อไทยเคยทำไว้ในอดีต เพราะเกษตรกรได้รับผลตอบแทนจากการประกันราคาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และเป็นการลดภาระทางการเงินให้แก่ประเทศ นอกจากนี้ โครงการเบี้ยผู้สูงอายุ ค่าตอบแทน อสม. และโครงการเงินออมของประชาชนใช้เป็นเงินบำนาญจนกว่าจะเสียชีวิต ล้วนเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่นำออกมาใช้ช่วยเหลือประชาชนทุกชนชั้นให้ได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงกัน
กระทั่งช่วงค่ำ นายชวนได้เดินทางไปปราศรัยช่วยนายไพศาล จันทวารา ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.อำนาจเจริญ ที่ลานหอนาฬิกาสวนมิ่งมงคลในเขตเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ โดยมีประชาชนแห่มาฟังการปราศรัยกว่า 5,000 คน ท่านกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากมีประชาชนแออัดยัดเยียดมอบดอกไม้ให้กับนายชวนอดีตนายกรัฐมนตรีอย่างคับคั่ง
นายชวนกล่าวถึงเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญในการสร้างความมั่นคงในชีวิตให้ประชาชนทุกคนในอนาคต ด้วยการออมไว้ใช้ในตอนแก่ จึงผ่านกฎหมายว่าด้วยการออมเมื่อมีอายุ 20 ปี ประชาชนจ่าย 100 บาท รัฐบาลสมทบ 50 บาท เมื่ออายุ 30 ปี ประชาชนจ่ายเงิน 100 บาท รัฐบาลสมทบ 70 บาท เมื่อมีอายุครบ 60 ปี ประชาชนก็หยุดจ่าย รัฐบาลจะคิดดอกเบี้ยรวมกับต้นทุนจ่ายเป็นบำนาญคืนให้ผู้ออมจนกว่าเสียชีวิต
“ประชาชนก็จะมีเงินไว้ใช้จ่ายในยามชรา โดยไม่รวมกับเงินสวัสดิการอื่น จะทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย ไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากลูกหลานเพียงอย่างเดียว”
นายชวนให้สัมภาษณ์กรณีคนเสื้อแดงตามรังควานนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขณะออกหาเสียงช่วยลูกพรรคในพื้นที่ต่างๆว่า การหาเสียงใครจะไปไหนควรจะไปได้เต็มที่ ไม่ควรไปรังควาน ก่อกวน เพื่อให้เกิดปัญหาแก่คนอื่น
สมัยก่อนไม่ถึงขั้นไปตามว่าทุกแห่ง ผมยังเป็นห่วง “ตอนคุณยิ่งลักษณ์ลงพื้นที่ไปหาเสียงที่จังหวัดนราธิวาส ถ้าคนใต้ไปทำแบบเดียวกันก็เสียหาย แต่ก็โชคดีคนที่นั่นเขาเข้าใจ เลือกไม่เลือกเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องเปิดใจกว้าง ให้แต่ละฝ่ายได้มีโอกาสหาเสียง” แต่ว่าท่านนายกอภิสิทธิ์เดินทางไปหาเสียงที่ไหน ก็โดนรังควานทุกแห่ง อันนี้มันไม่ค่อยถูกต้อง
แต่ถือว่าคนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคกลาง เป็นคนดี รักความสงบเรียบร้อย มีระเบียบอยู่ในกฎเกณฑ์กติกาของบ้านเมือง มีบางคนที่เป็นส่วนน้อยเป็นเครื่องมือ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา ถ้าเป็นไปได้อย่าไปทำอย่างนั้น เพราะเข้าใจว่าคนบางส่วนรับงานมาทำ ถ้าห้ามได้ก็ควรจะห้ามไม่ให้ทำ สำหรับตนก็เจออยู่บ้างแต่ไม่ถึงขั้นรุนแรง
นายชวนยังปราศรัยถึงวิวัฒนาการทางการเมืองไทยว่า มีการพัฒนาเจริญขึ้นเป็นลำดับ แต่ก็มีสิ่งเลวร้ายคือ การทุจริตโกงกิน ซึ่งมาจากระบบอาชีพนักการเมือง ทำให้มีการใช้เงินซื้อเสียงโกงเลือกตั้ง เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ต้องไปเอาคืน คนที่จะยึดมั่นอุดมคติแน่วแน่ลดน้อยลง เหมือนที่หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวคำให้สัมภาษณ์ของ ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ว่า ส.ส.ในสภา 80% ซื้อเสียง นี่คืออันตรายที่มากับความเจริญ
“เมื่อซื้อเสียงมา มันก็ต้องโกง จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อเสียงหากมันไม่โกง ก็เกิดเป็นวงจร ซื้อเสียงมาเป็นนักการเมือง พอมีตำแหน่งก็โกง พอโกงเสร็จก็เอาเงินมาซื้อเสียง วนเวียนอยู่อย่างนี้เขาเรียกว่าวงจรอุบาท ถ้าเป็นอย่างนี้บ้านเมืองเราเจริญไปไม่ไกล”
นายชวนยังกล่าวอีกว่า เมื่อตนเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีคนยัดเยียดข้อหาให้เป็นพรรคของคนใต้ แต่ข้อเท็จจริงพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของคนอีสาน เพราะผู้ก่อตั้งเป็นคนอีสานทั้งนั้น วันนี้พรรคเพื่อไทยชู น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้นำ รู้ไหมว่าหัวหน้าพรรคเขาเป็นคนสุราษฎร์ธานี บ้านเดียวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แม้มันไม่ใช่เป็นประเด็น แต่ก็มายัดเยียดข้อหานี้ ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่พรรคความหวังใหม่ต่อเนื่องมาถึงพรรคไทยรักไทย เพื่อให้พี่น้องบางคนไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์กล่าว