“ประพันธ์” สาบานตราบใดที่ยังมีชีวิต “ทักษิณ” อย่าหวังกลับมามีอำนาจ

“ประพันธ์” ยันเลิกห่วงได้เลย “โหวตโน” จะทำให้ “ทักษิณ” กลับมา ขอสาบานตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ “ทักษิณ” อย่าหวังกลับมามีอำนาจอีก พันธมิตรฯจะสู้ให้ถึงที่สุด ชี้ เพื่อไทยชนะเลือกตั้งคราวนี้ อันตรายมาก น้ำหน้าอย่าง “มาร์ค” สู้ไม่ไหวแน่ ย้ำ มีแต่พันธมิตรฯเท่านั้นที่จะจัดการได้ พร้อมปรามพวกกล่าวหาพันธมิตรฯรับเงินเพื่อเคลื่อนไหว “โหวตโน” ควรหุบปากเสีย

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”  

วันนี้ (13 มิ.ย.) เมื่อเวลา 21.30 น.นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวปราศรัยบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า คนอีสานที่ไม่ได้เป็นเสื้อแดงมีมากกว่าคนเสื้อแดง แต่เพราะประชาธิปัตย์หน่อมแน้ม ไม่เรียนรู้วัฒนธรรม ไม่รู้จักทัศนคติของเขา และร้อยวันพันปีไม่เคยโผล่หัวไปให้เขาเห็นแล้วเขาจะเลือกได้อย่างไร

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ปล่อยให้ขบวนการเสื้อแดงเคลื่อนไหวอย่างอิสรเสรี มันก็เลยปลุกระดม ยัดเยียดข้อมูลข้างเดียวให้พี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นอันตรายมาก เพราะรับข้อมูลข้างเดียว และไม่มีคนของรัฐไปใส่ใจเขา เลยทำให้คนเหล่านี้มีความเข้าใจต่อปัญหาชาติบ้านเมืองผิดไปจากข้อเท็จจริงมาก และที่อันตรายมาก คือ มีความเชื่อว่า สถาบันหลักของชาติไม่ได้ทำอะไรให้เขา และทอดทิ้งเขา

แต่ที่เป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะคนอีสานต้องการโค่นล้มสถาบันกษัตริย์  แต่เมื่อนักการเมืองพวกนี้ไปอุปถัมภ์เขา เขาก็เลยเคลิ้มตามไปด้วย แต่ถ้าเขาได้รับข้อมูลข้อเท็จจริงก็เปลี่ยนใจได้ ถ้ารัฐบาลทำงาน มีหน่วยงานไปพบประชาชนคอยให้ข้อมูล รับรองเสื้อแดงต้องขุดรูอยู่เหมือนแย้ แต่เพราะรัฐบาลนี้อ่อนแอ ขี้ขลาด จนเกิดสถานการณ์แบบนี้ ปกติแล้วคนอีสานสุภาพอ่อนน้อม รู้คุณคน ไม่ใช่ก้าวร้าวรุนแรง และยิ่งจะมาทะเลาะกับหน่วยงานราชการเขาไม่อยากแน่นอน แต่เพราะรัฐบาลทอดทิ้งคนพวกนี้ เขาเลยเชื่อว่าสิ่งที่เขาทำ เช่น การเผาศาลากลางจังหวัด เป็นการทำเพื่อพี่น้องประชาชน เป็นการลุกขึ้นสู้ปกป้องคนที่เขารัก

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า อันตรายถ้าระบอบทักษิณกลับมา วันนี้เขามีประชาชนกลุ่มหนึ่งที่งมงาย พร้อมตามเขา มีพรรคการเมือง ถ้ากลับมามีอำนาจก็จะได้ทหาร ตำรวจ อยู่ภายใต้บังคับบัญชา เรียกว่า ครบเลย ถ้าได้อำนาจ ต่อไปนี้ประเทศนี้เขาจะไม่กลัวใครเลย แล้วน้ำหน้าอย่างไอ้ละอ่อน (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) จะไปสู้เขา

นายประพันธ์ กล่าวอีกถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เขียนบทความชื่อว่า จากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ทำไม นายอภิสิทธิ์ ไม่เขียนว่า สารภาพผิดที่โง่เขลา คาดการณ์ไม่ถูก จนทำให้เกิดเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง รู้ทั้งรู้คนพวกนี้ก่อกระบวนการมาอย่างไร ฝึกกองกำลัง ซ่องสุมอาวุธอย่างไร ตอนนั้นนั่งอมสากกะเบืออยู่ทำไม แต่พอบ้านเมืองฉิบหายแล้วค่อยมาเขียนแก้ตัว เอาดีเข้าตัวเอาชั่วใส่คนอื่น

ไม่มีความรับผิดชอบอะไรเลยที่ปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ แล้ววันนี้มาเขียนว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้ว มันเป็นการแก้ตัวน้ำขุ่นๆ จริงๆ แล้วไม่ควรสมัครลงรับเลือกตั้งด้วยซ้ำไป ถ้าเป็นตนทำให้บ้านเมืองฉิบหายขนาดนี้ ลาออกไปแล้ว ไม่ใช่รอครั้งนี้ถ้าพรรคแพ้ทำพรรคฉิบหายค่อยลาออก ตกลงประเทศฉิบหายไม่ออกใช่หรือไม่ แต่ถ้าพรรคฉิบหายจะออก

ที่บอกว่า ตัวเองร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่อน้องประชาชน ขอถามว่า ร่วมทุกข์ร่วมสุขตรงไหนประชาชนสู้ เผชิญชะตากรรม เอาเองทั้งนั้น แม้กระทั่งพระสังฆราช รัฐบาลยังดูแลไม่ได้เลย แล้วพี่น้องที่ถูกเผาร้าน เขายังทำมาหากินไม่ได้จนทุกวันนี้ รัฐบาลช่วยอะไรเขา แถมสรุปก็ไปประกันตัวพวกตัวการก่อเหตุออกมา แล้วยังมีหน้ามากล้าพูด หรือล่าสุดเหตุการณ์ที่ พนิช-ราตรี-วีระ ถูกจับ ตัวเองก็พาครอบครัวไปนอนพักผ่อนที่รีสอร์ต พี่น้องชายแดนถูกเขมรถล่ม ก็โผล่ไปครั้งเดียว หายไปเลย ตอนน้ำท่วมก็ไปครั้งเดียว พอได้ถ่ายภาพลงหนังสือพิมพ์ก็หายไป

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนฟากนายทักษิณก็พอกัน วันนี้กำลังฮึกเหิมคิดว่าตัวเองจะได้เป็นรัฐบาล จะกลับมาทำรัฐไทยใหม่ แล้วนิรโทษกรรม ให้น้องสาวเป็นนายกฯ และคงมาอีหรอบเดิม แล้วเราจะปล่อยให้มันอยู่หรือไม่ ตนจึงขอสาบานว่า ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่จะไม่ยอมให้นายทักษิณกลับมามีอำนาจอีกแน่นอน

“ฉะนั้น ท่านที่ห่วงใยว่าโหวตโนแล้ว กลัวว่าพวกนี้จะมา ไม่ต้องกลัว เอาอย่างนี้สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าพระบรมรูปทรงม้ารัชกาลที่ 5 ต่อพระแก้วมรกต เจ้าพ่อหลักเมือง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ถ้า นายประพันธ์ ยังไม่ตายไปซะก่อน ทักษิณอย่าหวังกลับมามีอำนาจอีก พี่น้องก็ยืนยันใช่มั้ยว่า จะสู้กับมันจนถึงที่สุด พันธมิตรฯ ประชาชนที่โหวตโนนี่แหละที่จะออกมาสู้กับมัน ยืนยันได้เลย พวกเราจะไม่ยอมให้มาปู้ยี่ปู้ยำประเทศอีก ให้มันข้ามศพพวกเราไปก่อน  มันจะได้รู้ว่า นรกมีจริง มึงมาเลย ใครก็ตามที่จะกลับมามีอำนาจและคิดเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ ใช้อำนาจโกงกิน พี่น้องไม่ต้องห่วง ตราบใดที่ยังมีพันธมิตรฯพวกเราสาบาน และยืนยันว่า จะสู้กับมันให้ถึงที่สุด” นายประพันธ์ กล่าวยืนยัน

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า และพี่น้องที่โหวตโนครั้งนี้ ถ้ามีมากกๆ ให้มันมา นี่ไงคือกำลังของพวกเราที่จะผนึกรวมกัน ไม่ใช่แค่กลับมาไม่ได้เท่านั้น แต่ใครก็ตามที่เป็นรัฐบาล แล้วทำอะไรไม่ใช่เพื่อชาติและประชาชน จะเอากับมันให้ถึงที่สุด

ไม่ต้องหวังพึ่งใคร ไม่มีน้ำยาสู้กับพวกนี้หรอก ยกเว้นพวกเรา แล้วก็รู้จิตใจพันธมิตรฯทุกคน ไม่เคยกลัวนายทักษิณ และระบอบทักษิณเลย คนที่กลัวจนขี้หดตดหาย คือ พวกหน้าหล่อ และคนที่จัดรายการอยู่สถานี กลัวว่า เขาจะมาเอาเวลาคืน ทางที่ดีใครที่เข้าใจว่า พันธมิตรฯรับผลประโยชน์จากนายทักษิณ ขอให้หุบปากสกปรกเสีย พวกคุณมือไม่พายเอาตีนราน้ำ ฉวยโอกาสจากการต่อสู้ของประชาชนแล้วยังมาทำลายประชาชนที่ต่อสู้ปกป้องชาติบ้านเมืองอีก  

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้มีนักธุรกิจหลายคนที่เขาสนใจโหวตโน และเริ่มเข้าใจแล้ว ส่วนภาคธุรกิจที่ตั้ง 21 องค์กรต้านทุจริต ตนขอถามถ้าเขากลับมาเป็นรัฐบาลจะเอาอะไรไปสู้กับเขา เพราะถ้ากลับมามีอำนาจเดี๋ยวก็ขี่คอนักธุรกิจ ก็ต้องมีนักธุรกิจที่ไปยอมจ่ายให้เขาจนได้ วันนี้จึงต้องทำสเตปแรกก่อน แค่บอกลูกน้อง คนเครือข่าย ให้เข้าไปคูหากาโหวตโนเท่านั้น เป็นการกระทำที่ง่ายที่สุดแล้ว

ถ้าโหวตโนมากๆ ถึง 10 ล้าน นักการเมืองเหมือนหมาตัวหนึ่ง ไม่มีค่าอะไรเลย การกระทำพวกนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ชาติบ้านเมือง ถึงบอกว่าถ้าองค์กรเอกชนทั้งหลาย รวมทั้งเครือเนชั่นด้วย ยังไม่เข้าใจว่ามันจะเกิดประโยชน์อย่างไร ลองนึกภาพถ้าผลประกาศออกมาโหวตโนได้ 10 ล้านเสียง เพื่อไทย 5 ล้าน ประชาธิปัตย์ 3-4 ล้าน นึกดูนักการเมืองจะจ๋อย จ๋อยเหมือนถูกรถชนไปไหนไม่ถูก มันก็จะซ่าส์ไม่ออก แพ้พรรคโหวตโน แทบจาเอาปี๊บคลุมหัว ทำแค่นี้ก็สั่งสอนนักการเมืองได้แล้ว

ถึงบอกว่านี่คือ จุดที่เอาชนะได้ไม่ยาก แต่ต้องอาศัยพลังพี่น้องเป็นจุดเริ่มต้น พี่น้อง 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร อย่าเอาคะแนนไปให้นักการเมือง เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง มันเป็นคะแนนที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ถ้ารวมกันได้แล้ว

คำต่อคำ

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรัก ยังอยู่กันหนาแน่นเลย ผมนึกว่าไม่มาวันนึง กลับมาจะเลิกแล้ว ยังไม่ยอมเลิกอีก กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องทางบ้าน ที่อยู่ทั่วประเทศ ที่ให้กำลังใจพวกเรา และกราบสวัสดีพี่น้องชาวไทยที่อยู่ในต่างประเทศทุกคนที่ห่วงใยประเทศชาติบ้านเมืองของเรา

เมื่อสักครู่ท่านก็คงได้ฟังเพลงซึ่งเป็นผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง คุณบิลลี่ โอแกน ต้องปรบมือและให้กำลังใจศิลปินท่านนี้ครับ ถือว่าเป็นผู้ที่มีผลงานและเป็นคนที่มีจุดยืนทางการเมือง และมีจุดยืนที่เข้าใจปัญหาของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นอย่างดี

พี่น้องครับ เรื่องของการรณรงค์โหวตโนของพวกเราในวันนี้ ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง ได้กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่เป็นที่สนใจของทุกคน ทั้งในประเทศ และในต่างประเทศทั่วโลกด้วยครับ นี่คือเรื่องจริง และก็ตลอดเวลาที่วิทยากรของพวกเราขึ้นมาพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้อง ก็คงจะได้ให้ข้อมูลข่าวสารถึงความเคลื่อนไหว การรณรงค์ไม่ประสงค์ลงคะแนนของพวกเรานี้ ถือว่าเป็นการรณรงค์ครั้งแรกของโลก พูดอย่างนี้ได้เลย เป็นการรณรงค์ครั้งแรกของโลกที่ประชาชนในระบอบการเมืองการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้ง ลุกขึ้นมารณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในลักษณะที่สวนทางและเป็นการประท้วง บอยคอต และเป็นการสู้และตอบโต้ แข่งขันกับนักการเมือง พรรคการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง

ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นที่ไหนในประเทศประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้ง ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่พลเมืองไทยตื่นขึ้นมา ใช้สิทธิ์ของตัวเองตามระบอบประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ สิทธิ์เลือกตั้ง 1 เสียง เป็นสิทธิ์ของท่าน เข้าคูหาท่านได้รับบัตร 2 ใบ เลือกพรรคกับเลือกคน คนก็คือ ส.ส.เขต พรรคก็คือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ว่าคราวนี้ประชาชนบอกว่า รับบัตรมาแล้ว เราจะไปกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน เพื่อจะสั่งสอนและอบรมนักการเมืองที่เข้าสู่สนามเลือกตั้งครั้งนี้

จะว่าไปแล้ว 79 ปีของระบอบประชาธิปไตยประเทศไทย ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ ในลักษณะที่เป็นความเคลื่อนไหวของภาคประชาชน ถ้าจะมีการเคลื่อนไหวโหวตโน เมื่อการเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549 ก็เป็นความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองที่ไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง และต้องการที่จะตอบโต้ บอยคอต พรรคคู่แข่งของตัวเองที่ลงสมัครรับเลือกตั้งพรรคเดียว ก็เลยพยายามที่จะไปรณรงค์ แต่เรื่องนั้นมันไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่เป็นการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน เป็นเรื่องของพรรคการเมืองต้องการหักหน้าเอาชนะกันเอง

ส่วนของเรานี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ภาคประชาชนทุกสาขาอาชีพตื่นตัวขึ้นมา และเข้าใจเหตุผลของการไม่ประสงค์ลงคะแนนนั้น เป็นอาวุธสำคัญ เป็นสิทธิอันสำคัญของพี่น้องประชาชนที่จะใช้ตอบโต้ สั่งสอนนักการเมืองที่พวกเราเกลียด และไม่ชอบ และไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมือง นี่เป็นพลังครั้งแรก และก็เป็นครั้งแรกในโลก ต่อไปจะมีประเทศอื่นเอาอย่าง เวลาที่นึกถึงนักการเมือง พรรคการเมือง ที่ไม่ซื่อสัตย์ ที่ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ ที่ไม่เข้าใจปัญหาของชาติของประชาชน ที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อพรรคเพื่อพวกของตัวเอง ที่ใช้อำนาจไปในการทุจริตคอร์รัปชั่น โกงกินประเทศชาติบ้านเมือง โดยไม่ฟังเสียงของประชาชน ที่กระทำการขายชาติขายแผ่นดิน นักการเมืองพวกนี้เป็นนักการเมืองที่ประชาชนรังเกียจและไม่ชอบ

นอกจากนั้น ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พี่น้องน่ะเบื่อมากที่เห็น ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรอภิปรายด่าทอกัน แสดงกิริยามารยาทที่ต่ำทราม ไร้คุณสมบัติผู้ดี ไม่มีสัมมาคารวะ ไม่มีความเข้าใจต่อวัฒนธรรมและสังคมของประชาชนไทย ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีของประชาชนไทย เป็นสภาที่ประชาชนให้สมญานามว่า สภาเถื่อน ถ่อย ถีบ

คือพฤติกรรมที่มันกระทำความเลว ความชั่ว ความไม่ดีไม่งาม ที่เป็นการกระทำซ้ำซาก หลายครั้งๆ หลายปีเข้า มันก็ทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย และไม่รู้ว่าจะตอบโต้นักการเมืองพวกนี้อย่างไร พูดก็แล้ว ประท้วงก็แล้ว วิพากษ์วิจารณ์ เปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงก็แล้ว ก็ยังหน้าด้าน และก็ไม่ฟังแล้วสุดท้ายก่อนยุบสภาไป พี่น้องจำได้มั้ย ประชุมวันเดียวมันอนุมัติกว่า 200 โครงการ เป็นแสนๆ ล้าน ทำแบบหน้าด้านๆ หน้าตาเฉยเลยครับ และไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำมาก่อน

วันนี้ยังมาแหล ทำเขียน ทำตัวเป็นผู้ดี ทำตัวเป็นคนที่สะอาด เป็นนักการเมืองที่เป็นอนาคตความหวัง ยังไม่รู้กะลาหัวตัวเองครับ

ทีนี้เมื่อพี่น้องประชาชนเจ็บใจ เบื่อ เกลียด นักการเมืองเหล่านี้ แต่ไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร วันนี้พอเราชี้ทางออกว่าการไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือโหวตโน จะเป็นอาวุธที่ร้ายกาจในการตอบโต้นักการเมืองที่ทรงพลังที่สุดวันนี้ เราได้ค้นพบทางเลือก ทางออก และอาวุธที่สำคัญแล้วครับ

แล้วก็เป็นครั้งแรกในโลกที่ประชาชนเอารูปภาพสัตว์ต่างๆ มาอุปมาอุปไมย ล้อเลียน เปรียบเทียบ เป็นการล้อเลียนเปรียบเทียบ เพื่อชี้ให้เห็นว่านักการเมืองประเทศไทยเป็นนักการเมืองที่ไร้จิตสำนึก ต่ำกว่าสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นด้วยซ้ำไป นี่เป็นเรื่องที่ประเทศอื่นๆ เขาสนใจมาก แล้ววันนี้ข่าวก็ประโคมไปทั่วโลกว่า ประเทศไทยที่มีการเลือกตั้ง เป็นครั้งแรกที่ประชาชนออกมารณรงค์แข่งกับพรรคการเมือง ให้ประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งอย่าไปเลือกพวกที่ต่ำกว่าสัตว์นรกเหล่านี้

นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ นะครับ ไม่มีประเทศไหนทำ ประเทศยุโรปอย่างเก่งถ้าไม่ชอบนักการเมือง ก็เอาไข่เน่าปาเท่านั้นเอง แต่ประเทศไทยนั้น เขาปากันหมดแล้วทุกอย่าง แถมทุบรถ ทุบตี ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว แต่วันนี้เราใช้อาวุธโหวตโน ที่สำคัญก็คือรูปสัตว์ล้อเลียนทั้งหลายที่ขึ้นมานั้น เป็นการล้อเลียนนักการเมืองไทยที่เจ็บแสบที่สุด และในต่างประเทศก็มีการล้อเลียนนักการเมืองแบบนี้อยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าการเขียนการ์ตูน ไม่ว่าเขียนภาพล้อเลียน แต่ว่าไม่เจ็บแสบเท่ากับที่ประเทศไทย ที่นักล้อเลียนของประเทศไทย และประชาชนไทย ล้อเลียนนักการเมือง

ล้อเลียนชนิดที่นักการเมืองที่คิดว่าตัวเองฉลาด ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่สามารถจะมาทำอะไรประชาชนได้ เพราะประชาชนฉลาดกว่านักการเมืองแล้ววันนี้

เมื่อวานที่ผมไปขอนแก่น ไปร่วมรณรงค์โหวตโนกับพี่น้องประชาชนที่ จ.ขอนแก่น ก็มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศตามไปสัมภาษณ์ และตามไปถ่ายภาพ บันทึกภาพเหมือนกัน สนใจมากครับ เพราะฉะนั้นพี่น้องดูภาพที่ขอนแก่นนะครับ พี่น้องที่ขอนแก่นคึกคัก และให้การต้อนรับ สนับสนุนสองข้างทางก็จะมีประชาชนมายกนิ้วให้ บอกว่าเยี่ยมมาก แล้วก็ทำมือโหวตโน นี่เป็นครั้งแรกในเขตอีสาน จ.ขอนแก่น ที่พี่น้องคงคิดว่าขอนแก่นเป็นพวกเสื้อแดงไปหมดแล้ว โธ่เอ๊ย พี่น้องครับ คนอีสานที่เขาไม่เป็นพวกเสื้อแดง และเขารังเกียจให้พวกเสื้อแดงนั้นมีอยู่เยอะ แต่เขาไม่อยากจะไปแสดงออก หรือแสดงมารยาทอันไม่เหมาะสมเหมือนอย่างคนพวกนั้น แล้วคนพวกนั้นก็ใช้วิธีจุดพลุ สร้างภาพว่าอีสานเป็นคนเสื้อแดงหมด เอาป้ายมาติดว่าหมู่บ้านเสื้อแดง ความจริงแล้วมันอยากจะค้ายาเสพติด ไม่อยากให้คนเข้าไปยุ่งกับมัน มันก็ติดป้ายหมู่บ้านเสื้อแดง

ไม่มีอะไรครับ เป็นวิธีสร้างภาพ สร้างกระแส ลวงตาคนให้เห็นว่ามีพวกกูเยอะ วิธีนี้คอมมิวนิสต์เขาทำมาก่อนแล้วครับ ไม่ต้องห่วง ไอ้พวกนี้มันเลียนแบบ แต่ความจริงบางหมู่บ้านมีแค่ไม่กี่คน คนส่วนใหญ่ที่เขาไม่เป็นก็เยอะ ใน จ.ขอนแก่น คนที่ไม่ใช่พวกเสื้อแดงมากกว่าคนที่เป็นเสื้อแดงครับ

แล้วในอีสาน คนที่ไม่เป็นพวกเสื้อแดงมากกว่าคนเสื้อแดง เป็นแต่เพียงว่าพรรคประชาธิปัตย์มันหน่อมแน้ม ทำงานในภาคอีสานไม่เป็นเท่านั้นเองครับ เลยไม่มีปัญญาไปเอาคะแนนในภาคอีสานได้ ถ้าทำงานเป็น ป่านนี้สบายมาก แต่เพราะเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อไงครับ ไม่เคยรู้สภาพชีวิตของคนอีสาน ไม่เรียนรู้วัฒนธรรมของเขา ไม่เข้าใจวิถีชีวิตของคนเหล่านั้น ไม่รู้จักทัศนคติความรู้สึกนึกคิดของเขา และร้อยวันพันปีไม่เคยโผล่หัวไปให้เขาเห็น แล้วเขาจะเลือกคุณได้ยังไง

คนส่วนใหญ่เขาไม่ได้เป็นอย่างนั้นไปหมดหรอก แต่เป็นเพราะว่ารัฐบาลนี้ปล่อยให้กลุ่มคนเหล่านั้นเคลื่อนไหวโดยอิสระเสรี มันก็เลยยัดเยียดใส่ความคิด ปลุกระดม ให้กับประชาชนที่เขาได้รับข้อมูลด้านเดียว คล้อยตามไปกับกระบวนการของคนเหล่านั้น ซึ่งอันนี้อันตรายมากครับ คนกลุ่มหนึ่งที่ไปนิยมพรรคที่เผาบ้านเผาเมือง เป็นอันตรายมากกับบ้านเมือง เพราะว่าคนพวกนี้ได้รับข้อมูลด้านเดียว และก็ไม่มีหน่วยงานของราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐบาล ไปเหลียวแลเอาใจใส่เขาเลย สื่อสถานีวิทยุชุมชน สถานีวิทยุท้องถิ่น แม้กระทั่งทีวีที่เผยแพร่ไปถึงพี่น้องประชาชน หมู่บ้านเหล่านั้น ล้วนแต่ให้ข้อมูลความรู้และความคิดที่ผิดๆ ทำให้คนเหล่านี้มีความเข้าใจต่อปัญหาชาติบ้านเมืองผิดไปจากข้อเท็จจริงมาก

นอกจากนั้น กระแสที่คนบางคนเข้าใจในลัทธิการเมืองที่เป็นอันตรายมาก คือมีความเชื่อว่าสถาบันก็ดี สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ก็ดี ไม่ได้ทำอะไรเพื่อพวกเขา ทอดทิ้งพวกเขา พวกเขามีไอ้ทักษิณเป็นพระเจ้า ตรงนี้อันตรายมากในท้องถิ่นภาคอีสาน แต่ที่มันเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะคนอีสานเป็นคนที่ดื้อด้านหรอก ไม่ใช่เพราะคนอีสานต้องการจะโค่นล้มเปลี่ยนแปลงระบอบสถาบันบ้านเมืองอะไรหรอกครับ แต่เป็นเพราะว่าเมื่อนักการเมืองเหล่านี้ไปอุปถัมภ์ดูแลเขา เอาใจใส่เขา ให้เงิน ให้ผลประโยชน์เฉพาะหน้าเขา เขาก็เลยหลงตามไปด้วย เคลิ้มตามไปด้วย ชื่นชมไปด้วย มันมีแค่นี้ แต่ถ้าเขาได้รับข้อเท็จจริง ข้อมูลที่ถูกต้อง เขาก็กลับมาเหมือนอย่างพี่น้องประชาชนขอนแก่นเมื่อวานนี้ และโคราชเมื่อวันก่อนนี้

เพราะฉะนั้นถ้ารัฐบาลเขาทำงานเหมือนอย่างพวกเราทำงาน ออกไปพบพี่น้องประชาชน มีกิจการ มีหน่วยงานเคลื่อนที่ของราชการ สถานีวิทยุ โทรทัศน์ ทีวีของรัฐ ให้ข้อมูลข่าวสารความรู้กับประชาชน เหมือนอย่างที่พวกเราให้ความรู้ ในแผ่นดินอีสาน รับรองครับเสื้อแดงต้องขุดรูอยู่เหมือนแย้เลย อยู่ไม่ได้ แต่เป็นเพราะรัฐบาลนี้มันขี้เกียจ สันหลังยาว ทำงานไม่เป็น และไม่รู้จุดอ่อนของปัญหา ไม่เข้าใจประชาชน จึงปล่อยให้เกิดสถานการณ์แบบนี้

พี่น้องครับ ปกติแล้วคนอีสานเป็นคนสุภาพ อ่อนน้อม เป็นคนที่รู้บุญคุณคน เป็นคนที่มีความกตัญญูรู้คุณ เป็นคนที่มีน้ำใจ ไม่ใช่คนที่ก้าวร้าวรุนแรง ไม่ใช่คนที่ชอบจะหาเรื่องหาราว และยิ่งจะมาทะเลาะกับส่วนราชการ หรือทะเลาะกับรัฐบาล ตำรวจ ทหารนั้น คนอีสานเขาไม่อยากทะเลาะหรอก แต่นี่เป็นเพราะรัฐบาลปล่อยทอดทิ้งให้คนพวกนี้ได้รับข้อมูลโดยฝ่ายเดียว ได้รับความคิดทางการเมืองที่ผิดๆ คนพวกนี้จึงมีความเชื่อว่า ที่เขาสู้ ที่เขาเสียสละ ที่เขากล้าหาญทำนั้น เขาเป็นวีรบุรุษของประชาชน เขาจึงกล้าแม้กระทั่งไปเผาศาลากลางจังหวัด นี่อันตรายมากครับ

ซึ่งปกติแล้วคนอีสานจะไม่ทำอย่างนั้น แต่พอมีคนไปปลุกปั่นยุยงให้เขาเข้าใจข้อมูลผิดๆ ว่าบ้านเมืองทอดทิ้งเขา รัฐบาลทุกชุดก็ไม่เคยเอาใจใส่เขา สถาบันหลักของบ้านเมืองก็ไม่เคยห่วงใยเขา พอมีคนจะมาช่วยเขา สถาบันทั้งหลาย หรือหน่วยงานทั้งหลาย สถาบันทหาร ตำรวจทั้งหลาย ก็กลั่นแกล้ง ทำร้ายคนที่จะมาช่วยเขา เขาเข้าใจข้อมูลแบบนี้ เขาก็เลยต้องลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องคนที่เขาชอบ คนที่เขารัก เพราะฉะนั้นทักษิณนั้นเป็นตัวอันตราย เพราะว่าไปให้ข้อมูลที่ผิดๆ กับพี่น้องประชาชน

เมื่อวานนี้ที่ผมไปขอนแก่น ที่พี่น้องเห็นนี่ ประชาชนส่วนใหญ่โอเค ดีมาก แต่ระหว่างที่จะมีการปราศรัยที่บริเวณอนุสาวรีย์และศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จ.ขอนแก่น นี่เราเดินไป แล้วก็ไปถึงศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และเตรียมจะขึ้นเวทีปราศรัย มีผู้หญิงคนหนึ่งมานั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มันเป็นม้านั่งยาวๆ อยู่ฝั่งตรงข้ามอนุสาวรีย์ คนละฟุตปาธ ฝั่งถนน ไม่รู้เธอมาอะไร เธอคงจะมาฟังหรือจะมาทำอะไรไม่รู้ แต่เธอสนใจกระบวนการของพวกเรา เธอก็มานั่งฟังอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่งตัวยังไงรู้มั้ยครับ ใส่เสื้อแดง ทั้งชุด เสื้อแดง กระโปรงแดง ทั้งชุด ใส่หมวกสีแดง ทั้งชุด หมวกก็แดง เสื้อก็แดง กระโปรงก็แดง รองเท้าก็แดง แล้วเวลาฟ้าแล่บก็แดงด้วยครับ

ผมเห็นแล้วผมก็ เออเว้ย ลัทธิเสื้อแดงนี่มันสามารถปลุกระดมให้คนคลั่งไคล้แบบงมงาย ถึงขนาดฟ้าแล่บยังสีแดงเลยครับ ผมไม่ได้เห็นนะครับ แต่มีคนมาบอกว่าฟ้าแล่บก็แดงนะคุณประพันธ์ เธอก็มานั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ตรงฟุตปาธ แล้วผมจะขึ้นเวที ผมก็เออ เดี๋ยวสักพักผมจะเชิญเธอขึ้นมาหน่อย พอผมขึ้นเวทีหันไป อ้าว เธอไปซะแล้ว แหมเสียดายจัง

มีพี่น้องขอนแก่นบอกว่า สาวเสื้อแดงเขาคงมารอคุณประพันธ์ รอไม่ไหว รอว่าคุณประพันธ์จะขึ้นเวที รอไม่ไหวเธอเลยกลับไปก่อน

แล้วก็มีอีกคนหนึ่งที่ผมเห็นนะ คลั่งไคล้แบบคนงมงาย ร้านขายผ้า พอเราเดินขบวนไป แกมายืนอยู่หน้าร้าน ผมดูเหมือนแกจะเสียสติยังไงไม่ทราบ คือคนพวกนี้ถูกปลุกระดม ใส่ความคิดแบบผิดๆ ไปเยอะ นึกว่าทักษิณเป็นเทวดา เป็นพระเจ้าคนใหม่สำหรับเขาไปแล้ว

แต่มันจะไปโทษใครที่คนพวกนี้เป็นอย่างนี้ ก็เพราะรัฐบาลนี้มันหน่อมแน้ม นี่ถ้าผมมีโอกาสเป็นรัฐบาลนะ สื่อมวลชนของรัฐต้องให้ความรู้ปูพรมไปเลยครับ ไอ้ความคิดแบบนี้ไม่มีวันได้ผุดได้เกิดหรอก แต่นี่มันมัวแต่สาละวนอะไร คอยเจ๊าะแจ๊ะๆ กันอยู่กับศิริโชค มันเลยไม่สนใจว่าประชาชนคิดยังไง

อีสานนี่คุยง่ายครับ ขอให้ไปหาเขา และได้ใจเขา ผูกเสี่ยวเป็นพี่เป็นน้องกันเมื่อไรแล้ว ถึงไหนถึงกัน ฉะนั้นเมื่อคุณปล่อยให้ทักษิณไปผูกเสี่ยวกับพี่น้องอีสานเรียบร้อยแล้ว คุณเมินเสียเถอะที่คุณจะไปหาเสียงได้ ส.ส.ในภาคอีสาน อย่างเก่งมันก็ได้แค่วิฑูรย์ นามบุตร แล้วก็อิสสระ สมชัย 2 คน สุทัศน์ เงินหมื่น เท่านั้นล่ะ อยู่แค่นั้นแหล่ะ มึงขยายไปไหนไม่ได้หรอก เพราะขี้เกียจสันหลังยาว และไม่เคยไปหาประชาชน

นี่คือดินแดนอีสาน แต่ว่าถ้าเรามีผู้นำที่ดี มีรัฐบาลที่ดี ไม่ต้องห่วงครับ อีสานนี่สามารถพลิกแผ่นดินได้ ที่ผมพูดให้ฟังนี่ก็คือจะชี้ให้เห็นว่า อันตรายที่ระบอบทักษิณ ถ้ามันกลับมาอีกครั้งหนึ่ง อันตรายกับประเทศชาติบ้านเมืองมากนะครับพี่น้องประชาชนที่เคารพรัก ทั้งท่านที่อยู่ที่นี่และที่อยู่ที่บ้าน วันนี้เขามีประชาชนกลุ่มหนึ่งที่งมงายและพร้อมจะตามเขา 2. เขามีพรรคการเมือง 3. ถ้าเขาได้อำนาจรัฐ มาเป็นรัฐบาลแล้ว เขามีตำรวจ ทหาร กองทัพอยู่ภายใต้บังคับบัญชาเขา เขาเรียกว่าเขามีแก้วสามประการครบเลย คือมีพรรค มีกองทัพ มีประชาชน ถ้าเขาได้อำนาจรัฐ มีประชาชน มีพรรคนำอย่างนี้แล้ว ต่อไปนี้ในประเทศนี้เขาไม่กลัวใครเลยครับ มันจะฮึกเหิม เหิมเกริมอย่างหนัก

แล้วน้ำหน้าอย่างไอ้หนุ่มหน้าหล่อ หน้าละอ่อน หน้าขาวๆ อย่างนี้นี่หรือจะไปสู้กับเขา มึงไม่ต้องมาเขียนเล่าให้กูฟังหรอกว่า เขาเผาบ้านเผาเมืองอย่างไร วันนั้นเกิดเหตุอะไรอย่างไร ทะลึ่งมาเขียนทำหอกอะไรครับ เขารู้กันหมดแล้ว ว่าเหตุการณ์ที่เขาเผาบ้านเผาเมือง วันนั้นเกิดเหตุการณ์อะไร ผมอยู่อย่างไร ใครมาเผาบ้าน พล.อ.พัลลภ เป็นอย่างนั้น เสธ.แดง เป็นอย่างนี้ แกนนำ นปช.ว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ต้องทะลึ่งมาเล่าให้พวกกูฟังหรอก พวกกูรู้หมดแล้ว มาเล่าทำไม คุณมาเล่าทำไมหายนะของประเทศ ทำไมไม่เล่าว่าคุณปล่อยให้เขาก่อขบวนการเช่นนี้ได้อย่างไร คุณเป็นนายกฯ คุณเป็นรัฐบาล แล้วคุณปล่อยให้เขามาสร้างขบวนการเคลื่อนไหวชุมนุม เผาบ้านเผาเมือง ปิดถนน ยึดรถไฟ เผาศาลากลาง ทำไมไม่เขียนว่า ผมขอสารภาพผิดครับที่ผมขี้ขลาดตาขาวและโง่เขลา ประเมินผิดเกินไป ผมประเมินไม่ถูก แล้วยังมีหน้ามาพูด เห็นเขาเผา เห็นเขาฆ่า ยิงอาวุธ M79 เข้าหาใส่ประชาชน มีคนบาดเจ็บล้มตาย ผมแทบช็อก มันน่าจะช็อกตายตั้งแต่อยู่ที่ราบ 11 แล้ว ควรจะตายไปตั้งแต่ตอนนั้น มีปัญญาแค่นี้เหรอ

รู้ทั้งรู้ว่าคนพวกนี้มันก่อขบวนการมาอย่างไร มีการไปฝึกอบรมกันที่ไหน ฝึกอาวุธกันอย่างไร เตรียมขบวนจะเดินทางมาอย่างไร นั่งอมสากกะเบืออยู่ที่ไหนถึงไม่ทำอะไรน่ะ

บ้านเมืองฉิบหาย ถูกไฟไหม้ ไฟเผา เป็นจุลแล้วค่อยมานั่งเขียน มาสาธยายว่าผมไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมไม่ได้เป็นอย่างนี้ เขาเรียกว่าแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ครับ ไอ้ที่เขียนนี่ก็คือ เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใสคนอื่นหมด แต่ความล้มเหลว ความไร้ประสิทธิภาพ ความไม่มีความกล้าหาญ ความขี้ขลาดตาขาว การทำงานไม่เป็น แก้สถานการณ์ไม่เป็น ไม่พูดถึงเลยครับ แถมความรับผิดชอบทางการเมือง นี่ถ้าคนเขาปล่อยให้เผาบ้านเผาเมืองอย่างนี้ นักการเมืองมันต้องมีสามัญสำนึกและความรับผิดชอบ ไม่ใช่ดีแต่ทะลึ่งไปอบรมสั่งสอนผู้อื่น

ไม่มีความรับผิดชอบอะไรเลย ที่ปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ตัวเองล้มเหลว ตัวเองทำงานไม่ประสบความสำเร็จ ตัวเองแก้ปัญหาให้บ้านเมืองไม่ได้ ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่รับผิดชอบแล้ววันนี้กลับมาเขียน ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3 เขียนทำไม เขียนเพื่อจะบอกว่ากูนี่ทำดีที่สุดแล้ว พี่น้องครับผมทำดีที่สุด ดีของคุณที่สุดคือเลวที่สุดของประชาชนนะ มันเป็นข้อแก้ตัวที่บัดซบและน้ำขุ่นๆ ไม่สมควรที่ผู้นำประเทศจะมาพูดเลย เรื่องอย่างนี้ มีแต่เขาต้องแสดงความรับผิดชอบ สำนึกผิด จริงๆ แล้วคุณไม่ควรจะมาสมัครเลือกตั้งด้วยซ้ำไป ทำงานมาตรฐานต่ำขนาดนี้

เป็นผมนะ ถ้าผมทำให้บ้านเมืองฉิบหายขนาดนี้นะ ผมต้องลาออกแล้ว ไม่ใช่มาบอกว่า ถ้าเลือกตั้งครั้งนี้พรรคผมแพ้ เสียหาย ผมถึงจะลาออก อ๋อ ตกลงถ้าพรรคมึงฉิบหาย มึงถึงจะลาออก ประเทศฉิบหายกูไม่ต้องลาออกใช่มั้ย ผมนี่ระอา สะอิดสะเอียน ถ้าแพ้เลือกตั้งถึงจะลาออก แต่ถ้าประเทศชาติฉิบหาย บ้านเมืองโดนเผา คนถูกฆ่า ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า กูไม่ต้องลาออก หน้าด้านครับ รอให้พรรคกูฉิบหายก่อน กูถึงจะลาออก แพ้เลือกตั้งก่อนกูถึงจะลาออก มันใช้ไม่ได้ครับคนแบบนี้

ที่พูดบอกว่า ผมร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน แกร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชนที่ไหนวะ ไม่มีเลย ประชาชนเผชิญชะตากรรม ตาย สู้กับพวกนั้นเอาเอง ทำมาค้าขายไม่ได้ เดือดร้อน ต้องไปสู้กับพวกนั้นเอาเอง หมอ แพทย์ โรงพยาบาล แม้กระทั่งสมเด็จพระสังฆราช ต้องช่วยตัวเอง รัฐบาลไม่มีปัญญาที่จะดูแลเลย คุณไม่ได้ช่วยประชาชน คุณไม่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชนเลย

ถ้าคนมันเข้าใจอย่างนี้ มันต้องกล้าหาญที่จะออกมาสู้กับพี่น้องประชาชน ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชน ใช่มั้ยครับ

คุณไม่เคยออกมาบัญชาการอะไรเลย แถมยังปล่อยให้ทหารไปเจ็บไปตายแต่เพียงลำพัง ไปมือเปล่า ให้ประชาชนที่มีอาวุธ ให้กลุ่มกองกำลังติดอาวุธของผู้ชุมนุมยิงตายไปตั้งหลายร้อยคน พิการจนเท่าทุกวันนี้ มาพูดทำไม ยิ่งพูดมันยิ่งขายหน้าตัวเอง มันยิ่งเปิดหน้ากากตัวเองให้คนเขารู้

ประชาชนเขาบาดเจ็บล้มตาย ถามว่าทุกวันนี้ ถ้าคุณร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจที่เขาเดือดร้อนแถวราชประสงค์ ประตูน้ำ แถวอนุสาวรีย์ ห้างเขาโดนเผา แล้วเขายังทำมาหากินไม่ได้จนกระทั่งทุกวันนี้ คุณช่วยอะไรเขา ถ้าคุณร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขา ปล่อยให้เขาแก้ปัญหาเอาเอง

มิหนำซ้ำ ก็อย่างที่หลายคนพูดแล้ว สุดท้ายก็ยังไปประกันตัวไอ้พวกนี้ออกมา แล้วยังมีหน้ามาอ้างว่าตัวเองร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชนในวันที่ยากลำบาก ยกตัวอย่างง่ายๆ แม้กระทั่งครั้งสุดท้าย คุณวีระ ราตรี นายพนิช ถูกจับ นายกฯ ไปไหน พาลูกเมียไปนอนอยู่ในรีสอร์ท เหมืองแร่ของนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.และรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ ที่ จ.ตาก คุณไปนอนอยู่นู่น ปล่อยให้คนไทยเผชิญชะตากรรมอยู่นี่

พี่น้อง จ.บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลฯ โดนทหารเขมรถล่มตาย คุณก็ไปหาเสียงครั้งเดียวแล้วก็ไม่โผล่หัวไปอีกเลย น้ำท่วม คุณก็ไม่ไปหาพี่น้องประชาชน ไปครั้งเดียวให้หนังสือพิมพ์ถ่ายภาพ ให้ทีวี ออกทีวีแล้วก็หดหัว หายไปเลย จนกระทั่งอุดม แต้พานิช มันมาเล่นรายการทอล์กโชว์ ใส่เสื้อเหลืองๆ กางเกงสีชมพู มันบอก เนี่ย รัฐบาลเหรอ น้ำท่วม 8 วันแล้วยังไม่ออกไปเลย เอกชนเขาไปก่อนแล้ว

เขายังมาล้อเลียนอยู่เลย ไม่สำนึก ไอ้เรื่องความรับผิดชอบของตัวเองนี่ไม่พูด เขียนมาแล้ว ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3 ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ก็โดนปานเทพ-เทพมนตรี ชำแหละไปแล้ว นี่ตอนที่ 3 ยังแหลต่อไปอีก ยังอยากจะเขียนต่อไปอีก เขียนไปเถอะ เราจะได้มีเรื่องชำแหละคุณต่อไป

ผมคิดว่าวันนี้ฟากฝั่งนี้คนรู้หมดแล้วว่าเป็นอย่างไร ฟากฝั่งนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ฝั่งนี้ ไม่ต้องพูดถึงเลยพรรคประชาธิปัตย์ ชาตินี้ไม่มีวันได้โงหัวถ้ามีนายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรค พรรคที่เอาเด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาเป็นหัวหน้าพรรค มันไม่มีวันได้โงหัวเลย ฟากนี้เราไม่ต้องไปพูดถึง จบเลย

แต่ว่าไอ้ฟากนี้ก็พอกัน วันนี้กำลังฮึกเหิม คิดว่าตัวเองจะได้เป็นรัฐบาล จะกลับมาเปลี่ยนประเทศไทยใหม่ เป็นรัฐไทยใหม่ ไปโน่นเลย จะมานิรโทษกรรม จะให้ผู้หญิงเป็นนายกฯ ให้น้องสาวขึ้นมาเป็นนายกฯ แล้วก็คงมาอิหรอบเดิม แล้วมาอิหรอบเดิมนี่คิดว่ามันจะอยู่ได้มั้ยครับ เราจะปล่อยให้อยู่มั้ย

เพราะฉะนั้น พี่น้องที่เคารพรัก ท่านที่ห่วงใยว่าโหวตโนแล้วกลัวว่าพวกนี้จะมา ท่านไม่ต้องกลัวครับ เอาอย่างนี้ว่า สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้ารัชกาลที่ 5 สมเด็จพระบรมรูปทรงม้า สาบานต่อเจ้าพ่อหลักเมือง พระแก้วมรกต และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่า ถ้านายประพันธ์มันยังไม่ตายไปเสียก่อน นายทักษิณอย่าหวังว่ามึงจะได้กลับมามีอำนาจอีก และพี่น้องยืนยันกับพวกเรามั้ยว่า พวกเราจะสู้กับมันจนถึงที่สุด

พี่น้องพันธมิตรประชาชนฯ และพวกเราที่โหวตโนนี่ล่ะ จะออกมาสู้กับมัน คุณไม่ต้องกลัวหรอก นี่ยืนยันได้เลยว่าพวกเราจะไม่ปล่อยให้มันมาปู้ยี่ปู้ยำบ้านเมืองเหมือนเดิม มาเปลี่ยนประเทศเป็นประเทศรัฐไทยใหม่ มาล้มล้างระบอบสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะไม่ยอม ให้มันข้ามศพพวกเราไปก่อน มันจะได้รู้ว่านรกมีจริง มึงมาเลย

ใครก็ตามที่จะกลับมามีอำนาจ แล้วคิดจะมาล้มล้างเปลี่ยนแปลงประเทศชาติบ้านเมือง ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และคิดว่าจะมาใช้อำนาจโกงกินบ้านเมืองเหมือนเดิม พี่น้องไม่ต้องห่วงครับ ตราบใดที่ยังมีพันธมิตประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และยังมีพวกเราอยู่ พวกเราสาบานและยืนยันว่าจะสู้กับมันถึงที่สุด

พี่น้อง พ่อค้า ประชาชน นักธุรกิจ ข้าราชการ ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะไอ้พวกนี้กลับมา เรามารวมกันสู้กับมัน ไม่ต้องไปกลัว และพี่น้องที่โหวตโนครั้งนี้ พี่น้องเชื่อผม ถ้าพี่น้องมาโหวตโน ไม่ประสงค์ลงคะแนนมากๆ ให้มันมาๆ นี่ไงครับคือกำลังของพวกเราที่จะผนึกรวมกัน ไม่ใช่กลับมาไม่ได้เท่านั้น ใครมาเป็นรัฐบาล เสือกทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน เราจะเอากับมันจนถึงที่สุด

เพราะฉะนั้นท่านไม่ต้องไปหวังพึ่งใคร ไม่ต้องไปหวังพึ่งพรรคอื่นเลย มันไม่มีน้ำยาที่จะสู้กับพวกนี้หรอก ยกเว้นพวกเราเท่านั้น แล้วผมก็รู้จิตใจของพวกเรา รวมทั้งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล พวกเราทุกคน คุณลุงจำลอง ศรีเมือง คณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักร พวกเราไม่เคยกลัวทักษิณและระบอบทักษิณเลย

คนที่กลัวจนขี้หดตดหายน่ะ คือพวกนั้น ไอ้พวกหน้าขาวๆ หน้าหล่อๆ หน้าเหลี่ยมๆ น่ะ แล้วก็ไอ้คนที่จัดรายการอยู่สถานีวิทยุ ได้เวลาทีวี มันกลัวเขาจะมายึดเวลามันคืน แต่โง่เขลา แทนที่จะมาผนึกกำลังกับพี่น้องประชาชน กลับดันทะลึ่งมาแทงพวกเราข้างหลัง มาด่าเรา มาเนรคุณเรา แล้วมันจะไปสู้กับไอ้ทักษิณได้ยังไง ใช่มั้ยครับ

เพราะฉะนั้น ทางที่ดีใครก็ตามที่ไปเข้าใจอย่างนี้ ขอให้หุบปากที่สกปรกของบรรดาไอ้พวกลิ่วล้อเหล่านั้นเสีย หุบปากสกปรกของพวกคุณเสีย ว่าพวกเราหรือแกนนำของพวกเราไปมีผลประโยชน์ ไปรับงานของทักษิณมา หุบปากอันสกปรกโสโครกของพวกคุณเสีย พวกคุณมันเป็นพวกมือไม่พายเอาตีนราน้ำ พวกคุณมันเป็นพวกเนรคุณ ฉวยโอกาส เอาประโยชน์จากการต่อสู้ของประชาชน แล้วมึงยังมาทำลายประชาชนที่ต่อสู้ปกป้องชาติบ้านเมืองอีก คนพวกนั้นมันต้องหุบปาก

วันนี้ที่ผมต้องพูดแบบตรงไปตรงมาก็เพื่อจะบอกว่า นักธุรกิจหลายคนมาถามผม แล้วก็คุยกัน ทั้งในฐานะเพื่อนฝูง ในฐานะคนที่รักใคร่เคารพกัน เขาสนใจเรื่องโหวตโนมากตอนนี้ ต้องปรบมือให้คนเหล่านั้นครับ เขาสนใจ เขาเริ่มเข้าใจแล้ว เพราะผมก็อธิบายให้เขาฟังอย่างตรงไปตรงมาอย่างนี้ ผมถามว่า นี่คุณ คุณไปตั้งองค์กร 21-22 องค์กร คุณอยากจะต่อสู้กับคอร์รัปชั่นใช่มั้ย คุณอยากจะต่อต้าน คัดค้านนักการเมืองที่โกง ที่ทุจริต ที่มาเรียกค่าสินบน เงินใต้โต๊ะ ใช่มั้ย ผมถามว่า ถ้าถึงเวลาที่เขามีอำนาจแล้ว คุณจะเอาวิธีไหนไปสู้กับเขา ถ้าเขากลับมาเป็นรัฐบาลแล้วคุณจะเอาอะไรไปสู้กับเขา เพราะเมื่อเวลาที่เขาเป็นรัฐบาล เขาก็ขี่คอคุณ บีบคอคุณ เดี๋ยวก็จะมีพ่อค้าในกลุ่มพวกคุณ ยังไงก็ต้องยอมจ่ายเขา และนี่เขายังไม่ได้มาเป็นรัฐบาลด้วย ในการเลือกตั้งระหว่างนี้ พวกพ่อค้า นักธุรกิจ ก็เอาเงินไปช่วยนักการเมือง พรรคการเมือง เพื่อหาเสียงเลือกตั้งแล้ว เพราะกลัวว่าถ้านักการเมืองพวกนี้กลับมา ตัวเองจะเสียประโยชน์ จะถูกกลั่นแกล้ง จะถูกรังแก ใช่มั้ยครับ

ผมก็เลยบอกเขาว่า นี่ เวลานี้คุณทำสเต็ปนี้สเต็ปแรกก่อน แค่พวกคุณบอกให้ลูกน้อง พนักงาน ลูกจ้าง คนในเครือข่ายของพวกคุณ คุณแค่เข้าไปในคูหา แล้วก็กาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนเท่านั้น คุณไม่ตาย คุณไม่เจ็บ คุณไม่อันตรายเลย และไม่มีใครรู้เลย เป็นการทำที่ง่ายที่สุด และเป็นการใช้สิทธิ์ของคุณ ถ้าคุณไปกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนมากๆๆๆ กลายเป็น 5 ล้าน 6 ล้าน 7 ล้าน ดี/ไม่ดี ให้ดีที่สุดก็คือ ให้มัน 10 ล้าน ชนะทุกพรรคเลยครับ

ถ้าทำได้อย่างนั้น พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน นักการเมืองจะเหมือนหมาตัวหนึ่ง ไม่มีราคาอะไรเลย เหมือนหมาจริงๆ พี่น้องลองนึกดู ผมถึงบอกว่าคุณไม่คิดเหรอ ถ้าคุณออกมา แล้วการกระทำครั้งนี้มันไม่ได้ทำเพื่อพันธมิตรฯ มันไม่ได้ทำเพื่อพวกผม มันเป็นไปเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ผมถึงบอกว่า ถ้าคุณดุสิต นนทะนาคร ได้ยินเสียงผม และประธานสภาหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมฯ สมาคมธนาคารฯ กลุ่มองค์กรเอกชนทั้งหลาย รวมทั้งเครือเนชั่นด้วย ที่ทำตัวจะเป็นเจ้าภาพ เจ้ากี้เจ้าการในการต่อต้านรณรงค์เลือกตั้ง ยังไม่เข้าใจเรื่องโหวตโนว่ามันจะเกิดประโยชน์อย่างไร ถ้าคุณรณรงค์ให้ประชาชนไปกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน พี่น้องลองนึกภาพดูสิครับ ประกาศผลเลือกตั้งออกมา ปรากฏว่าโหวตโนมีอยู่ 10 ล้าน พรรคเพื่อไทยมีอยู่ 5-6 ล้าน ประชาธิปัตย์มีอยู่ 3-4 ล้าน พี่น้องลองนึกดูซิว่า นักการเมืองมันจะจ๋อยเหมือนหมาถูกรถชนนะครับ เพราะหมามันโดนรถชนมันก็นั่งเหงาอยู่ข้างทาง ไปไหนไม่ถูก

มันซ่าไม่ออก มันจะซ่าได้ยังไง เฮ้ย ไอ้ห่า แพ้พรรคโหวตโน กูแทบจะต้องเอาปี๊บคลุมหัว

คุณทำแค่นี้ คุณก็สั่งสอนนักการเมืองได้แล้ว เรียกมานี่ มึงมานี่ มาเข้าเฝ้าพรรคโหวตโนซะดีๆ เขกกบาลได้เลย พวกแกจะตั้งรัฐบาลเนี่ย ถามพวกเราเสียก่อนว่า คณะรัฐมนตรีนี่ไม่ใช่เอาพวกที่มีประวัติฉาวโฉ่มา ไม่ได้ แล้วเราจะอนุญาตให้ตั้งรัฐบาลหรือไม่ มันต้องฟังนโยบายที่คุณจะทำ ก่อนอื่นควรต้องทำคือเรื่องดินแดน เรื่องเอกราช เรื่องปราบคอร์รัปชั่น และเอาวีระ-ราตรีกลับมาเสียก่อน

ผมถึงบอกว่า อ.ประเวศ วะสี ท่านอานันท์ ปันยารชุน สภาหอการค้า และองค์กรภาคเอกชนต่างๆ อย่าไปเพ้อฝันกับเรื่องปฏิรูปอย่างอื่นเลย วันนี้ออกแรงแค่บอกลูกศิษย์ลูกหา ประชาชนที่รักใคร่เคารพนับถือ ให้ไปช่วยกันโหวตโน เสียงประชาชนจะสั่งให้นักการเมืองเดิน 4 เท้าก็ได้ ทำท่าลิงก็ได้ ทำท่าหมาก็ได้ ทำท่าควายก็ได้ เสียงเรามันมีพลังขนาดนั้น เพราะฉะนั้นท่านต้องออกมารณรงค์ช่วยกับประชาชนสิ

การไปโหวต ไปกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนมันทำได้ง่ายมาก เดินเข้าคูหาได้บัตรมา 2 ใบ เลือกเขต เลือกพรรค กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน หย่อนบัตรตูม 4 วินาทีจบ จับมือใครดมไม่ได้ว่าใครเป็นคนโหวตโนบ้าง เพราะเราไม่ได้เปิดเผย เป็นการลงคะแนนโดยลับ

แต่พอผลคะแนนมันออกมา คราวนี้พรรคการเมืองผมว่ามันไปผูกคอตายแน่ ผมถึงบอกนี่คือจุดที่เราเอาชนะได้ไม่ยาก แต่ต้องอาศัยความร่วมมือกับประชาชน เสียสละ และเห็นพ้องร่วมกัน อย่าไปมีอคติกับพี่น้องประชาชนพันธมิตรฯ ที่เขาออกไปรณรงค์ 44 เปอร์เซ็นต์ ที่ยังไม่ตัดสินใจน่ะ เชื่อผมครับ ท่านอย่าเอาคะแนนของท่านไปให้ไอ้พรรคการเมืองพวกนี้เลยแม้แต่คะแนนเดียว 44 เปอร์เซ็นต์เนี่ย ถ้าท่านทำเช่นนั้นมันจะเกิดคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองอย่างมหาศาล ท่านจะได้ชนิดที่ท่านนึกไม่ถึงเลยครับ จริงๆ

ที่ท่านฟังอยู่ 44 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใครน่ะ เพราะตอนนี้ท่านเงี่ยฟังพรรคโหวตโนอยู่ว่าจะเอายังไง ได้ประโยชน์แน่นอน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง และไม่ใช่มาทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง ท่านไปคิดสารัตถะด้วยเหตุด้วยผลดู ว่าคะแนนโหวตโนมันเป็นคะแนนที่มีค่า มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีพลังขนาดไหน ถ้ารวมกันได้แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ผมหวังว่าการโหวตโนกำลังขยายตัว แล้วดูสิครับ เดี๋ยวให้พี่น้องดูภาพทั่วประเทศก็ได้ว่าวันนี้เรามีจัดกิจกรรมรณรงค์โหวตโนทั่วประเทศเลยครับ ทุกจังหวัด เดี๋ยววันที่ 20 พิษณุโลกก็ติดต่อมาแล้ว เชียงรายก็ติดต่อ ภูเก็ตก็ติดต่อ หลายจังหวัดตอนนี้เคลื่อนไหวคึกคักๆ ทั่วประเทศครับ การรณรงค์โหวตโน

พี่น้องเห็นแล้วใช่มั้ยการเลือกตั้งที่พิษณุโลก เมืองสองแคว 7 เปอร์เซ็นต์ โหวตโน เดี๋ยวเขาจะจัดรณรงค์โหวตโนวันที่ 20 อีก ที่พิษณุโลก เมืองสมเด็จพระนเรศวร

เพราะฉะนั้นถ้าทุกจังหวัดมีกิจกรรมอย่างนี้ ผมเชื่อมั่นครับ ขนาดไปขอนแก่นเมื่อวานนี้ เห็นมั้ย โหวตโนไม่ใช่โหวตโนธรรมดานะ ยังมีส่งเงินมาด้วย นี่ ลุงขาว ขอนแก่น บริจาคช่วย ASTV 3,000 นี่โฮ้วกิมหมวย ขอนแก่น 4,000 แล้วนี่ไม่ประสงค์ออกนามอีก 5,000 แล้วก็มีโรตีมาด้วย อร่อยดีโรตีกรอบ เจ๊จูขอนแก่น อีก 500 บาท คุณวัชรี ทองยา ASTV 500 เขาพระวิหาร 500 บาท

นี่พันธมิตรฯ บ้านไผ่บริจาค ASTV 1,000 บาท ให้คุณลุงจำลอง 1,000 บาท ให้สู้คดีอีก 1,000 บาท แล้วก็แฟนพันธุ์แท้ อยากจะบอกความรู้สึกว่าไม่มีเวลามาชุมนุม แต่มีเวลาส่งเงินมาบริจาค 1,000 บาท นี่เป็นบางส่วนที่มายัดๆๆ ใส่ผม ก่อนผมจะขึ้นเวที แต่เดี๋ยวพี่น้องขอนแก่นก็คงจะส่งเงินมาช่วยอีกหลังจากจัดกิจกรรม

จัดกิจกรรมของพวกเรานอกจากผู้มาร่วมออกเงินช่วยกันแล้ว ยังบริจาคมาช่วยส่วนกลางด้วย นี่สุดยอดนะครับ

ถึงกราบเรียนพี่น้องที่ท่านยังลังเล ไม่ตัดสินใจ จงตัดสินใจเถอะครับ และมาร่วมขบวนการกับพวกเราเพื่อเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ส่วนพี่น้องที่ออกไปรณรงค์แล้วไปเจอพวกยกมืออย่างนี้ เจอพวกบอกไม่เอา หรือต่อต้าน คัดค้าน เบอร์ 10 พวกนี้คือพวกไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ คือพวก 30 เปอร์เซ็นต์ ที่มันตัดสินใจไปแล้ว ไอ้พวกนี้บัวใต้น้ำ อย่าไปพูดไปเสียเวลา สนใจกับการทำความเข้าใจกับคน 44-50 เปอร์เซ็นต์ ที่ยังไม่ตัดสินใจ

คนพวกนี้ล่ะครับ ถึงวันที่เขาออกมาลงคะแนน พี่น้องจะรู้ว่า ถ้าวันนั้นผมก็ฝันว่า ถ้าสวรรค์มีตา ฟ้าเป็นใจ และพี่น้องประชาชนไทยเข้าใจ ออกมาลงคะแนนเสียงไม่ประสงค์ลงคะแนนถล่มทลายนี่ บ้านเมืองเปลี่ยนแปลง พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินเลยครับ

ผมอยากจะดูนักการเมืองพวกนี้มันจะซ่ามั้ย ซ่าไม่ออก สิ่งที่นักการเมืองกลัวที่สุดคือเรื่องนี้ ฉะนั้นเมื่อวานนี้ก็ต้องกราบขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวขอนแก่น โคราช สระบุรี หาดใหญ่ ทุกจังหวัดที่จัดไปแล้ว และราชสีมา ก็จัดไปแล้ว เดี๋ยวก็จะมีที่ผมว่า พิษณุโลก เชียงราย ภูเก็ต ก็จะจัดตามลำดับ จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง และที่ต้องปรบมือ ผมไปที่อีสาน ขอนแก่น เพลงโหวตโนของคุณตั้วนี่สุดยอดเลยครับ

สุดยอดจริงๆ พอเพลงหาเสียงของพวกนั้นมา พรรคประชาธิปัตย์.. ไอ้เนี่ยไปไกล go far far เลยครับ หรือไอ้นั่นเพื่อไทยอย่างนั้น เพื่อไทยอย่างนี้ หน่อมแน้ม เจอพรรคโหวตโนเข้า กลบหมดเลยครับ ทันสมัย เนื้อหาดี ทำนองเพราะ เนื้อหาสาระ ผมก็เลยบอกให้สุรวิชช์ บอกเปิดบ่อยๆ รวมทั้งสปอตโฆษณาหาเสียง เวลาไปรณรงค์โหวตโนที่ไหนมันคึกคัก ติ๊ดชึ่ง มันจริงๆ เรียกว่าของที่พรรคการเมืองต่างๆ เขาไปรณรงค์หาเสียงนั่นเป็นของโบราณ เป็นขยะทางการเมืองไปเลยครับ ไม่มีราคาเลย สู้ของเราไม่ได้ มีเนื้อหาสาระ มีสีสัน แล้วก็น่าสนใจ

พอรณรงค์ไป สองข้างทาง คนขับรถมาบีบแตรปี๊นๆๆ ยกมือ นี่รู้เลยครับ ร้านค้าออกมารู้เลยว่าเขาโหวตโนแน่นอน แล้วพี่น้องลองคิดดูว่าถ้าร้านนี้โหวตโน ครอบครัวเขาอีกกี่สิบเสียง แหม ได้เห็นอะไรดีๆ แน่ครับพี่น้อง วันที่ 3 กรกฎาฯเพราะฉะนั้นเราต้องเดินหน้าต่อไป รณรงค์โหวตโนให้ถึงที่สุด แล้วจะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่จริงๆ ครับ

วันนี้ก็มาเล่าบรรยากาศที่ขอนแก่นให้พี่น้องฟัง ก็สนุกสนาน พอผมลงเวทีไป เสียงแคน เสียงรำ รำกันป้อเลยครับ สนุกสนานมาก

เอาล่ะ วันนี้ก็คงได้แต่เพียงเท่านี้มั้ง เพราะว่าแฟนเพลงรออยู่แล้ว และยอมรับนะครับ เพลงศรัทธา ดังมาก ดังจริงๆ ไปที่ขอนแก่น ถ้าไม่ร้องไม่ให้กลับครับ ไม่ให้ขึ้นเครื่องบินเลย เพราะฉะนั้นต้องขอบคุณพี่น้องขอนแก่น คณะกรรมการจัดงานทุกท่าน ว่าขอให้เดินหน้าต่อไปในการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เพราะฉะนั้นวันนี้ผมก็เลยต้องกลายเป็นศิลปินโดยปริยาย เพราะว่าไปไหน ไปร้องที่ขอนแก่น เพลงศรัทธา มีสาวๆ มายกมือให้อย่างนี้เลย วัยรุ่นบอกโดนๆๆ อย่านี้ต้องไม่ร้องไม่ได้

(เพลง : ศรัทธา)