“ประพันธ์” แนะ ปชป.ถ้าอยากให้พรรคดีขึ้นต้องเปลี่ยนหัวหน้า และอย่าทอดทิ้งประชาชนแบบที่ผ่านมา พร้อมคาด 20 กว่าวันก่อนถึงเลือกตั้ง อาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน ชี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองเกิดขึ้นได้เสมอ ลั่นรัก “ปชป.” ก็ต้อง “โหวตโน” เพื่อให้นักการเมืองปรับปรุงตัวเอง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" ปราศรัยโดย "นายประพันธ์ คูณมี"
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวปราศรัยว่า พรรคประชาธิปัตย์นี้แปลก ผู้นำพรรคนี้ไม่รู้คิดอะไร ในทางการเมืองถ้าประชาชนไม่เลือกเรา ก็ไม่มีสิทธิ์ไปต่อว่าประชาชนที่ไม่เลือกต้องเคารพดุลยพินิจและสิทธิของประชาชน ไม่ใช่ส่งลิ่วล้อออกมาด่าประชาชนว่าโหวตโนจะทำให้นายทักษิณกลับมา ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เลวพอๆ กับเขา
การที่มีนักวิชาการ หรือสื่อมวลชน ออกมาพูดว่าถ้าโหวตโนจะเข้าทางอีกฝ่าย นี่เป็นวิธีการพูดที่สะท้อนความล้มเหลวของพรรคที่กลัวแพ้นั้นอย่างสิ้นเชิง แทนที่จะใช้ความรู้ความสามารถหาเสียง ไม่ใช่มาด่าประชาชนที่โหวตโน อย่างนี้ถือว่าผิดพลาดล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในทางการเมือง ยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าเนื้อตัวเอง ยิ่งขุดหลุมฝังศพตัวเอง เพราะฉะนั้นความล้มเหลวในการเลือกตั้งครั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวเองไม่ใช่เพราะใครเลย มันเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของประชาชนว่าจะเลือกใครหรือไม่เลือกใคร ไม่มีสิทธิมาต่อว่า นักการเมืองที่ดีเขาต้องเคารพเสียงประชาชน
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ความล้มเหลวของพรรคประชาธิปัตย์คราวนี้ เป็นความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะทักษิณและระบอบทักษิณ ทำให้ประชาชนได้เห็นแล้วว่ามีความน่ากลัวอย่างไร ขณะที่เป็นพรรคเพื่อไทยก็เป็นที่รวมของกลุ่มคนที่เป็นอันตรายต่อสถาบันกษัตริย์ อันตรายต่อชาติบ้านเมืองอย่าไร ประชาชนก็เห็นหมดแล้ว แต่ทำไมคนถึงไม่นิยมประชาธิปัตย์เพิ่มขึ้น นั่นก็แสดงว่าคุณมันก็ไม่ได้ดีกว่าเขา มันถึงตกต่ำลง ยิ่งมาฟังตัวเลขของสภาหอการค้าฯ ว่ายุคนี้ตัวเลขการทุจริตมากกว่า 30-50 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งตอกย้ำว่าคุณต้องทำอะไรผิดพลาด
ฉะนั้น ถ้าอยากได้คะแนนต้องฟังว่าผิดพลาดและล้มเหลวตรงไหน ตนสรุปได้ 3 ประเด็นใหญ่ สาเหตุที่ประชาธิปัตย์ผิดพลาด และล้มเหลว จนเปิดทางให้ระบอบทักษิณฟื้นคืนขึ้นมาได้
1.ไม่จัดการกับทักษิณ และรอบอบทักษิณอย่างเด็ดขาด เมื่อขึ้นมามีอำนาจแล้ว ทั้งๆที่ประชาชนให้กำลังใจในการจัดการพวกเผาบ้านเผาเมือง แต่ ไม่ทำอะไรเลย จนกระทั่งวันนี้ก็ยังไม่ได้ถอดยศ ถอดเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของนายทักษิณ แถมยังช่วยประกันตัวพวกเผาบ้านเผาเมืองอีก แบบนี้ทำให้ประชาชนหันหลังให้คุณ เลิกไว้ใจเพราะพึ่งรัฐบาลไม่ได้ ขณะนี้ภัยแดงจากระบอบทักษิณกำลังจะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง เป็นเพราะคุณให้เขากลับขึ้นมาเข้มแข็งเอง ที่น่าละอายที่สุด คือ หากินกับการปลุกผีทักษิณ ซึ่งทักษิณจะกลับมาได้ก็เพระาคุณไม่ใช่หรือ แล้วถ้ากลับมามีปัญญาไปสู้กับเขาหรือ สุดท้ายพี่น้องประชาชนต่างหากที่จะต่อสู้กับระบอบนี้
2.เป็นคนทำลายกระบวนการประชาชน กระบวนการประชาชนพันธมิตรฯ ถูกทำลายด้วยน้ำมือรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เริ่มตั้งแต่หลังการชุมนุม 193 วัน จากนั้นมีการชุมนุมคนเสื้อแดง รัฐบาลก็ถือโอกาสนั้นสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล เพื่อต้องการทำลายกระบวนการประชาชน กรรมเลยตามสนอง คนยิงก็อยู่ในรัฐบาลนี้แหละ และยังกล่าวหาว่ากลุ่มคนเสื้อเหลืองเป็นปัญหากับชาติบ้านเมือง จะบอกให้ว่าความคิดนี้นายสุเทพ พล.อ.ประวิตร ผบ.เหล่าทัพบางคนตนไม่อยากเอ่ยชื่อ มันก็คิดอย่างนี้
ผบ.เหล่าทัพ บางคนก็พูดว่าทั้งสนธิ และเสื้อเหลืองเป็นปัญหาบ้านเมือง และคนพวกนี้ก็ไปเสวยสุขในรัฐบาลนี้ วันนี้ก็กรรมตามสนอง เพราะเมื่อทำลายประชาชนก็ไม่มีประชาชนเคียงบ่าเคียงไหล่กับคุณ นักการเมืองที่ทำลายประชาชน จะไม่มีวันประสบความสำเร็จแน่นอน
สรุปได้ว่า การลือกตั้งคราวนี้จะเป็นการสั่งสอนคนเนรคุณ 2 คน พวกหนึ่ง คือ คนที่เนรคุณคนเสื้อแดง พวกเสื้อแดงเห็นว่าถูกเนรคุณก็เลยจะสั่งสอนในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งต่างกันกับเรา อย่างเราเป็นประชาชนที่สุจริตในการเคลื่อไหว และคิดว่ามีนักการเมือง มีพรรคหนึ่ง ที่น่าจะเป็นมิตรที่ดีกับเรา แต่เวลามีอำนาจแล้วกลับทรยศประชาชน วันนี้คนที่ลืมบุญคุณประชาชนทั้ง 2 จะได้รับการสั่งสอนจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ไม่ใช่ประชาชนมีความแค้นแต่เพราะมีสติปัญญาที่จะสั่งสอนนักการเมืองพวกนั้น ถึงบอกว่าการโหวตโนทำให้นักการเมืองหันไปปรับปรุงตัวเอง
3.บริหารบ้านเมืองล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ปกป้องแผ่นดินำไทย การแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ล้มเหลวเรื่องข้าวยากหมากแพง ทุจริตก็หนักกว่าเขา ทำงานก็ไม่เป็น ลอกนโยบายประชานิยมมา ไม่มีอะไรใหม่เลย
“ทั้งหมดนี้อย่าโทษประชาชน วันนี้คนในพรรคก็รู้ดีว่าปัญหาเกิดจากความดื้อด้านของหัวหน้าพรรคคนเดียว ที่จะฉุดพรรคลงนรก วันนี้คนภาคใต้จะโหวตโน เพราะต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง วิธีนี้เป็นการช่วยพรรคที่รัก เป็นการรักวัวให้ผู้รักลูกให้ตี ให้นักการเมืองสำนึก และปรับปรุงตัวเอง และนายอภิสิทธิ์ยอมรับแล้วว่าถ้าได้ ส.ส.น้อยกว่าเดิม ทำพรรคเสียหายจะลาออกจากหัวหน้า ซึ่งผมเชื่อว่า ได้ออกแน่ และถ้าอยากเห็นพรรคดีขึ้นต้องเปลี่ยนหัวหน้า อย่าทอดทิ้งประชาชน ประชาชนก็ให้โอกาสได้” นายประพันธ์ กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวว่า เพื่อไทยนั้นได้ใจอีสานเพราะขนาดคนของมันเป็นโจรเผาบ้านเผาเมือง มันยังไม่ทิ้งเลย ทำให้ได้ใจชาวบ้าน แต่มันก็เป็นสิ่งที่ผิด นี่คือ ทั้ง 2 ฝ่ายอันตรายต่อบ้านเมือง เราถึงต้องโหวตโน
20 กว่าวันที่จะถึงวันเลือกตั้งนั้น ความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้เสมอ อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น อาจเกิดการสู้รบครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างไทย-กัมพูชา หรือนักเลือกตั้งฆ่ากันตายนองเลือดก็ได้ ใครจะไปรู้ แต่เราต้องไม่เปลี่ยนแปลง ศรัทธาในสิ่งที่เราทำอยู่ ต่อสู้เพื่อให้ได้ซึ่งชัยชนะของประชาชน
คำต่อคำ
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง กราบเรียนพี่น้อง เพิ่งกลับมาจาก จ.กระบี่ ลงเครื่องแล้วมุ่งหน้ามาที่เวที เพราะว่าขาดไม่ได้ ขาดไป 1 วันนี่มันเหมือนขาดอะไรไปหลายๆ อย่าง เมื่อวานพี่น้องคงได้ฟังอะไรดีๆ จากพี่สนธิ และเป็นการสรุปภาพรวมสถานการณ์การต่อสู้ของพวกเราได้เป็นอย่างดีว่า โดยภาพใหญ่แล้ว เกมของปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา มันเป็นเกมที่มีประเทศมหาอำนาจ ที่มีธุรกิจเกี่ยวกับแหล่งพลังงาน เข้ามาเกี่ยวข้องในภูมิภาคนี้ ทำให้ไทยต้องกลายเป็นเบี้ยล่าง และตกอยู่ในเกมที่เป็นลูกไล่ของกัมพูชา ทั้งๆ ที่โดยศักยภาพแล้ว ประเทศไทยควรมีศักยภาพที่เหนือกว่า ถ้าหากเรามีผู้นำประเทศที่จะแก้ไขปัญหานี้ ต้องมองเกมนี้ให้ทะลุ แล้วกำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีเสียใหม่ เราจึงจะสามารถเอาแผ่นดินไทยคืนมา และรักษาประโยชน์ทางทะเลของประเทศเอาไว้ได้ นั่นคือข้อพิพาทซึ่งรวมถึงเกมในการที่กระทรวงต่างประเทศไปต่อสู้ในเวทีศาลโลก เป็นเกมที่ชี้ให้เห็นแล้วว่า เป็นทฤษฎีการสมรู้ร่วมคิด จงใจทำให้ประเทศไทยสูญเสียดินแดน โดยอาศัยเวทีศาลโลกมาเป็นข้ออ้างเพื่อปิดปากประชาชนนั่นเอง นี่คือปัญหาที่มาถึงวันนี้พี่น้องคงมีความเข้าใจในปัญหานี้กระจ่างแจ้งชัดเจน
แต่อีกปัญหาหนึ่งที่กำลังเผชิญหน้าของเรา และอยู่ในระยะเวลาที่ใกล้เข้ามา เหลือเวลาเพียง 28-29 วัน จะมีการเลือกตั้ง ในวันที่ 3 ก.ค.2554 แต่จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ ในใจผมยังมีคำถามอยู่ตลอดเวลาว่า 29 วันนี้อะไรก็เกิดขึ้น เหมือนฟุตบอลต่อเวลา 3-4 นาทียังเตะเข้าประตูเลยครับ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมือง หรือสถานการณ์บ้านเมืองไทยนั้น ยังมีอยู่และดำรงอยู่ตลอดเวลา เป็นเรื่องที่ห้ามกะพริบตา มีโอกาสจะเกิดอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นโดยที่เราคาดไม่ถึง
ประเทศไทยมักมีเหตุการณ์คาดคิดไม่ถึงอยู่บ่อยๆ ทุกวันนี้ เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงมักจะเป็นเหตุการณ์ใหญ่ๆ อยู่เสมอ เช่น เมื่อไม่กี่วันมานี้เรือน้ำตาลล่มที่แม่น้ำเจ้าพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา พี่น้องใครจะนึก เพียงเหตุการณ์ชั่วพริบตา พี่น้องที่เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา กลายเป็นบุคคลล้มละลาย ไม่ต่างจากพี่น้องแถวราชประสงค์ เห็นผู้เลี้ยงปลาที่ตายหมดทุกกระชัง บางคนลงทุน 3-5 ล้าน หมดเหลือแต่หนี้ แล้วไม่รู้ว่าจะมีรัฐบาลมาช่วยเหลือหรือเปล่า และค่าเสียหาย ค่าชดเชยจะได้รับทำให้เขากลับมาตั้งตัวได้หรือไม่ ยังไม่ทราบเลยครับ รัฐบาลยังไม่มีใครสนใจจนกระทั่งขณะนี้ เพราะฉะนั้นเหตุการณ์แบบนี้นับวันจะมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ในประเทศไทย เพราะว่าเราเป็นประเทศที่ไม่มีความเป็นระบบระเบียบ ไม่มีการวางแผน ไม่มีความเคร่งครัดในกฎหมาย หลักนิติรัฐนิติธรรม หรือกฎระเบียบบ้านเมือง สถานการณ์จะนำไปสู่โกลาหนวุ่นวาย ความไร้ขื่อแปร ไร้ความสงบเป็นระเบียบเรียบร้อย และนำความเสียหายมาสู่ประชาชนผู้สุจริตอย่างคาดไม่ถึงได้ตลอดเวลา นี่เป็นเรื่องของบ้านเมืองเรา
ความจริงกลับจากกระบี่ตั้งใจจะเล่าเรื่องที่กระบี่ให้พี่น้องฟังก่อน ก่อนไปกระบี่ต้องยอมรับว่า กระแสรณรงค์โหวตโน เกิดขึ้นทั่วประเทศ และเป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชนมากที่สุด ไม่เฉพาะชาวไทย ชาวต่างประเทศก็สนใจ เพราะก่อนที่ผมจะเดินทางไปกระบี่ เมื่อวานผมไปทำธุระแถวสีลม ไปพบผู้หลักผู้ใหญ่ ทานกาแฟ คุยธุระการงานกัน ปรากฏว่า คนต่างประเทศเขาตื่นตะลึงกับการรณรงค์โฆษณาของพวกเรา ฝรั่ง 2 พ่อลูกเดินไป ลูกถามพ่อว่า พ่อครับประเทศไทยอนุญาตให้ลิงสมัครผู้แทนได้ด้วยหรอครับ เด็กก็ถามภาษาซื่อ แสดงว่าป้ายหาเสียงเต็มท้องถนน ไม่มีใครสนใจเท่ากับลิงกินกล้วย แล้วบอกอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา เด็กฝรั่งยังถามพ่อด้วยความซื่อว่า ประเทศไทยให้ลิงสมัครผู้แทนได้ด้วยหรอ กระแสโหวตโนเป็นที่สนใจของทุกวงการ ผมไปกระบี่เพิ่งทราบว่า พี่น้องคนกระบี่เขาบอกว่า เวลานี้มีการพนันขันต่อกัน เดิมทีมีคนพนันว่า โหวตโนจะ 1.5 ล้านขึ้นไป หรือ 1.5 ล้านลงมา ปรากฏว่า เวลานี้ราคาต่อรองไปที่ 3 ล้าน เล่นกันที่จะ 3 ล้านอัพ หรือจะ 3 ล้านลง มีคนรับแทง ขณะนี้ราคาต่อรองปรับราคาตลอดเวลา เดี๋ยวอาจจะเป็น 4 ล้านขึ้น หรือ 5 ล้านขึ้นกับ 5 ล้านลง เพราะขณะนี้ในวงการต่อรองฮือฮากันมาก ผมเพิ่งได้ยินได้ฟังว่า มีคนรับ วงการพนันขันต่อเริ่มมีเกิดขึ้นแล้วว่า โหวตโนจะ 3 ล้านขึ้นหรือลง ในเวลานี้ แต่เดี๋ยวอาจจะเป็น 5 ล้านขึ้นหรือลง ต้องปรบมือให้กับการเอาจริงเอาจังของพี่น้องประชาชน
พี่น้องที่กระบี่รณรงค์โหวตโน และจัดเสวนาที่โรงแรมเวียงทอง เขาเอาจริงเอาจังมาก ไม่น่าเชื่อว่า พี่น้องกระบี่เป็นแบบอย่างของประชาชนที่เอาการเอางาน เป็นพันธมิตรฯ ที่เข้มแข็งและรวมกลุ่มกันได้เข้มแข็ง จัดที่โรงแรม กว่าจะหาสถานที่ได้ เพราะมันดงประชาธิปัตย์ จะมีคนมาต่อรอง แต่พี่น้องพันธมิตรฯ ที่กระบี่ยืนยันจะจัด ถ้าไม่ให้จัดที่โรงแรม จะจัดอยู่หน้าโรงแรม ริมแม่น้ำ ตรงเทศบาลเลย ท้ายที่สุดโรงแรมก็ยอมจัดงาน เดิมทีคาดการณ์จองห้องไว้น่าจะมีคน ประมาณ 200-300 คน ปรากฏคนมาล้นห้องประชุม ประเมินแล้ว 400-500 คน เต็มห้องประชุม พี่น้องคงเห็นภาพ ยืนยันได้ว่าพี่น้องกระบี่เข้มแข็งมาก ปรากฏว่า นอกจากจัดเสวนา หลังจากผมพูด อ.พิภพ อ.สมเกียรติ พูดแล้ว เขายังเดินรณรงค์ในตลาด เพราะตอนเย็นมีถนนคนเดิน จบเสวนาประมาณ 5 โมงครึ่ง เขาก็เดินรณรงค์ในตลาด เป็นกิจกรรมของพี่น้องพันธมิตรฯ กระบี่ ต้องปรบมือให้กำลังใจพี่น้องพันธมิตรฯ กระบี่
นอกจากนี้ ในวงการการเมือง จ.กระบี่ รู้สึกว่า กระแสโหวตโนขยายตัวไปในหลายจังหวัด และตื่นตัวกันขึ้นมาในหลายจังหวัด และเป็นคำตอบเป็นทางเลือกให้พี่น้องชาวใต้ ที่อยากจะเตือน และอบรมสั่งสอนพรรคการเมือง นักการเมืองว่า โหวตโน คืออาวุธสำคัญของพวกเขา เขาค้นพบแล้ว นี่คือวิธีที่จะทำให้นักการเมืองภาคใต้มีสำนึกและหันมาปรับปรุงตัวเอง เพราะคนคิดว่า อย่างไรพรรคที่เคยชนะในภาคใต้คงจะชนะ คราวที่แล้วอาจจะชนะขาด ผู้สมัครอาจจะได้ 10,000 คะแนน ผู้ชนะอาจจะได้ 8-9 หมื่นคะแนน คราวนี้เขาเชื่อว่า พรรคที่ชนะอาจจะได้ 4-5 หมื่นคะแนน และคะแนนโหวตโนแต่ละจังหวัดไม่น้อยกว่า 2-3 หมื่น ไม่น้อยกว่า 10% แต่ละจังหวัด เขาคาดการณ์อย่างนั้น
เหตุที่คนใต้เริ่มสนใจจะรวมตัวไปลงไม่ประสงค์ลงคะแนนเลือกใคร เพราะเขาเห็นว่า ถ้าไม่ทำอย่างนี้ พรรคที่เคยได้ชัยชนะและครองเสียงมาโดยตลอดนั้น จะไม่สำนึก ไม่ปรับปรุงตัวเอง และจะไม่เห็นความสำคัญของเสียงพี่น้องประชาชนภาคใต้ นี่คือความคิดของคนเหล่านั้น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ดี จนกระทั่งเกิดกระแสการหาเสียงของผู้สมัครระดับเขตหวั่นไหวกับคะแนนนิยมของตัวเองมาก กลัวว่า คะแนนเลือกตั้ง ส.ส.เขต วันแมนวันโหวต คะแนนจะน้อย และทำให้รู้สึกเสียหน้า เสียศักดิ์ศรี หรือเป็นชัยชนะที่ไม่สมเกียรติ ดีไม่ดีอาจจะกลัวว่าตัวเองจะแพ้ เลยเดินสายหาเสียงกับพี่น้องในพื้นที่ว่า ในระบบเขตขอให้เลือกเขา ในฐานะรัก เคารพนับถือรู้จักกัน แต่ถ้าคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ พี่น้องจะโหวตโนก็ไม่ว่ากัน สรุปคือ เอาตัวรอดไว้ก่อน ส่วนพรรคคะแนนปาร์ตี้ลิสต์จะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ แล้วแต่ดุลพินิจพี่น้องไม่อยากขัดคอ แต่ขอคะแนนเขตให้ผมแล้วกัน กลายเป็นเอาตัวรอดแบบนี้ แสดงว่าเขามีความหวั่นไหวต่อกระแสรณรงค์ไม่ประสงค์ลงคะแนนมาก
แต่พรรคนี้แปลก คนที่เป็นผู้นำพรรคนี้ ไม่รู้สมองคิดอย่างไร ในทางการเมือง ถ้าประชาชนไม่เลือกเรา เรานักการเมือง เราเป็นพรรคการเมือง ไม่มีสิทธิ์ตำหนิ ต่อว่า ด่าว่าประชาชนที่ไม่ลงคะแนนให้เราเลย อันนี้เป็นเรื่องที่เขาสอนกันมาตลอด ใครจะเป็นนักการเมือง ใครจะเลือกเราหรือไม่เลือกเรา เมื่อเราหาเสียงเต็มที่แล้ว เราต้องเคารพดุลพินิจ และสิทธิพี่น้องประชาชน พี่น้องจะลงคะแนนให้ใครอย่างไร ในระบอบประชาธิปไตย หรือไม่ประสงค์ลงคะแนนอย่างไร ผมก็เคารพ ถ้าเป็นนักการเมืองที่ดี และเป็นคนในระบอบประชาธิปไตย ต้องพูดแบบนี้ ไม่ใช่ส่งลิ่วล้อออกมาด่าประชาชนว่า ถ้าโหวตโนมากๆ จะช่วยให้หมอนั่นชนะ ต้องเลือกฉัน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เลวพอๆ กับเขา ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่นักการเมืองในโลกนี้ไม่มีใครด่าประชาชน หรือตำหนิประชาชน เพราะฉะนั้นการที่นักวิชาการบางคนออกมาพูด หรือสื่อมวลชนบางคนออกมาพูดในลักษณะว่า ถ้าโหวตโนมากๆ จะเข้าทาง เป็นการช่วยพวกนั้นนะ นี่เป็นวิธีการพูดที่มีแต่ทำลายตัวเอง และสะท้อนความล้มเหลวในทางการเมืองของพรรคที่กลัวแพ้อย่างสิ้นเชิง แทนที่จะหาเสียงโดยอาศัยความรู้ ความสามารถ ผลงานที่ทำให้กับประชาชน กลับหาเสียงโดยสร้างภาพให้ประชาชนกลัวว่า ถ้าไม่เลือกผม ผมแพ้หมอนั่นชนะ นั่นเลวนะ แล้วตัวเองไม่เลวหรอครับก็พอๆ กับเขา ประชาชนเขาไม่เลือกทางนู้นก็ดีอยู่แล้ว เพราะเขาไม่เลือกตั้ง 2 ฝั่ง เขาไม่เลือกคุณ ไม่ลงคะแนนให้คุณ เขาก็ไม่ไปลงคะแนนให้พวกนู้น เพราะฉะนั้นมันแฟร์ คุณเก่งคุณก็สู้กับเขาตัวต่อตัว วัดกันไปว่าใครมีคุณงามความดี มีฝีมือ มีความรู้ความสามารถ มีศรัทธาที่ประชาชนจะเลือก ก็สู้กันแบบแฟร์ ยังดีกว่าเราไปเทคะแนนให้อีกฝ่าย ซึ่งเรารับไม่ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะรณรงค์ คุณควรให้นักวิชาการ หรือลิ่วล้อ ออกมาบอกว่า ฝั่งนั้นไม่ดีอย่าไปเลือก พี่น้องประชาชนที่จะเลือกฝั่งนู้นอย่าเลือก เลือกฝั่งนี้ คุณควรจะพูดอย่างนี้ ไม่ใช่มาด่าประชาชนที่โหวตโนไม่เลือกใครเลย นี่คุณผิดพลาด ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในทางการเมือง ยิ่งพูดยิ่งเข้าเนื้อตัวเอง ยิ่งทำลายตัวเอง ยิ่งขุดหลุมฝังศพตัวเองนั่นเอง
เพราะฉะนั้น ความล้มเหลว หรือความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มันขึ้นอยู่กับตัวคุณเป็นสำคัญ ไม่ใช่ใครเลย และสิทธิของประชาชนเขามีสิทธิ์จะเลือกหรือไม่เลือกใคร เป็นสิทธิ์ของเขา หรือไม่ลงคะแนนให้ใคร ก็เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมของเขา คุณไม่มีสิทธิ์มาต่อว่า วิพากษ์วิจารณ์ประชาชน นักการเมืองที่ดีจะต้องเคารพเสียงประชาชน
พี่น้องครับ การเลือกตั้งครั้งนี้ ผมถือโอกาสนี้พูดกับพี่น้องกระบี่ผ่านรายการนี้ เพราะไม่ได้พูดอยู่ประเด็นหนึ่งคือ ความล้มเหลวของพรรคที่เป็นรัฐบาล หรือพรรคประชาธิปัตย์ในคราวนี้ เป็นความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ อะไรครับ 1.พรรคเพื่อไทย หรือระบอบทักษิณ ประชาชนทั้งประเทศเห็นแล้วว่าพรรคนี้มีความน่ากลัวอย่างไร มีผลงานในการโกงการทุจริตมาอย่างไรสมัยเป็นพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน โดยเฉพาะทักษิณ เขาเห็นแล้ว เขารู้แล้ว และเป็นที่รวมของกลุ่มคนที่มีความคิดทางการเมืองที่เป็นอันตรายต่อสถาบันของชาติอย่างไร เป็นอันตรายต่อบ้านเมืองอย่างไร คนเห็นหมดแล้ว จนกระทั่งเห็นการเผาบ้านเผาเมือง การก่อจลาจล คนเห็นซึ่งความล้มเหลวของความน่ากลัวของปีกฝ่ายหนึ่งหมดแล้ว แต่ทำไมคนไม่นิยมคุณเพิ่มขึ้น มันแปลกไหมครับ ในขณะที่อีกฝ่ายทำบ้านเมือง ปู้ยี้ปู้ยำกับประเทศชาติบ้านเมืองจนคนเห็นหมดแล้ว แทนที่คะแนนนิยมคุณจะสูงขึ้น ทำไมคะแนนนิยมคุณจึงดิ่งลง แสดงว่าคุณก็ไม่ดีกว่าเขาถึงคะแนนตกต่ำ ยิ่งฟังตัวเลขของสภาหอการค้าว่ายุคนี้การโกงการทุจริตมากกว่า 30-50% ยิ่งเป็นสิ่งตอกย้ำว่าคุณต้องทำอะไรผิดพลาดแน่
เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากได้คะแนน คุณต้องฟังว่าคุณล้มเหลว ผิดพลาดตรงไหน ผมชี้ให้ครับ ความผิดพลาด และความล้มเหลวของพรรคการเมืองที่บริหารชาติบ้านเมืองอยู่ในขณะนี้แล้วไม่สามารถสร้างคะแนนนิยมขึ้นมา เปิดทางให้ทักษิณ และระบอบทักษิณฟื้นอำนาจขึ้นมาได้นั้น ผมสรุปให้ว่ามีประเด็นสำคัญอยู่ 3 ประเด็นใหญ่ๆ
ประเด็นที่ 1. ความล้มเหลวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ล้มเหลวอย่างร้ายแรง ล้มเหลวอย่างไม่น่าให้อภัยในเรื่องใหญ่ๆ คือ 1 ไม่จัดการกับทักษิณ และระบอบทักษิณโดยเด็ดขาดเมื่อตัวเองขึ้นมามีอำนาจ เมื่อตัวเองขึ้นมามีอำนาจ ศาลตัดสินยึดทรัพย์ ทักษิณหนีไม่มีแผ่นดินอยู่ กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาป่วนบ้านป่วนเมือง เผาบ้านเผาเมือง ประเทศไทย ประชาชนไทยส่วนใหญ่ สนับสนุนให้รัฐบาลจัดการโดยเด็ดขาดกับคนเผาบ้านเผาเมือง และระบอบทักษิณ ประชาชนทั้งประเทศเอาใจช่วยคุณ ให้คุณจัดการกับคนไม่เคารพขื่อแปรบ้านเมือง ทำลายชาติบ้านเมือง เผาบ้านเผาเมือง คุณไม่แตะต้อง และไม่จัดการเขาเลยแม้แต่น้อย นี่คือความผิดพลาด ล้มเหลวอย่างร้ายแรงของคุณเอง ทั้งๆ ที่อำนาจรัฐอยู่ในมือ ตำรวจ ทหาร กองทัพอยู่ในมือ ประชาชนสนับสนุนเต็มที่ คุณไม่ทำอะไรเลย มันจึงเป็นความผิดพลาดครั้งสำคัญของคุณ ที่คุณไม่จัดการกับทักษิณและระบอบทักษิณโดยเด็ดขาด จนกระทั่งวันนี้ การถอดยศ การขอคืนเครื่องราชย์ คุณก็ไม่ทำ การเอาตัวเขามาดำเนินคดีตามกฎหมาย คุณก็ไม่ทำ แม้กระทั่งคนที่รับใช้ทักษิณมาปราบปรามเข่นฆ่าประชาชน คุณยังเอาคนพวกนี้กลับเข้ารับราชการ แถมคนที่เผาบ้านเผาเมืองคุณยังช่วยประกัน นี่คือความผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่สุดที่ไม่น่าให้อภัย ทำให้ประชาชนหันหลังจากคุณ คุณจำไว้นี่ประเด็นใหญ่
คุณทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ไว้ใจ และเขาต้องพึ่งตัวเอง เพราะเขาพึ่งรัฐบาลไม่ได้ ขณะนี้ภัยแดงและภัยจากระบอบทักษิณเป็นเงาทมึนขึ้นมาแล้ว เพราะเขากำลังจะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง เป็นเพราะคุณปล่อยให้เขากลับขึ้นมาเข้มแข็งเอง คุณไม่ทำแล้วที่น่าระอายที่สุดคือ คุณกลับมาหากินกับการปลุกผีทักษิณ สร้างภาพทักษิณ เขียนเสือให้วัวกลัว ว่าทักษิณจะกลับมา พวกนี้จะกลับมา พวกนั้นจะกลับมา อ้าวจะกลับมา กลับมาเพราะความล้มเหลวของคุณไม่ใช่หรอ เขาจะฟื้นขึ้นมาได้เพราะคุณไม่ใช่หรอ กลับมาแล้วคุณมีปัญญาสู้กับเขาหรอ สุดท้ายพี่น้องประชาชนต่างหากที่จะเป็นคนสู้กับระบอบนี้
เหมือนอย่างที่ อ.พิชาย พูดเมื่อหัวค่ำ แทนที่ตัวเองจะหาเสียงด้วยการทำงานให้หนัก ทำงานให้เห็นผลงาน ทำงานให้ประชาชนเห็นฝีมือ ทำงานให้ประชาชนชื่นชอบ พอใจ กลับหาเสียงด้วยวิธีการสร้างวาทกรรม และดีแต่พูด เลือกคนเลวน้อยกว่าบ้าง ถ้าไม่เลือกเราเขามาแน่ สรุปแล้วพรรคการเมืองที่ดีต้องหาเสียงด้วยการทำงานให้ประเทศชาติและประชาชนพอใจ ไม่ใช่หาเสียงโดยการสร้างภาพ สร้างสถานการณ์และปลุกผีระบอบทักษิณ เรียกว่า ข่มขืนใจประชาชนให้ไปเลือกตัวเอง นี่ไม่มีทางแล้ว เพราะวิธีนี้คุณเคยหากินมาแล้ว มันมุกเก่าๆ มุกเดิมๆ วันนี้เอามาหากินจนประชาชนเบื่อแล้ว รู้ไต๋แล้ว จับทางได้แล้ว คิดอะไรที่ใหม่กว่านี้ และทำอะไรที่ดีกว่านี้เสียดีกว่า นี่คือประเด็นที่ 1
ประเด็นที่ 2 ที่ทำให้ฟื้นระบอบทักษิณ และที่คุณล้มเหลวคือ เขาเป็นคนทำลายกระบวนการประชาชน กระบวนการประชาชนพันธมิตรฯ ถูกทำลายด้วยน้ำมือของเขา รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ขบวนการนี้เริ่มทำลายมาตั้งแต่หลังยุติการชุมนุม 193 วัน เขาขึ้นมาเป็นรัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรี มีการชุมนุมคนเสื้อแดง ถือโอกาสนั้นสังหารสนธิ ลิ้มทองกุล เพราะต้องการตัดหัวทำลายขบวนการประชาชน กรรมมันถึงตามสนอง แล้วคุณสนธิพูดหลายครั้งแล้วว่า คนที่ยิงมันอยู่ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนที่บงการ หลักฐานเขามี เพราะฉะนั้นเมื่อคุณเป็นคนทำลายกระบวนการประชาชน ด้วยวิธีทำลายแกนนำทุกวิถีทาง แม้กระทั่งสนับสนุน ปกป้องคนที่ลอบสังหารสนธิ หรือบงการสนธิ มิหนำซ้ำ คุณยังกล่าวหาว่า กลุ่มคนเสื้อเหลืองเป็นภัยต่อบ้านเมือง ก่อความวุ่นวาย ก่อความไม่สงบต่อบ้านเมือง และเป็นก้างขวางคอคุณในการปกครองบ้านเมือง ผมจะบอกให้ว่า ความคิดนี้ ผมกล้าพูดได้เลยว่า นายสุเทพคิดอย่างนี้ พล.อ.ประวิตร คิดอย่างนี้ และผู้บัญชาการเหล่าทัพบางคน ก็คิดอย่างนี้ ที่ไปสุมหัวกันอยู่ในพรรคนี้ ประชาชนถึงไม่เอาพวกคุณ แล้วผู้บัญชาการเหล่าทัพบางคน คุยกับคนไทยในต่างประเทศว่า เขาห่วงใจประเทศชาติบ้านเมือง เขาโทรไปถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเขาเป็นคนมีชาติตระกูล โทรไปหา พูดในทำนองนี้ละครับว่า ทั้งสนธิ ทั้งเสื้อเหลือง เป็นปัญหากับชาติบ้านเมือง มันคิดอย่างนี้ แล้วคนพวกนี้ไปเสวยสุขร่วมกันในรัฐบาลขณะนี้ วันนี้กรรมตามสนอง เพราะเมื่อคุณทำลายประชาชนแล้ว ก็ไม่มีประชาชนจะเป็นมิตรร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับคุณต่อไป นี่คือความพ่ายแพ้ของคุณ นักการเมืองที่ทำลายประชาชนจะไม่มีวันประสบความสำเร็จในทางการเมืองอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ เมื่อคุณทำลายประชาชนแล้ว ผมจึงสรุปให้ได้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นบทเรียนสั่งสอนคนเนรคุณ 2 คน พวกนึ่งคือ เขาหาว่าไอ้หมอนี่เนรคุณคนเสื้อแดง วันนี้กำลังจะถูกสั่งสอน เพราะคนเสื้อแดงก็คิดว่า ไอ้หมอนี่เนรคุณเขา เขากำลังจะสั่งสอนมันในการเลือกตั้งคราวนี้ แน่นอน มวลชนเสื้อแดงมีวิธีคิด มีวิธีเข้าใจปัญหาการเมืองคนละอย่างกับพวกเรา แต่เขาถือว่า เหมือนแก๊งโจร แก๊งอาชญากรรม ถ้ามีคนทรยศต่อแก๊งแล้วหนีออกไป จะมีบทลงโทษโดยแก๊ง ซึ่งต่างกัน แต่อย่างเรา เราเป็นประชาชนผู้สุจริต ต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ชาติบ้านเมือง ยอมตาย ยอมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ปกป้องแผ่นดิน และเราคิดว่ามีนักการเมือง พรรคการเมืองคนหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นมิตรที่ดีกับเรา น่าจะเป็นพันธมิตรไว้วางใจได้ของเรา น่าจะเป็นพรรคที่เราจะให้โอกาสสนับสนุน แต่เมื่อมีอำนาจแล้ว กลายเป็นทรยศเนรคุณต่อประชาชน ทรยศเนรคุณคนละมุม นั่นเป็นเรื่องของพวกแก๊ง แต่นี่เป็นเรื่องพลังประชาชนที่ถูกนักการเมืองหลอกใช้เป็นเครื่องมือ หรือเอาประโยชน์จากการต่อสู้ของประชาชนแล้วถีบหัวส่ง วันนี้คนที่ลืมบุญคุณประชาชนทั้ง 2 คน จะได้รับการสั่งสอนจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้ามีการเลือกตั้ง
ซึ่งการถูกสั่งสอนเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ไม่ใช่ประชาชนมีความแค้นเป็นส่วนตัว แต่ประชาชนมีสติปัญญาและมีสมองคิดได้ว่า วิธีเดียวที่จะสั่งสอนนักการเมืองที่ไม่รักษาสัจจะคือ ไม่เลือกนักการเมืองคนนั้น พรรคนั้น นี่คือสิทธิ์ของเขา คุณไม่มีสิทธิ์มาต่อว่าอะไรเขาได้เลย เพราะเขาใช้สิทธิ์สั่งสอนคุณโดยชอบด้วยกฎหมาย
ผมพูดไป 2 ประเด็นแล้ว ความล้มเหลวของเขา 1.มาจากไม่กำจัดคนที่เป็นปัญหาของแผ่นดิน อย่างสิ้นซาก ปล่อยให้เขาลอยนวล สร้างสมกำลัง เขาก็ฟื้นระบอบกลับคืน 2. ประชาชนที่เป็นมิตรตัวเอง วันนี้คุณกลับทำลาย แท้ที่จะเป็นพรรคการเมืองที่มีมวลชนสนับสนุนกว้างใหญ่ไพศาล กลับกลายเป็นพรรคหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีประชาชนเอาด้วย ในขณะที่อีกพรรคหนึ่งเขามีมวลชน จริงอยู่ แม้มวลชนเขาจะเป็นมวลชนที่คนละคุณภาพกับเรา แต่เขายังมีกำลังมวลชนสนับสนุนดีกว่าคุณที่ไม่มีมวลชนสนับสนุนเลย เพราะมิตรที่ดีคุณก็ทำลายเสียแล้ว นี่ไงครับ ผมถึงบอกว่า การรณรงค์โหวตโนของพี่น้องภาคใต้ และพี่น้องกรุงเทพฯ หรือทั่วประเทศ จะทำให้พรรคการเมืองหันมาดูเงาหัวตัวเองแล้วสำนึกในสิ่งที่ตัวเองกระทำกับประเทศชาติ ประชาชน แล้วหันไปปรับปรุงตัวเอง ถ้าไม่ปรับปรุงตัวเอง คุณจะหมดไปจากประเทศไทย
ประการที่ 3 ทำให้เขาล้มเหลว ในขณะที่อีกฝ่าย คนเห็นแล้วรับไม่ได้ เลือกไม่ได้ อยากจะเลือกคุณหวังเป็นอนาคต เป็นทางเลือก นอกจากไม่ทำใน 2 เรื่องใหญ่แล้ว คุณยังบริหารบ้านเมืองล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ปกป้องแผ่นดินเอกราชของตัวเอง ไม่ปกป้องไม่ว่ายังสมรู้ร่วมคิด สมยอม เล่นเกมตามเขา เข้าทางประเทศมหาอำนาจ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก็ล้มเหลวเรื่องข้าวยากหมากแพง การทุจริตคอร์รัปชั่นก็หนักกว่าเขา การทำงานก็ทำงานไม่เป็น นโยบายอะไรใหม่ๆ ก็ไม่มี ไปลอกเลียนแบบและแจกอย่างเดียว เอาแบบอย่างประชานิยมจากเขามา ไม่มีอะไรใหม่เลย นอกจากนั้น ประชาชนต่างจังหวัด อีสานห่างไกล ไม่เคยได้รับสาระความรู้จากคุณเลยว่า พวกนั้นเป็นภัยต่อชาติบ้านเมืองอย่างไร ในช่วงที่เขาบริหารบ้านเมืองทำความเสียหายให้ชาติบ้านเมืองอย่างไร อย่าพี่น้องอย่าหลงเชื่อ สื่อของรัฐที่อยู่ในกำกับดูแลของคุณ ไม่เคยให้ปัญญากับประชาชนเลยแม้แต่น้อย ทอดทิ้งประชาชน หลงระเริงในอำนาจ
เมื่อคุณไม่ทำงานเหล่านี้ ทำงานล้มเหลว ทำงานไม่เป็น แทนที่คนเขาผิดหวังจากพวกนู้นจะหันมาพึ่งคุณ เขาก็เลยปัดก้นหนี นี่ก็ อัปรีย์ไปจัญไรมา ถึงเป็นด้วยเหตุประการฉะนี้ ทั้งหมดนี้คุณอย่าโทษประชาชน ผมรู้ว่าวันนี้คนในพรรคคุณรู้ดีว่า ปัญหาเกิดจากความดื้อด้านของผู้นำ หัวหน้าพรรคคนเดียวที่กำลังจะฉุดพรรคลงนรก แล้ววันนี้คนภาคใต้ที่จะลงคะแนนโหวตโน เพราะเขาต้องการสั่งสอน และต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ผมบอกว่า วิธีนี้จะช่วยพรรคที่คุณรักได้ดีที่สุด ถ้าคุณรักเขาจริง คุณต้องการให้เขาเป็นพรรคที่ดี คุณรณรงค์โหวตโนแล้วลงคะแนนในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน นั่นจะเป็นการรักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี ให้ได้สำนึก และกลับมาปรับปรุงตัวเอง นอกจากนี้ ถ้าผลการเลือกตั้งออกมา ปรากฏว่าแพ้ เขายอมรับแล้วนี่ว่า ถ้าเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้ง ได้น้อยกว่าเดิม ทำพรรคเสียหาย เขาจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ผมเชื่อแน่ว่า เขาได้ลาออกแน่ครับ แล้วถ้าคุณอยากปรับปรุง อยากเห็นพรรคดีขึ้น ต้องเปลี่ยนผู้นำ ต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรค แล้วอย่าทอดทิ้งประชาชน อย่างที่หัวหน้าพรรคคนนี้ทำเท่านั้นเอง ประชาชนเขาก็ให้โอกาสคุณ แต่คุณต้องอย่าแหลกับประชาชน ต้องจริงใจกับประชาชน พิสูจน์ให้เขาเห็น คนพวกนั้นที่ได้ใจคนอีสาน ได้ใจพี่น้องประชาชน ขนาดคนของมันเป็นโจรแท้ๆ เผาบ้านเผาเมืองยังไม่ทิ้ง ยังใส่ชื่อเป็นปาร์ตี้ลิสต์ เป็น ส.ส.เลย ตรงนั้นทำให้ได้ใจชาวบ้าน แต่เป็นการได้ใจแบบผิดๆ ส่งเสริมคนกระทำความผิด พรรคนั้นเราก็ไม่ต้องการ เพราะส่งเสริมคนเก่งคนกล้าไปในทางที่ผิด ไม่ส่งเสริมคนเก่งคนกล้าในทางที่ดีงาม ถูกต้อง แม้จะไม่ทิ้งกัน เอาไว้เป็นพวก เราก็ไม่ส่งเสริม พวกมากลากไปไม่ว่าพวกตัวเองจะเผาบ้านเผาเมือง ทำผิดต่อชาติบ้านเมืองอย่างไร นี่คืออันตรายอีกแบบหนึ่ง เพราะฉะนั้นทั้ง 2 ฝ่ายเลยเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง เราถึงต้องโหวตโนไงครับพี่น้อง นี่คือปัญหา
ขณะนี้คือ ลิ่วล้อหรือคนอีกฝ่าย แทนที่จะหาเสียงโดยหันมาปรับปรุงตัวเองในสิ่งที่ถูกต้อง กลับไม่สนใจ เมื่อไม่สนใจ ไปทำในวิธีการอื่น ดีแต่สร้างภาพขี่จักรยาน เอาสายสิญจน์พันหัว นี่ก็จบแล้วครับ จำได้ไหมคนที่เข้าไปคลุมโปง เข้าไปในวัดศรีนวล ที่ขอนแก่น สุวิทย์ คุณกิตติ พาไป ต่อชะตากรรมแล้วเป็นอย่างไร ปรากฏว่า เท่ากับเป็นการไปประกาศชะตากรรมขาด ประกาศให้คนรู้ว่า ชะตากรรมกูขาดแล้ว วิธีการแบบนี้เลิก คนที่จะสร้างภาพแบบนี้ได้ต้องเป็นคนที่ประชาชนรัก ประชาชนศรัทธา แต่ถ้าประชาชนเห็นแล้วจะอ้วก ยิ่งทำคนก็ยิ่งจะอ้วก เพราะคนเห็นว่าไม่มีความจริงใจ ยิ่งคุณแสดงเท่าไหร่ เลอะเทอะ ขี่จักรยาน ใส่สายสิญจน์ ชงกาแฟ ยิ่งแสดงคนยิ่งจะอ้วกๆๆ เพราะฉะนั้นนักการเมืองจะสร้างภาพรักเด็ก ห่วงใยชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน ไปนอนวัด ต้องเป็นนักการเมืองที่ดี ประชาชนรัก มีผลงานมากจนประชาชนศรัทธา อย่างนี้สร้างภาพก็ไม่น่าเกลียด เหมือนที่เราบอกว่า คนน่ารัก คนทำคุณงามความดี คนสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติบ้านเมือง จะแสดงอะไรก็ดูดี ดูน่ารัก แต่คนที่ไม่มีผลงาน ยิ่งแสดงประชาชนยิ่งเอียน
อีกฝ่ายเราไม่เอาอยู่แล้ว เพราะเวลานี้ระบอบทักษิณกำลังตั้งเค้าทะมึนมาแล้ว เพราะถ้าการเลือกตั้งเป็นไปอย่างนี้ โอกาสที่เขาจะชนะมีสูง เพราะเขามีเครื่องไม้เครื่องมือทุกอย่าง การเลือกตั้งอีกฝ่ายหนึ่งทำทุกอย่าง สร้างภาพ หาคะแนนนิยม ขนนักวิชาการออกมาเชียร์ ทำโพลเชียร์ ทำสื่อโฆษณาเชียร์ สร้างภาพคอลัมนิสต์เขียนข่าวทุกวัน รายการทีวีช่วยออกข่าว สุดท้ายคือ โกงก็เอาครับพรรคแบบนี้ เวลาชนะถล่มทลาย คุณจะบอกเขาโกงก็ไม่ได้ เพราะเขาสร้างกระแสจนเชื่อว่า เขาต้องชนะ จริงๆ แล้วทุกพรรคในประเทศไทยโกงและซื้อเสียงทุกพรรค เพียงแต่ว่า ใครจะโกงและซื้อเสียงเก่งกว่ากันเท่านั้นเอง อันนี้แหละจึงเป็นที่มาที่คุณสนธิพูดเมื่อวานนี้ว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอาเทปที่ ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ ให้สัมภาษณ์ และท่านเห็นด้วยกับการโหวตโน แต่ท่านมีแนวคิดที่จะปฏิรูปประเทศชาติบ้านเมืองอย่างไร เพราะท่านมองแล้วประเทศไทยเป็นประเทศไม่ใช่ประชาธิปไตย ถูกปกครองโดยแก๊งการเมือง แก๊งการเมืองใหญ่ที่สุด แก๊งการเมืองคือ พรรคการเมือง พรรคการเมืองคนที่ใหญ่ที่สุดคือ นายทุนเจ้าของพรรค พวก ส.ส.คือลูกจ้าง และรับเงินแก๊งนายทุนเจ้าของพรรคไปหาเสียงเลือกตั้ง เป็นผู้แทนในสภามีหน้าที่ยกมือตามหัวหน้าแก๊ง และนายทุนพรรคการเมืองชี้นิ้วสั่งการเท่านั้น ประชาธิปไตยประเทศไทยมีแค่นี้ แล้วท่านแปลกใจว่า ระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย พรรคการเมืองมีอำนาจมากที่สุด เพราะคุมเสียง ส.ส. พอเข้าสภา เลือกนายกฯ จะชี้นิ้วสั่งการเอาใครเป็นนายกฯ ก็ไปรวมหัวกันเอาคนนี้คนนั้น จะตั้งใครดำรงตำแหน่งสำคัญ โยกย้ายข้าราชการระดับสูง ซูเอี๋ยแบ่งกันในคณะรัฐมนตรี ที่มาจากพรรคการเมืองทั้งนั้น กลายเป็นว่า ประเทศนี้สถาบันที่ใหญ่ที่สุด สูงสุด มีอำนาจมากสุด คือ บรรดาแก๊งการเมืองเหล่านี้ ไม่ใช่ประชาชน ประชาชนเป็นเพียงตัวประกอบการแสดงยอดเยี่ยม แต่ไม่ได้เงิน ไม่ได้รางวัลตุ๊กตาทอง มีหน้าที่แสดงตามที่เขาบอก เพราะฉะนั้นที่ กกต.รณรงค์ให้ประชาชนเลือกคนดี พี่น้องบอก วันนี้ผมอ่านในเว็บไซต์ท่านมีชัย ฤชุพันธุ์ มีคนถามท่านว่า ให้เลือกคนดี เวลาดูคนดีจะดูอย่างไร ท่านตอบว่า ดูอย่างไรเพราะคนดีไม่มีนิยาม เพราะนิยามของคนดีของคนไทยมันแล้วแต่คนไทยชอบใคร คุณจะดูว่าคนไทยเลือกคนดีอย่างไรให้ดูจากผลการเลือกตั้ง เช่น ไอ้หมอนี่มาช่วยครอบครัวผมอยู่เรื่อย ก็เลือกเพราะมาช่วย ส่วนเข้าสภาแล้วจะหลับอยู่ที่ไหน ยกมือเอาเงินใคร ไม่สนใจ สนใจว่ามาฉีดยุง ช่วยดูแลหมู่บ้าน มางานวัด งานบวชไหม นี่คนดีในสายตาชาวบ้าน อีกคนอาจจะเป็นนักสู้ นักบู๊ ปราศรัยเก่ง นักต่อสู้ นักเดินขบวน ชาวบ้านก็บอกเป็นคนดีในสายตาของเขา เขาก็บอกคนดี อีกคนอาจจะเป็นพวกโกง โกงแล้วแต่เอาเงินมาแบ่งใช้ เขาก็บอกเป็นคนดี เพราะฉะนั้น 65 ล้านคน คงมี 65 ล้านคนดีในสายตาของเขา ถามหน่อยซิ กกต.ช่วยนิยามคำว่า คนดี ที่เอามาให้ประชาชนเลือกไหม ในเมื่อในกระลามังที่ให้ประชาชนหยิบมีแต่คนเลว แล้วจะมีคนดีให้เลือกได้อย่างไร เพราะฉะนั้นที่รณรงค์ให้เลือกคนดีมันไม่มีหรอกคนดีในอุดมคติ คนดีที่ประชาชนต้องการ คนที่มีความซื่อสัตย์ เสียสละ มีความรู้ความสามารถ คนที่ไม่โกงไม่กิน คนดีในอุดมคติที่ประชาชนต้องการอย่างนี้ไม่มีให้ประชาชนเลือก มีแต่โจรห้าร้อยให้ประชาชนเลือก แล้วจะเลือกได้คนดีอย่างไร
เพราะฉะนั้นระบอบประชาธิปไตยประเทศไทย และการเมืองการเลือกตั้ง จึงไม่ใช่ระบอบที่จะทำให้ได้คนดีมาปกครองบ้านเมือง ทางออกของประเทศในเวลานี้ การโหวตโน เป็นการจุดประกายที่จะนำไปสู่การปฏิรูป ปฏิวัติระบอบการเมืองของประเทศไทยเสียใหม่ กราบเรียนพี่น้องที่รับฟังรายการนี้ ท่านจะเป็นพันธมิตรฯ ไม่เป็นพันธมิตรฯ ไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญอยู่ว่า ถ้าประเทศไทยไม่แก้การเมืองตรงนี้ให้หลุดออกไปจากวงจรอุบาทว์ ประเทศชาติเราอีก 500 ชาติก็ไม่มีวันเจริญ ท่านต้องร่วมมือกับพวกเราในการรณรงค์ ปฏิรูป ปฏิวัติบ้านเมืองให้ใส่สะอาด ให้การเมืองเปลี่ยนแปลง พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินเสียใหม่ อย่าจมอยู่กับระบอบการเมืองการเลือกตั้งน้ำเน่าต่อไป เพราะเป็นระบอบแก๊งการเมืองครองแผ่นดิน
นี่คือปัญหาที่อยากพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้อง และการรณรงค์โหวตโนวันนี้กำลังขยายตัวไปทั่วประเทศ ภาคใต้ จากนี้ พี่พิภพ อ.สมเกียรติ จะไปตรัง ไปหาดใหญ่ ไปสงขลา หลายจังหวัดในภาคใต้ พี่น้องสนใจและเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ ภาคอื่นๆ ภาคเหนือ ภาคกลาง รณรงค์ในขอบเขตทั่วประเทศ วันนี้ประชาชนตื่นตัวแล้ว และประชาชนนี่แหละคือหลักสำคัญของบ้านเมือง ต้องปรบมือให้กับประชาชนไทยทุกคนที่จะร่วมกันปฏิรูปเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองด้วยการไม่ลงคะแนนให้พรรคใดเลย เพื่อตบหน้านักการเมือง และเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงระบอบการเมืองของประเทศไทยเสียที ถ้าเรายังจมปรักอยู่กับระบอบนี้ บ้านเมืองคงจะเดินหน้าไปไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง วันนี้เอาแค่นี้แล้วกัน การเลือกตั้งวันนี้แม้จะได้ใครมาระหว่าง ยิ่งลักษณ์ กับอภิสิทธิ์ ก็ไม่มีทางจะทำให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ ผมบอกแล้วว่า ความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ ในช่วงจากนี้ไป 20 กว่าวัน ต้องอย่ากระพริบตา มันอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันได้ ซึ่งผมวิเคราะห์ไปตามความเข้าใจของผม และบอกกับพี่น้องที่กระบี่ไปแล้ว บอกพี่น้องที่นี่ก็ได้ว่า ใครจะไปรู้ล่ะว่า จากนี้ไป 20 กว่าวัน อาจจะเกิดการสู้รบกันครั้งใหญ่ระหว่างไทย-กัมพูชา ก็ได้ใครจะไปรู้ หรือพวกเลือกตั้งอาจจะฆ่ากันตาย นองเลือดก่อนการเลือกตั้งก็ได้ ใครจะไปรู้ เพราะฉะนั้นเหตุการณ์เหล่านี้มีโอกาสจะทำให้เกิดเหตุการณ์อื่นๆ ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้สำหรับพวกเราก็คือ ศรัทธาต่อความเชื่อมันในสิ่งที่ถูกต้องที่เรากำลังทำอยู่ใช่ไหม เราต้องศรัทธา เชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำอยู่ ว่าเราทำในสิ่งที่ดีงามและถูกต้องต่อชาติบ้านเมือง ไม่ว่าใครจะพูดค่อนแคะอย่างไร ศรัทธาของเราต้องไม่หวั่นไหว ไม่ท้อแท้ และต้องต่อสู้เพื่อให้ได้ซึ่งชัยชนะของประชาชน ไม่ได้ร้องเพลงหลายวันแล้ว วันนี้เอาซะเลยครับพี่น้อง