“ครูแก้ว” ผู้สมัคร ภท.โต้โพล ม.นครพนม ขาดความเชื่อถืออิงเพื่อไทย

นครพนม - อดีต รมช.เกษตรฯ ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย จวกโพล ม.นครพนม สร้างกระแสหนุนให้เพื่อไทย ขาดความเชื่อถือ มีความสัมพันธ์ทางการเมือง เมินเดินหน้าปูพรมหาเสียงเชิงรุกชูนโยบายช่วยเกษตรกร ด้านอธิการบดี ม.นครพนม ยืนยัน เชื่อถือได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครพนม บรรยากาศการหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.จำนวน 4 เขตเลือกตั้ง เริ่มเข้มข้นมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง 2 พรรคใหญ่ คือ พรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทย ถือเป็นศึกศักดิ์ศรีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากพื้นที่นครพนม เป็นฐานที่มั่นเดิมของ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นพื้นที่คนเสื้อแดงมาก่อน ที่มีคะแนนนิยมสูง จนไม่มีพรรคการเมืองใดจะเบียดชิงพื้นที่ได้

จนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อ นายศุภชัย โพธิ์สุ (ครูแก้ว) อดีต ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน แชมป์ตลอดกาล ที่เคยทำงานให้พรรคไทยรักไทย มาจนถึงพลังประชาชน ถูกยุบ ตัดสินใจย้ายพรรคไปซบ พรรคภูมิใจไทย ก่อนนั่งตำแน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำให้การเมืองแบ่งออกเป็น 2 ขั้วทันที

โดยเฉพาะการเลือกตั้ง ส.ส.2554 ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งเป็นการป้องกันแชมป์ ของ นายศุภชัย โพธิ์สุ (ครูแก้ว) ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย เขตเลือกตั้งที่ 1 แม่ทัพใหญ่ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย นครพนม มีดีกรีเป็นถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ถือเป็นศึกศักดิ์ศรีวัดกระแส ระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับ พรรคเพื่อไทย ที่ส่ง นายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 พรรคเพื่อไทยหน้าใหม่ เคยมีตำแหน่งเป็นอดีตกำนัน และเป็นบุตรชาย ของ กำนันชื่อดัง นายอิธิพล เรืองวรบูรณ์ อดีต สว.สรรหา จ. นครพนม ที่สำคัญยังเป็นคนสนิทของ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี อีกด้วย

ขณะเดียวกัน ท่ามกลางกระแสการแข่งขันระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย มหาวิทยาลัยนครพนม ได้ออกมาเปิดเผยถึงการทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจังหวัดนครพนม (เอ็นพียู โพล) ต่อการลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. 2554 เป็นครั้งที่ 2 ที่มีการเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 5-10 มิถุนายน 2554 จำนวน 4 เขตเลือกตั้ง เขตละ 150 คน

ผลโพลระบุว่า พรรคที่มีคะแนนนิยมเป็นอันดับ 1 ของนครพนม คือพรรคเพื่อไทย อันดับ 2 คือ พรรคภูมิใจไทย อันดับ 3 คือ พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 1 พบว่าจากการทำโพล ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีคะแนนนิยมมากกว่า ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ถึงเท่าตัว

ผลโพลที่ออกมา ทำให้ นายศุภชัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาตอบโต้ว่าการทำโพลสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวนั้น ขาดความเชื่อถือ เนื่องจากในการทำโพล ใช้คนจำนวนแค่เขตเลือกตั้งละ 150 คน ไม่สามารถจะเป็นตัวชี้วัดของกระแสความนิยมของพรรคการเมืองได้ ซึ่งการทำแบบนี้เชื่อว่าเป็นการสร้างกระแสของพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมหาวิทยาลัยนครพนมมีความสัมพันธ์กับกลุ่มการเมืองเพื่อไทยมานาน

อย่างไรก็ตาม ตนไม่สนใจเนื่องจากเชื่อว่า คนนครพนม มีความคิด และเห็นตลอดเวลาสำหรับผลงานพรรคภูมิใจไทยที่ผ่านมา ตลอดช่วงการเป็นรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นโครงการส่งเสริมปลูกยางพารา 8 แสนไร่ การยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวมาเป็นประกันรายได้ การผลักดันโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขง รวมถึงระบบชลประทาน และโครงการอื่นๆ อีกมากมาย

ล้วนเป็นนโยบายที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างจริงจัง ทำให้ 3 ปี ที่ผ่านมา นครพนมมีความเจริญแบบก้าวกระโดด มีงบลงมาพัฒนาเกือบ 1,000 ล้าน จุดนี้ทำให้มีความมั่นใจว่า ภูมิใจไทย ไม่แพ้แน่นอน และจะต้องชนะยกทีม

“การทำโพลลักษณะนี้ ถือว่าขาดความเชื่อถือ ใช้กลุ่มตัวอย่างแค่เขตละ 150 คน ไม่สามารถจะนำมาเป็นตัวชี้วัดได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามมาถึงวันนี้อยากให้คนนครพนม ตื่นจากความฝัน มาดูความจริงสิ่งที่ภูมิใจไทย ได้พัฒนานครพนม อยากให้ประชาชนมีสติในการเลือกตั้ง ดูนโยบายอย่าดูกระแส” นายศุภชัย กล่าวย้ำ