เชียงราย - เจ้าหน้าที่ตามรวบหนุ่มใหญ่ อ้างเป็นตำรวจ เครือข่ายแก๊ง “เจ๊ณี” หลอกแรงงานไปต่างประเทศ
วันนี้ (14 มิ.ย.) นายประพันธ์ วิศิษฏจินดา หัวหน้าคณะทำงาน ศูนย์ปราบปราม จับกุม และดําเนินคดีแรงงานต่างด้าวลักลอบทํางานและกระบวนการค้ามนุษย์ (ศป.รต.), นายสุรศักดิ์ ไกยสิทธิ์ กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และทหารจำนวนหนึ่งได้ตรวจสอบคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงแรงงานว่า จะพาไปทำงานต่างประเทศ
โดยได้ติดตามตามหมายจับของศาล จ.เชียงราย เลขที่ 14/2553 ลงวันที่ 19 ม.ค.53 ซึ่งมีผู้ถูกออกหมายจับที่ยังหลบหนีชื่อ นายนิวัฒน์ บุญทา อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 233 หมู่ 6 ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.เชียงราย ถูกเจ้าทุกข์ คือ น.ส.รัตนาวดี เตมีรัตน์ อายุ 29 ปีชาว อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย แจ้งความเอาไว้ที่สำนักงานจัดหางาน จ.เชียงรายว่า ได้ถูกชายอ้างว่า ชื่อ จ.ส.ต.นิวัฒน์ พร้อมกับหญิงชื่อ “นายแม่” หรือ “เจ๊ณี” หลอกให้โอนเงินสดผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ไปให้จำนวน 20,000 หมื่นบาท โดยโอนไปให้บัญชีของ นายนิวัฒน์ อ้างว่า จะพาไปทำงานที่ประเทศกาตาร์ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ทำตามสัญญาและพากันหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่ศูนย์จึงออกติดตามหาตัว นายนิวัฒน์ ซึ่งจากการสืบสวน ทราบว่า ได้หลบหนีไปทำงานเป็นคนขายหรือเซลแมนขายเครื่องกรองน้ำให้กับเอกชนรายหนึ่งแถบ อ.เทิง และไปได้ภรรยาอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
เจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตามกระทั่งพบ นายนิวัฒน์ กำลังเดินขายสินค้าอยู่บนถนนเขตหมู่ 3 ต.สันทราบงาม จึงได้เข้าจับกุมตัวพร้อมแสดงหมายจับดังกล่าว จากนั้นควบคุมตัวส่ง สภ.เวียงชัย
สอบสวนเบื้องต้น นายนิวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมมือกับเจ๊ณี ในการไปหลอกลวง น.ส.รัตนาวดี จริงแต่ตัวเองไม่ใช่ตัวการใหญ่ เพราะ เจ๊ณี ได้ประสานผ่านภรรยามา และเพียงให้มีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของตนเท่านั้น
จากนั้นก็ไม่รู้เห็นเกี่ยวกับกระบวนการนี้อีกเลยเพียงแต่เคยได้ยินผ่านภรรยาว่ามีการหลอกลวงคนอื่นๆ ให้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารลักษณะนี้กับเหยื่ออีกหลายคน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากในปัจจุบัน พบว่า นายนิวัฒน์ ยังคงมีพฤติกรรมที่น่าสงสัยหลายอย่าง โดยมักจะอ้างตัวเองว่าเป็นตำรวจโดยใช้นามบัตรที่ระบุชื่อยศตัวเองว่าเป็นระดับจ่า พร้อมทั้งมีรูปตัวเองแต่งชุดตำรวจด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบทราบด้วยว่ามักจะมีการใช้นามบัตรดังกล่าวไปหลอกผู้คนให้เกิดความน่าเชื่อถือว่าตัวเองเป็นตำรวจ เพื่อง่ายต่อการหลอกลวง
สำหรับผู้ที่ถูกหลอกรายอื่นๆ มีทั้งถูกหลอกว่าจะพาไปทำงานที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตน์ คูเวต กาตาร์ ฯลฯ แต่บางรายไม่อยากมีปัญหามากและหลายคนเกรงกลัว เพราะนายนิวัฒน์ อ้างตัวเป็นตำรวจ ขณะที่บางรายกลัวเสียชื่อเสียงจึงตกเป็นเหยื่อและปล่อยให้ขบวนการนี้ลอยตัวต่อไป
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากสอบปากคำครั้งนี้แล้วจะได้ส่งหลักฐานและผู้ถูกออกหมายจับให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เวียงชัย ดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายผลไปถึงกลุ่มขบวนการที่เกี่ยวข้องกับนายนิวัฒน์ ต่อไป