จันทบุรี - จันทบุรีประกาศให้พื้นที่หมู่ 2 ตำบลในอำเภอขลุง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติคลื่นลมแรง หลังชาวประมงพื้นบ้านที่เลี้ยงปลากระชังถูกคลื่นใต้น้ำโถมเข้าใส่จนกระชังปลาพังเสียหายหลัง พบชาวประมงพื้นบ้าน 39 รายได้รับความเดือดร้อนและกระชังปลากว่า 150 กระชังสูญหาย ขณะที่ อบต.บางชัน และ ปภ.จันทบุรี ลงพื้นที่หาแนวทางการช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า หลังจากที่เกิดคลื่นใต้น้ำโถมเข้าใส่กระชังปลาในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา และมีชาวประมงพื้นบ้านที่เลี้ยงปลากระชัง จำนวน 39 ราย ได้รับความเดือดร้อน และกระชังปลาเสียหายกว่า 150 กระชังนั้น
ล่าสุด วันนี้ (13 มิ.ย.) นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้มีการประกาศให้พื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรีเป็นพื้นที่ภัยพิบัติคลื่นลมแรงแล้ว และได้สั่งการให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบางชัน และป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้มีการลงพื้นที่หาแนวทางในการช่วยเหลือกับชาวประมงพื้นบ้านที่เลี้ยงปลากระชังที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด
โดยวันนี้ นายสนั่น แก้วขาว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางชัน นางรวิวรรณ ยังคำ หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ชาวประมงพื้นบ้านที่เลี้ยงปลากระชัง จำนวน 39 ราย รวมทั้งกระชังปลาของชาวประมงพื้นบ้านที่เลี้ยงปลากะพงขาว และปลาเก๋าที่ถูกคลื่นใต้น้ำพัดจนไม่เหลืออะไรเลย ทางราชการจะมีการเข้ามาช่วยเหลือในเบื้องต้น คือ จ่ายเงินค่าชดเชยให้กับชาวประมงพื้นบ้านรายละ 15,000 บาท
พร้อมทั้งจะมีการประสานให้ทางประมงจังหวัดจันทบุรีเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของพันธุ์ ปลากะพงขาว และพันธุ์ปลาเก๋าให้กับชาวประมงพื้นบ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลบางชัน จำนวน 39 ราย ทั้งหมดได้นำไปเลี้ยงใหม่
ส่วนความเสียหายที่มีมากกว่า 10 ล้านบาท จากการเกิดคลื่นใต้น้ำเป็นภัยทางธรรมชาติที่ชาวประมงพื้นบ้านไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับพื้นที่ ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี การเกิดคลื่นใต้น้ำครั้งนี้นับว่าเป็นการเกิดภัยที่มีความรุนแรงมากที่สุด
นายประเสริฐ ริมศิริ ชาวประมงพื้นบ้านที่เลี้ยงปลากระชังที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองหมดกับภัยธรรมชาติในครั้งนี้เป็นอย่างมากหนี้สิ้นที่กู้ยืมมาจากธนาคารก็ไม่มีจะจ่าย ความรุนแรงจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้นับว่าเป็นภัยที่รุนแรงมากที่สุด ปลาที่กำลังจะจับขายได้ก็ต้องหลุดลอยไปกับคลื่นใต้น้ำที่โถมเข้าใส่จนไม่มีปลาหลงเหลือแม้แต่ตัวเดียวรวมทั้งกระชังปลาด้วยตรงนี้ต้องขอขอบคุณทางราชการที่เข้ามาช่วยเหลือ และเห็นถึงความเดือดร้อนของชาวประมงพื้นบ้านที่เลี้ยงปลากระชัง หมู่ที่ 2 ตำบลบางชันอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า หลังจากที่เกิดคลื่นใต้น้ำโถมเข้าใส่กระชังปลาในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา และมีชาวประมงพื้นบ้านที่เลี้ยงปลากระชัง จำนวน 39 ราย ได้รับความเดือดร้อน และกระชังปลาเสียหายกว่า 150 กระชังนั้น
ล่าสุด วันนี้ (13 มิ.ย.) นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้มีการประกาศให้พื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรีเป็นพื้นที่ภัยพิบัติคลื่นลมแรงแล้ว และได้สั่งการให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบางชัน และป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้มีการลงพื้นที่หาแนวทางในการช่วยเหลือกับชาวประมงพื้นบ้านที่เลี้ยงปลากระชังที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด
โดยวันนี้ นายสนั่น แก้วขาว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางชัน นางรวิวรรณ ยังคำ หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ชาวประมงพื้นบ้านที่เลี้ยงปลากระชัง จำนวน 39 ราย รวมทั้งกระชังปลาของชาวประมงพื้นบ้านที่เลี้ยงปลากะพงขาว และปลาเก๋าที่ถูกคลื่นใต้น้ำพัดจนไม่เหลืออะไรเลย ทางราชการจะมีการเข้ามาช่วยเหลือในเบื้องต้น คือ จ่ายเงินค่าชดเชยให้กับชาวประมงพื้นบ้านรายละ 15,000 บาท
พร้อมทั้งจะมีการประสานให้ทางประมงจังหวัดจันทบุรีเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของพันธุ์ ปลากะพงขาว และพันธุ์ปลาเก๋าให้กับชาวประมงพื้นบ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลบางชัน จำนวน 39 ราย ทั้งหมดได้นำไปเลี้ยงใหม่
ส่วนความเสียหายที่มีมากกว่า 10 ล้านบาท จากการเกิดคลื่นใต้น้ำเป็นภัยทางธรรมชาติที่ชาวประมงพื้นบ้านไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับพื้นที่ ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี การเกิดคลื่นใต้น้ำครั้งนี้นับว่าเป็นการเกิดภัยที่มีความรุนแรงมากที่สุด
นายประเสริฐ ริมศิริ ชาวประมงพื้นบ้านที่เลี้ยงปลากระชังที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองหมดกับภัยธรรมชาติในครั้งนี้เป็นอย่างมากหนี้สิ้นที่กู้ยืมมาจากธนาคารก็ไม่มีจะจ่าย ความรุนแรงจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้นับว่าเป็นภัยที่รุนแรงมากที่สุด ปลาที่กำลังจะจับขายได้ก็ต้องหลุดลอยไปกับคลื่นใต้น้ำที่โถมเข้าใส่จนไม่มีปลาหลงเหลือแม้แต่ตัวเดียวรวมทั้งกระชังปลาด้วยตรงนี้ต้องขอขอบคุณทางราชการที่เข้ามาช่วยเหลือ และเห็นถึงความเดือดร้อนของชาวประมงพื้นบ้านที่เลี้ยงปลากระชัง หมู่ที่ 2 ตำบลบางชันอีกด้วย
