ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สสปน.จัดกิจกรรมสัญจรที่เชียงใหม่ ตั้งเป้าผลักดันเชียงใหม่สู่ตลาดโลก “อรรคพล” เผย เชียงใหม่มีความพร้อมแต่ทุกฝ่ายต้องมาร่วมด้วยช่วยกันอย่างจริงจัง หากการพัฒนาทุกภาคส่วนสอดคล้อง สามารถเป็นศูนย์กลางการประชุมระดับภูมิภาคได้ พร้อมติงศูนย์ประชุมนานาชาติอย่าสนใจแต่เรื่องก่อสร้าง แต่ต้องเตรียมวางแผนการตลาดบริหารจัดการด้วย ชี้งานประชุมต้องมีการวางแผนล่วงหน้า หากไม่เริ่มโปรโมตหวั่นศูนย์ประชุมเสร็จแต่ไร้คน
วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่ห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ 1 โรงแรม เลอ เมอริเดียน จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ได้จัดกิจกรรมงาน สสปน.สัญจร : Believe in Thailand มั่นใจเมืองไทยพร้อม “ยกระดับอุตสาหกรรมการจัดประชุมและนิทรรศการไทยสู่เวทีโลก” ขึ้น โดยมี นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สสปน.และหม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ร่วมในพิธีเปิดงาน
การจัดงานดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ สสปน.ดำเนินการขึ้นเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการจัดประชุมและนิทรรศการของไทยให้ก้าวสู่ระดับนานาชาติ ผ่านการประชุมสัมมนาและจัดกิจกรรมต่างๆ โดยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่นั้น สสปน.ตั้งเป้าส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ของจังหวัดเชียงใหม่ทั้งในประเทศและต่างปนระเทศ รวมทั้งเน้นในเรื่องการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรมไมซ์ของจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สปปน.กล่าวถึงการจัดกิจกรรมที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ว่า ถือเป็นการสานต่อการผลักดันเชียงใหม่ให้เป็นนครแห่งไมซ์ (Mice City) โดยที่ผ่านมา สปปน.และจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการลงบันทึกความเข้าใจ เกี่ยวกับการพัฒนาเชียงใหม่ให้เป็นนครแห่งไมซ์
ทั้งนี้ ได้ให้ความสำคัญใน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การพัฒนาบุคลากร ซึ่งการสัมมนาในกิจกรรมสัญจรครั้งนี้ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องดังกล่าว 2.การขยายตลาด ซึ่งในขณะนี้ สสปน.มีนโยบายที่จะขยายตลาดในประเทศผ่านการจัดทำแคมเปญ D-Mice ที่จะส่งเสริมให้มีการจัดประชุมสัมมนาในประเทศให้มากขึ้น และ 3.การยกระดับตลาดเชียงใหม่เข้าสู่ระดับนานาชาติ
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า เชียงใหม่นั้นมีความพร้อมในหลายๆ ด้าน ทั้งการมีที่พักและโรงแรมจำนวนมาก การมีห้องประชุมที่สามารถรองรับการประชุมขนาดต่างๆ รวมทั้งการที่เชียงใหม่จะมีศูนย์จัดประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ และการที่รัฐบาลมีแผนที่จะดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงมายังจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะเมื่อในอนาคตกลุ่มประเทศในอาเซียนจะรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียน เชียงใหม่มีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางด้านการประชุมสัมมนาของภูมิภาคได้
อย่างไรก็ตาม การที่จะพัฒนาตลาดไมซ์ของเชียงใหม่ให้ประสบความสำเร็จ จะต้องนำความต้องการและข้อเสนอแนะ จากทั้งผู้ประกอบการและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการวางแผนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด สสปน.มีหน้าที่คิดและนำเสนอความต้องการของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถ้าภาครัฐเห็นพ้องต้องกันแล้วการดำเนินงานก็จะสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน
นายอรรคพล ยังได้กล่าวถึงโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติของจังหวัดเชียงใหม่ว่า อยากจะให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมองในภาพรวมด้วย เพราะในขณะนี้ยังดูเหมือนว่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องของการก่อสร้างเป็นหลัก แต่การที่จะทำการตลาดการประชุมสัมมนานั้นต้องมีการวางแผนล่วงหน้า ดังนั้น หากทราบว่าการก่อสร้างใกล้จะแล้วเสร็จก็ควรจะมีการวางแผนด้านการตลาดและการบริหารจัดการด้วย
ปัจจุบัน สสปน.พยายามที่จะประชาสัมพันธ์ตลอด ว่า ในอนาคตเชียงใหม่จะมีศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ แต่กลับไม่สามารถบอกรายละเอียดแก่ผู้ที่สนใจได้ว่าศูนย์ประชุมมีพื้นที่เท่าใด จะมีการจัดสัดส่วนการใช้งานอย่างไรบ้าง ทุกฝ่ายต้องไม่ลืมว่าการจัดการประชุมสัมมนานั้นไม่ใช่งานที่เมื่อมีการตกลงกันแล้วจะจัดได้ในทันที แต่จะต้องมีการวางแผนล่วงหน้า ดังนั้น หากยังไม่มีการเตรียมการด้านบริหารจัดการและการทำตลาด เมื่อศูนย์ประชุมแล้วเสร็จแต่ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่จะก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อศูนย์ประชุมเอง
นอกจากนี้ นายอรรคพล ยังกล่าวถึงการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ให้สอดคล้องกับแผนการผลักดันให้เชียงใหม่เป็นตลาดไมซ์ระดับนานาชาติด้วยว่า เมื่อครั้งที่เชียงใหม่ถูกเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในสามเมืองของประเทศไทยที่จะเสนอตัวจัดงาน World Expo สิ่งหนึ่งที่คณะกรรมการได้ให้คำแนะนำก็คือ เชียงใหม่ยังขาดระบบขนส่งมวลชนภายในตัวเมืองที่มีประสิทธิภาพ การที่สนามบินยังไม่สามารถรองรับเที่ยวบินจำนวนมากได้ และความไม่ชัดเจนเรื่องรถไฟความเร็วสูง ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด และใช้ระยะเวลาในการเดินทางมากแค่ไหน หรืออย่างที่ตนเคยตั้งคำถามว่า หากศูนย์ประชุมแล้วเสร็จ หากตนพักอยู่ที่โรงแรมในตัวเมืองจะเดินทางไปที่ศูนย์ประชุมได้อย่างไร แต่ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่จังหวัดและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันหาทางพัฒนา เพื่อให้เชียงใหม่มีความพร้อมในการขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติในอนาคต