นครปฐม- “อภิสิทธิ์” นำทีมลงหาเสียง เปิดตัว 6 ผู้สมัคร จังหวัดนครปฐม ชูนโยบายทำทันที หากประชาชนไว้วางใจ ขณะสาวใหญ่บุกร้องเรียนเหตุการณ์สลายการชุมนุม แต่ไม่ยอมให้ข้อมูลเอกสารใดๆ ช่วงปิดการหาเสียง โดยมีกลุ่มเสื้อแดงเปิดเครื่องขยายเสียงโจมตีห่างๆ ไร้เหตุบานปลาย
วันนี้ (20 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่วัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาพบกับผู้สมัครสมาชิก 6 คน ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต 5 ราย และ ส.ส.แบบปาร์ตี้ลิสต์ 1 ราย พร้อมเข้ากราบไหว้สักการะ หลวงพ่อวัดไร่ขิง ณ พระอุโบสถวัดไร่ขิงพระอารามหลวง ก่อนเดินทางไปลงพื้นที่หาเสียงให้กับ นายมารุต บุญมี ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 5 ที่โรงเรียนวัดไร่ขิง (สุนทรอุทิศ) ซึ่งอยู่ติดกันโดยมีผู้เข้าร่วมฟังการหาเสียงราว 500 คน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หน.พรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวหาเสียงกับประชาชน โดยได้พูดถึงการเน้นนโยบายด้านการศึกษา เรียนฟรี 15 ปี การจัดสรรระบบการศึกษา ครูตัวอย่าง การจัดระบบการสร้างการศึกษาให้กับเยาวชนที่ยังไม่มีสถานศึกษา การพัฒนาให้เบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุ ซึ่งทำตามนโนบายที่เคยได้หาเสียงและสามารรถทำได้ และการแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติด
ทั้งนี้ ได้งัดกลยุทธ์ว่า หากประชาชนเลือกตั้งก็จะมีการใช้นโยบายทำทันที หากได้รับเสียงข้างมาก และหากเลือกพรรคคู่แข่งเรื่องนโยบายต่างๆ อาจจะไม่ได้รับการสานต่อ เช่น เรื่องเบี้ยยังชีพ อาจจะไม่ได้รับเช่นเดิม ซึ่งเรื่องของการศึกษาได้เน้นไปถึงการนำเงินไปช่วยถึงครัวเรือน โดยเงินไปรับสิทธิในการตัดชุดนักเรียน รายละ 360 บาท ซึ่งเห็นว่ารัฐบาลที่บริหารมีการเอาจริงเรื่องนี้
ช่วงท้ายได้เปิดให้มีการซักถาม ซึ่งได้มีผู้ปกครองเป็นสาวใหญ่ อายุประมาณ 45 ปี ได้สวมเสื้อสีแดงสอบถามว่า ชุดนักเรียนปัจจุบันราคาสูงขึ้นถึง 400 บาท และหากจริงใจในการแก้ไขปัญหาควรให้มีการปรับราคาดู และขอให้นายกรัฐมนตรีรับปาก ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ ก็ได้แจ้งว่าเรื่องนี้สามารถปรับแก้ได้ตามสภาพ ไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่จู่ๆ ก็ได้มี นางมนัชยา สิริพงษ์ อายุ 44 ปี ใส่เสื้อสีม่วง อ้างตัวว่า เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่จ้องรอจังหวะได้ลุกขึ้นยืน และตะโกนเสียงดัง ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ชุด รปภ.ของ นายอภิสิทธิ์ ที่พยายามเข้าไปกัน เพื่อจะดึงตัวออกจากพื้นที่หาเสียง และตะโกนมาว่า “เราตกเป็นเหยื่อของการกระชับพื้นที่ เราทุกข์ทรมานมาตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.53 แล้วคุณรู้สึกอย่างไรกับประชาชนที่ล้มตาย และคนที่ได้รับบาดเจ็บ พวกเรามีหลักฐาน”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ นางมนัชยา ได้ชูเอกสารสำเนาใบแจ้งความของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นได้ตะโกนต่อว่า นายกฯไม่เคยรับผิดชอบ หรือเยียวยาอะไร นายกฯไม่รับผิดชอบเหยื่อที่ได้รับผลกระทบ ทั้งจากการปะทะ การยิงด้วยกระสุนยาง หรือแก๊สน้ำตา
เหตุการณ์เริ่มชุลมุนเมื่อคนที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ได้เริ่มแสดงความไม่พอใจ และส่งเสียงโห่ไล่ นายอภิสิทธิ์ จึงได้คว้าไมโครโฟนเชิญนางมนัชยา มานั่งพูดคุย และขอเอกสารต่างๆ แต่ นางมนัชยา ไม่ยอมมอบให้ ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ ได้แจ้งให้มาพบที่ทำงาน และพร้อมรับเรื่องนี้ไปดูแล ก่อนจะออกไปพบกับประชาชนที่มารอพบ ซึ่งหลายคนได้ร่วมถ่ายภาพกับนายอภิสิทธิ์ ก่อนจะเดินทางกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงก่อนที่มีคณะของนายอภิสิทธิ์ จะเดินทางมาถึงได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงราว 30-40 คน ได้ขับรถนำเครื่องเสียงพร้อมภาพของ เสธ.แดง มาจอดที่ลานจอดรถ พร้อมเปิดเครื่องขยายเสียงตะโกนขับไล่กลุ่มคนของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้นำกำลังชุดปราบจลาจลทั้งในและนอกเครื่องแบบหลายร้อยนายคอยรายงานสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้เข้ากำกับการสั่งการด้วยตัวเอง โดยไม่มีเหตุบานปลายใดๆ
