ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองทัพเรือไทย ฝึกร่วมกองทัพเรือสหรัฐฯ พัฒนาขีดความสามารถด้านการรบ ภายใต้รหัส CARAT 2011
วันนี้ (11 พ.ค.) พลเรือโท สุรชัย สังขพงศ์ เสนาธิการกองเรือยุทธการ ได้เดินทางมาเป็นผู้แทน พลเรือเอกกำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย พลเรือตรี Thomas F. Carney ผู้บัญชาการหน่วยส่งกำลังบำรุงกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ประจำภาคพื้นแปซิฟิกตะวันตก และผู้อำนวยการฝึกฝ่ายสหรัฐฯ ร่วมเปิดการฝึกผสมการัต 2011 ณ ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
พลเรือตรี ไชยยศ สุนทรนาค ผู้บัญชาการกองเรือฟรีเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยฝึก การัต 2011 ฝ่ายไทย กล่าวว่า การฝึกผสมการัต 2011 ในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 17 จัด ให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 11-20 พฤษภาคม 2554 รวม 10 วัน ซึ่งการฝึกผสมการัตเป็นการฝึกผสมร่วมระหว่างกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา กับกองทัพเรือประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ในแบบลักษณะทวิภาคี
สำหรับการฝึกผสม CARAT ระหว่างกองทัพเรือไทย กับกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา เริ่มฝึกครั้งแรกในปี พ.ศ.2538 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ และพัฒนาขีดความสามารถขององค์บุคคล ในการปฏิบัติการร่วมกันทางทหารในทุกระดับในสาขาปฏิบัติการต่างๆ อาทิ การฝึกภาคสนาม ภาคทะเล การฝึกปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในการใช้เส้นทางคมนาคมทางทะเล ซึ่งที่ผ่านมาผลของการฝึกนับเป็นประโยชน์ต่อกำลังพลที่เข้าร่วมการฝึกอย่างมาก
ส่วนกำลังที่เข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้ กองทัพเรือไทย และกองกำลังของสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก ได้ร่วมกันจัดตั้งเป็นหน่วยกองกำลังเฉพาะกิจผสม โดยกำลังฝ่ายไทย ประกอบด้วย เรือรบ 7 ลำ อากาศยาน 3 เครื่อง กำลังรบจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กำลังรบจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ชุดปฏิบัติการใต้น้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์จากกรมสรรพาวุธทหารเรือ
ส่วนกำลังฝ่ายสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย เรือรบ 4 ลำ อากาศยาน 5 เครื่อง ชุดเตรียมทุ่นระเบิด หน่วยเตรียมเป้า และชุดก่อสร้างเคลื่อนที่ รวมกำลังที่เข้าร่วมการฝึกของทั้งสองประเทศ จำนวน 3,500 นาย
พลเรือโท สุรชัย สังขพงศ์ เสนาธิการกองเรือยุทธการ กล่าวว่า กองทัพเรือไทย และกองทัพเรือสหรัฐ เป็นพันธมิตรทางทหารที่แนบแน่น และมีการฝึกร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีที่ผ่านมา กองทัพเรือไทย โดยหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ได้มีโอกาสปฏิบัติการทางเรือร่วมกัน กับกองทัพเรือสหรัฐฯในโซมาเลีย ดังนั้น การฝึกผสมการัตนอกจากจะเป็นการเพิ่มศักยภาพทางด้านยุทธการ และการเรียนรู้หลักนิยมทางเรือสมัยใหม่แก่กองทัพเรือไทยแล้ว ยังเป็นการสร้างประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ฝึก
โดยในปีนี้นอกจากจะมีการฝึกปฏิบัติการทางอากาศ โดยอากาศยานไร้คนขับ หรือ UAV ซึ่งเป็นยุทธวิธีทางทหารของฝ่ายสหรัฐฯ ที่มีความทันสมัยเป็นอย่างยิ่งแล้ว ยังมีการปฏิบัติการทางการแพทย์ภาคสนาม กับห้องฉุกเฉินเคลื่อนที่จากตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นผลงานวิจัยทางทหารของกองทัพเรือไทยที่น่าภาคภูมิใจอีกด้วย