เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ มาชุมนุมกันอยู่ในห้องสถานการณ์ (Situation Room) ของทำเนียบขาวเมื่อบ่ายวันอาทิตย์(1) โดยต่างทราบดีถึงภาวะกดดันในขณะนั้น และเป็นเวลากว่า 40 นาทีที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ตลอดจนผู้ช่วยอาวุโส ซึ่งมีทั้ง รองประธานาธิบดีโจ ไบเดน, รัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน, รัฐมนตรีกลาโหม รอเบิร์ต เกตส์ ต่างจับจ้องไปที่จอโทรทัศน์ ซึ่งถ่ายทอดสดปฏิบัติการล่าสังหารครั้งสำคัญจากอีกซีกโลก
ทีมทหารรบพิเศษจากหน่วย “ซีลส์” อันมีชื่อเสียงของกองทัพเรือสหรัฐฯได้รับคำสั่งจาก โอบามา ให้เดินทางรุกล้ำน่านฟ้าของปากีสถาน เพื่อโจมตีบ้านหลังหนึ่งซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นของใคร และต้องกลับออกมาอย่างปลอดภัยให้ได้ด้วย เป้าหมายในครั้งนี้คือศัตรูหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ อุซามะห์ บิน ลาดิน ทว่ายังไม่มีใครทราบด้วยซ้ำว่า เขาอยู่ที่นั่นจริงหรือไม่
ยุคสมัยนี้ ประธานาธิบดีสามารถนั่งชมปฏิบัติการทางทหารของตนเองแบบสดๆร้อนๆ ไม่ต่างจากการเล่นวีดีโอเกม แต่ทว่าไม่สามารถกำหนดทิศทาง หรือแม้กระทั่งติดต่อกับผู้บัญชาการที่รับผิดชอบหน้าที่ดังกล่าวได้ ดังนั้น เมื่อข่าวสารแรกๆ ปรากฏออกมาว่าเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งที่ออกปฏิบัติการประสบปัญหาทางเทคนิคและได้ตกลงสู่พื้นดิน อันเป็นสัญญาณแสดงว่าแผนการกำลังไม่ได้ดำเนินไปตามที่วางกันไว้ สถานการณ์จึงตึงเครียดยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม “แผน บี” ที่เตรียมการกันเอาไว้ได้ถูกนำออกมาปฏิบัติ ซึ่งก็คือ มีการเรียกเฮลิคอปเตอร์อีกลำหนึ่งเข้ามาเสริมแทน และคราวนี้ก็ไม่มีอะไรผิดพลาด
ไม่กี่นาทีต่อมา ก็มีเสียงใครบางคนตอบกลับมาว่า “เราสามารถระบุยืนยันตัว “เจอโรนิโม” (Geronimo) แล้ว”
Geronimo คือรหัสลับซึ่งสหรัฐฯใช้เรียก อุซามะห์ บิน ลาดิน แกนนำกลุ่มอัลกออิดะห์ และจากนั้นไม่กี่นาทีก็มีรายงานตามมาว่า Geronimo ถูกสังหารแล้ว
ต่อเมื่อเฮลิคอปเตอร์ลำสุดท้ายยกตัวขึ้นในอีกหลายนาทีต่อมา ประธานาธิบดีโอบามาจึงได้ทราบว่า หน่วยทหารที่ออกปฏิบัติการในคราวนี้ไม่มีใครบาดเจ็บล้มตายเลย
โอบามา ตัดสินใจเริ่มปฏิบัติการสังหาร บิน ลาดิน มาแล้วหลายวันก่อนหน้านี้ โดยเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง, ฝ่ายทหาร และนักการทูต เพื่อให้มารับฟังข้อเสนอที่ห้องสถานการณ์ เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดี(28)ที่ผ่านมา
ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรอง ระบุว่า พวกเขายังไม่ทราบแน่ชัดว่า บิน ลาดิน อยู่ในบ้านหลังนั้นหรือไม่ และความเป็นไปได้อยู่ระหว่าง 50-80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ประธานาธิบดีเดินไปรอบๆโต๊ะเพื่อขอความเห็นจากเจ้าหน้าที่ทุกคน พร้อมถามถึงสถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น โอกาสที่พลเรือนจะถูกสังหาร, การถูกจับเป็นเชลย, การเสียสัมพันธ์ทางการทูตกับปากีสถาน ไปจนถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดกับเฮลิคอปเตอร์
สิ่งที่โอบามา ได้รับจากเจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็คือ ข้อเสนอที่เป็นทางเลือกรวม 3 ประการด้วยกัน คือ 1. รอให้ได้ข่าวกรองที่แน่ชัดกว่านี้ 2. ส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิด และ 3. ส่งทหารลงไปปฏิบัติการภาคพื้นดิน
เสียงของเจ้าหน้าที่แบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายเท่าๆกัน จอห์น เบรแนน ที่ปรึกษาฝ่ายต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายของประธานาธิบดี รวมถึงหน่วยรบพิเศษ และ ลีออน พาเนตตา ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ(ซีไอเอ) ต่างสนับสนุนการโจมตีภาคพื้นดิน ขณะที่คนอื่นๆขอให้รอไปก่อน หรือไม่ก็หนุนวิธีทิ้งระเบิดโจมตี
โอบามา เดินออกจากห้องประชุมโดยไม่เผยการตัดสินใจให้ใครทราบ และเมื่อเวลา 8.00 น.ของวันศุกร์(29) ก่อนที่เขาจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปเยี่ยมผู้ประสบภัยทอร์นาโดที่รัฐแอละแบมา โอบามา เรียกผู้ช่วยอาวุโสทุกคนเข้าไปในห้องการทูต (Diplomatic Room) และประกาศส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าไปโจมตีบ้านต้องสงสัยทันที