เอเอฟพี - ลีออน พาเนตตา ผอ.ซีไอเอและบรรดาผู้นำโลกเมื่อวันจันทร์ (2) เตือนทั่วโลกเฝ้าระวังหลังเชื่อแน่ว่ากลุ่มก่อการร้ายจะลงมือแก้แค้นให้แก่ อุซามะห์ บิน ลาดิน ผู้บงการเหตุโจมตี 9/11 ที่ถูกสังหารโดยปฏิบัติจู่โจมในปากีสถานของหน่วยคอมมานโดสหรัฐฯ คาด อัยมาน อัล ซอวาฮิรี แกนนำหมายเลข 2 จะรับช่วงต่อและก้าวขึ้นเป็นชายผู้เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลกคนต่อไป
“แน่ใจได้เลยว่าพวกกลุ่มก่อการร้ายจะพยายามแก้แค้นให้กับเขาและเราจะต้องยังคงอยู่ในความระมัดระวังและเด็ดเดี่ยว” พาเนตต ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ กล่าว
อุซามะห์ บิน ลาดิน แกนนำอัลกออิดะห์ ถูกยิงเสียชีวิตภายในปากีสถาน ระหว่างปฏิบัติการจู่โจมด้วยเฮลิคอปเตอร์ของกองกำลังสหรัฐฯ สิ้นสุดการไล่ล่าผู้สั่งหารเหตุโจมตี 11 กันยายน 2001 อันยาวนานกว่ากว่าทศวรรษ
บรรดาผู้นำโลกต่างแสดงความยินดีกับข่าวการตายของบิน ลาดิน แต่ก็เตือนว่าความตั้งใจที่จะก่อหายนะของกลุ่มอัลกออิดะห์คงไม่หม่นหมองไปและมีความเป็นไปได้เกือบ100เปอร์เซ็นต์ว่าจะมีการโจมตีแก้แค้น ดังนั้นการเฝ้าระวังคือสิ่งที่สำคัญอย่างมากตราบเท่าที่เคยมีมา
บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า “ความยุติธรรมเกิดขึ้นแล้ว” ระหว่างที่เขาแถลงว่ากองกำลังพิเศษของสหรัฐฯที่ปฏิบัติการสังหารชายผู้เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลก ขณะที่อดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ก็ออกมาสสรเสริญว่าการตายของ บิน ลาดิน คือความสำเร็จครั้งสำคัญ
ส่วน นิโกลาส์ ซาร์โกซี ผู้นำฝรั่งเศสแสดงความยินดีกับสหรัฐฯ ต่อความพยายามไล่ล่า บินลาดิน อันยาวนานเกือบ 10 ปี นับตั้งแต่วินาศกรรม 9/11 "พวกก่อการร้ายต้องประสบความพ่ายแพ้ครั้งประวัติศาสตร์ แต่มันยังไม่ใช่จุดจบของอัลกออิดะห์
เช่นเดียวกับนางแองเจลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ที่แม้บอกว่าการตายของ บิน บาดินคือชัยชนะของกองกำลังรักษาสันติภาพ แต่ก็ชี้ว่ามันก็ไม่ได้หมายความถึงความพ่ายแพ้ของกลุ่มก่อการร้าย “เรายังคงต้องระมัดระวังอย่างที่สุด” เธอกล่าว
ด้าน นาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก็พูดคล้ายกันว่าการตายของบิน ลาดิน ไม่ใช่จุดจบของอัลกออิดะห์ และเตือนว่าอดีตแกนนำผู้ล่วงลับรายนี้ก็ยังคงเป็นผู้นำเชิงสัญลักษณ์ของเหล่านักรบหัวรุนแรง “มันไม่ได้หมายความว่าพวกอัลกออิดะห์ถูกทำลาย พวกเขามีความสามารถที่จะรวมตัวกันใหม่และเขายังคงเป็นแรงบันดาลใจแก่นักรบเหล่านั้น”
ความเห็นของ ราซัค เป็นไปในทิศทางเดียวกับสมาคมญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิตในเหตุวางระเบิดรถไฟในกรุงมาดริด ที่บอกเมื่อวันจันทร์ (2) ว่าปฏิบัติการสังหาร บิน ลาดิน ของหน่วยคอมมานโดสหรัฐฯ ทำให้แกนนำอัลกออิดะห์รายนี้กลายเป็นผู้เสียสละและจะไม่สามารถยุติปฏิบัติการก่อการร้ายได้
คาดหมายกันว่า อัยมาน อัล-ซอวาฮิรี แกนนำหมายเลข 2 ศัลยแพทย์ชาวอียิปต์ ผู้ถูกมองว่าเป็นบงการปฏิบัติการก่อการร้ายทั่วโลกตัวจริงจะก้าวขึ้นมาแทน บินลาดิน ในฐานะชายผู้เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลก
ซอวาฮิรี ก็เฉกเช่นเดียวกับ บิน ลาดิน ต้องหลบเร้นซ่อนตัวนับตั้งแต่ที่สหรัฐฯประกาศทำสงครามต่อต้านการก่อการร้าย ภายหลังเหตุวินาศกรรมในวันที่ 11 กันยายน 2001
แต่ขณะที่ สหายชาวซาอุดีอาระเบียของเขาถูกหน่วย “ซีลส์” หน่วยทหารปฏิบัติการพิเศษแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ จู่โจมปลิดชีพไปแล้วในช่วงคืนวันอาทิตย์ (1) ต่อกับก่อนเช้ามืดวันจันทร์(2) ซอวาฮิรียังดูเหมือนจะสามารถหลบหนีลอยนวล ด้วยทักษะทางด้านการจัดตั้งองค์การ, ความเจ้าเล่ห์หลักแหลม และการข่าวที่ว่ากันว่าเหนือกว่าบิน ลาดิน เสียอีก
ทั้งนี้ ข่าวการตายของ บิน ลาดิน ถูกตั้งข้อสงสัยจากโลกอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ (2) ทางสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นภาพภายในห้องนอนในบ้านพักของบิน ลาดิน จุดที่เขาถูกสังหารเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ในสภาพที่รกรุงรังมีรอยเลือดเป็นจุดๆ เฟอร์นิเจอร์ล้มระเนระนาด และพรมโชกไปด้วยเลือด
วิดีโอที่เผยแพร่ออกมาหนึ่งวันหลังการจู่โจมของหน่วยคอมมานโดสหรัฐฯ โดยสำนักข่าวเอบีซียังเผยให้เห็นคราบเลือดอยู่บนพื้นในห้องๆ หนึ่งของคฤหาสน์ใหญ่โต ที่ตั้งอยู่ชานเมืองหลวงปากีสถาน ขณะที่คอมพิวเตอร์หลายเครื่องก็ได้รับความเสียหาย หมอน ผ้าและข้าวของกระจัดกระจายอยู่บนเตียง
อนึ่ง ภาพที่เผยแพร่นำเป็นการออกอากาศครั้งแรกนับตั้งแต่หน่วยคอมมานโดสหรัฐฯ โรยตัวลงจากเฮลิคอปเตอร์เข้าจู่โจมคฤหาสน์สุดหรูของบิน ลาดิน ในเขตอับบอตาบัด ปากีสถาน ในวันอาทิตย์ (1) และสังหารเขาจนเสียชีวิต