น่าน - ตำรวจน่าน รวบได้ยกชุด แก๊งตกทอง พกสร้อยเกรด A ตระเวนหลอกจำนำร้ายทอง อ้างตามหาหลานสาวต้องการใช้เงิน เหยื่อเห็นใจรับจำนำให้ สุดท้ายตะไบพบเป็นทองปลอม ต้องวิ่งโร่แจ้งตำรวจ
วันนี้ (11 พ.ค.) พล.ต.ต.ฉลองชัย บุรีรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิชัย ทนันไชย ผกก.สภ.เมืองน่าน, พ.ต.ท.ณรงค์ เทียนหอม รองผู้กำกับฝ่ายป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองน่าน และ พ.ต.ต.ชาตรี หทยะวัฒน์ รองผกก.ฝ่ายสอบสวน สภ.เมืองน่าน ได้เข้าสอบสวน นายมงคล ปินวงศ์วาน อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม.3 ต.สันดอนแก้ว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง, นางน้ำผึ้ง แม้นมินทร์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 250/354 ม.1 ต.เขาสามยอม อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี และ นายปกรณ์ คมขำ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/127 ม.7 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านขายทอง ว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพก่อเหตุนำทองปลอมน้ำหนักสองบาทเข้าจำนำตามร้านค้าทองคำในเขตเทศบาลเมืองน่าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยตำรวจบ้านได้ออกเร่งติดตามจับกุมตัวทั้งสามคนได้ที่บริเวณบ้านฟ้าใหม่ หมู่ 9 ต.ผาสิงห์ อ.เมือง จ.น่าน และยังหลบหนีได้อีกหนึ่งราย เป็นหญิงสาว ยังไม่ทราบชื่อและรูปพรรณสัณฐาน
ซึ่งในเวลาต่อมาผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายทองทวีชัย และร้านขายทองเยาวราช เขตเทศบาลเมืองน่าน เข้าชี้ตัวผู้ต้องหา ที่ได้นำสร้อยคอทองคำปลอมน้ำหนักสองบาทมาจำนำ ได้เงินจากร้านขายทองเยาวราช เป็นเงินจำนวน 38,000 บาท และได้เงินจากร้านทองทวีชัย จำนวน 35,000 บาท รวมเป็นเงิน 73,000 บาท
นายธวัชชัย ยิ่งทวีสิทธิกุล เจ้าของร้านทองทวีชัย และเป็นผู้เสียหาย พร้อมภรรยา ที่เข้าชี้ตัวผู้ต้องหา ยืนยันว่า นางน้ำผึ้ง ได้เข้ามาจำนำสร้อยคอทองคำน้ำหนักสองบาท โดยอ้างว่ามาตามหาหลานสาวและจำเป็นต้องใช้เงินสด ด้วยความสงสารและเห็นว่า สร้อยคอทองคำมีตราฮั่วหลี ตราสัญลักษณ์ร้านทองชั้นนำ จึงตัดสินใจรับจำนำไว้ในราคา 35,000 บาท
ต่อมาเห็นว่า สร้อยทองคำดังกล่าวมีน้ำหนักผิดปกติ จึงให้ช่างทองที่ร้านตรวจสอบเนื้อทองด้วยวิธีการเป่าและตะไบ ซึ่งปรากฏว่า เป็นสร้อยเงินหุ้มด้วยเนื้อทองคำ และใช้ห่วงตะขอ ซึ่งมีสัญลักษณ์ ฮั่วหลี ซึ่งเป็นเนื้อทองคำจริงในการตบตาร้านทอง
จากการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งสามราย พบเพียงกระเป๋าเงิน เอกสารประจำตัว ของใช้ส่วนตัวและเงินสดจำนวนรวมประมาณ 9,000 บาท
และจากการสอบสวนทำให้ทราบว่า ผู้ต้องหามีทั้งหมดสี่ราย ซึ่งอีกรายที่หลบหนีไปได้แก่ นางยินดี อินเพ็ง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/251 ม.1 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ ซึ่งในเวลาต่อมา (16.00 น.) ตำรวจบ้านได้ติดตามจับกุมได้ที่ร้านขายเสื้อผ้าบ้านฟ้าใหม่ ห่างจากจุดที่จับกุม 3 คนแรกไปประมาณ 100 เมตร โดย นางยินดี ทำทีเข้าไปซื้อเสื้อผ้า ตรวจสอบพบเงิน 41,120 บาท และมีเงินที่ได้การนำทองปลอม จำนวน 38,000 รวมอยู่ด้วย
จากการสอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพ ว่า ได้ร่วมกันวางแผนนำทองปลอมเกรด A ที่ซื้อจากกรุงเทพฯ :7j’ตรวจสอบยากทั้งน้ำหนัก และเนื้อทอง หากไม่ผ่าเนื้อทองหรือตะไบให้ลึกลงไปจะไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นทองปลอม ตระเวนจำนำตามร้านทองต่างๆ แล้วนำเงินมาแบ่งกัน
เจ้าหน้าที่บันทึกเป็นหลักฐานพร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายพร้อมของกลางทองปลอมและเงินสด นำส่งดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ฉลองชัย บุรีรัตน์ ผบก.ภ.จว.น่าน กล่าวเตือนประชาชนและร้านทองต่างๆให้ระวังมิจฉาชีพที่ขณะนี้มีมาในหลายๆรูปแบบ ซึ่งอาจจะต้องเสียเวลาตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนเพื่อป้องกัน และหากพบเห็นหรือสงสัยว่าอาจจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพ ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมตรวจสอบได้ทันที