ศรีสะเกษ - ตลาดช่องสะงำ ชายแดนไทย-กัมพูชา ร้าง ขณะทหารเขมรระดมกำลังพร้อมอาวุธหนัก ปืนใหญ่ และ BM-21 เสริมชายแดนเขาพระวิหาร-ช่องสะงำ ตลอดแนวด้าน จ.ศรีสะเกษ เตรียมพร้อมเปิดฉากโจมตี ด้านทหารไทยจับตาความเคลื่อนไหวใกล้ชิด
ช่วงบ่ายวันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งได้ประกาศปิดด่านช่องสะงำเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.เป็นต้นมานั้น ปรากฏว่า ได้ส่งผลกระทบต่อบรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยที่เปิดร้านขายสินค้าบริเวณตลาดไทยกว่า 95 ครอบครัวอย่างมาก เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน ขาดรายได้ ซึ่งบรรดาพ่อค้า แม่ค้าส่วนมากได้พากันปิดร้านเอาไว้ และออกไปอาศัยบ้านเรือนของญาติพี่น้องอยู่ภายใน อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ คงเหลือเพียงชายฉกรรจ์ ประมาณ 20 คน คอยเฝ้าร้านค้าเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาลักทรัพย์สินภายในร้านค้า ซึ่งบรรยากาศโดยทั่วไปเงียบเหงามาก มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารพรานและ อปพร.ที่คอยรักษาความสงบเรียบร้อยอยู่เท่านั้น
แหล่งข่าวทางทหารที่ประจำอยู่แนวหน้าติดกับชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ทางฝ่ายกัมพูชาได้มีการนำเอาเครื่องยิงจรวดติดรถยนต์แบบบีเอ็ม-21 ประมาณ 5 คันปืน ปรส.จำนวนประมาณ 7 กระบอก ปืนใหญ่ ปรส.120 จำนวนประมาณ 6 กระบอก เข้ามาเสริมกำลังด้านพระวิหาร และบริเวณช่องสะงำ ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ
พร้อมทั้งมีรถบรรทุก 6 ล้อจำนวนประมาณ 3-4 คันนำกำลังทหารจากกองพลที่ 3 กัมพูชา ประมาณ 200 นาย มาเสริมกำลังตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย เริ่มตั้งแต่ อ.อัลลองเวง อ.ตระเปียงปราสาท จ.อุดรมีชัย ถึงบ้านสระแอม จ.พระวิหาร ที่อยู่ใกล้กับเขาพระวิหาร ประเทศกัมพูชา เพื่อเตรียมพร้อมปะทะกับทหารไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ อย่างเต็มที่
ขณะที่ทหารฝ่ายไทยได้มีการเฝ้าตรวจสอบการเคลื่อนไหวกำลังทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธหนักอย่างใกล้ชิดและพร้อมตอบโต้ทหารฝ่ายกัมพูชาทัน หากมีการรุกล้ำอธิปไตยเข้ามาในเขตแดนไทย
ช่วงบ่ายวันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งได้ประกาศปิดด่านช่องสะงำเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.เป็นต้นมานั้น ปรากฏว่า ได้ส่งผลกระทบต่อบรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยที่เปิดร้านขายสินค้าบริเวณตลาดไทยกว่า 95 ครอบครัวอย่างมาก เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน ขาดรายได้ ซึ่งบรรดาพ่อค้า แม่ค้าส่วนมากได้พากันปิดร้านเอาไว้ และออกไปอาศัยบ้านเรือนของญาติพี่น้องอยู่ภายใน อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ คงเหลือเพียงชายฉกรรจ์ ประมาณ 20 คน คอยเฝ้าร้านค้าเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาลักทรัพย์สินภายในร้านค้า ซึ่งบรรยากาศโดยทั่วไปเงียบเหงามาก มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารพรานและ อปพร.ที่คอยรักษาความสงบเรียบร้อยอยู่เท่านั้น
แหล่งข่าวทางทหารที่ประจำอยู่แนวหน้าติดกับชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ทางฝ่ายกัมพูชาได้มีการนำเอาเครื่องยิงจรวดติดรถยนต์แบบบีเอ็ม-21 ประมาณ 5 คันปืน ปรส.จำนวนประมาณ 7 กระบอก ปืนใหญ่ ปรส.120 จำนวนประมาณ 6 กระบอก เข้ามาเสริมกำลังด้านพระวิหาร และบริเวณช่องสะงำ ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ
พร้อมทั้งมีรถบรรทุก 6 ล้อจำนวนประมาณ 3-4 คันนำกำลังทหารจากกองพลที่ 3 กัมพูชา ประมาณ 200 นาย มาเสริมกำลังตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย เริ่มตั้งแต่ อ.อัลลองเวง อ.ตระเปียงปราสาท จ.อุดรมีชัย ถึงบ้านสระแอม จ.พระวิหาร ที่อยู่ใกล้กับเขาพระวิหาร ประเทศกัมพูชา เพื่อเตรียมพร้อมปะทะกับทหารไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ อย่างเต็มที่
ขณะที่ทหารฝ่ายไทยได้มีการเฝ้าตรวจสอบการเคลื่อนไหวกำลังทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธหนักอย่างใกล้ชิดและพร้อมตอบโต้ทหารฝ่ายกัมพูชาทัน หากมีการรุกล้ำอธิปไตยเข้ามาในเขตแดนไทย